วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

306

ภายใต้ความรุนแรงแห่งโครงสร้าง
ย่อมเกิดความอ้างว้างไม่ห่างหาย
ย่อมก่อความกดดันอันมากมาย
ย่อมทำร้ายองค์รวมของสังคม

วัฒนธรรมความรุนแรงยังแต่งแต้ม
คอยสอดแซมพฤติกรรมซ้ำเพาะบ่ม
ต่อปัจเจกจะประนอมและจ่อมจม
ติดในหล่มตัวตนพ้นประมาณ

ต่อสังคมจะคับข้องด้วยหมองหม่น
เพราะเกลื่อนกล่นด้วยปัญหามหาศาล
เกิดอึดอัดขัดประโยชน์โทษบันดาล
ความต้องการแตกต่างจนหมางเมิน

สันติภาพจากสงครามคือความเขลา
คือความเศร้าหลังรบสงบเผิน
ฝ่ายชนะลำพองจองหองเพลิน
ฝ่ายแพ้เกินกลืนกล้ำระกำใจ

สันติธรรมจึงใช่เพียงสันติภาพ
ใช่สงบหลังเลือดอาบเพื่อรบใหม่
สันติธรรมใช่(ยุทธ)วิธีเพื่อมีชัย
สันติธรรมคือหทัยอันใสงาม

สันติธรรมคือฐานธรรมนำอหิงส์
คือความนิ่งคือความกล้าเดินฝ่าข้าม
คือความรักการุณราวแก้ววาววาม
ใช่ความเกลียดเหยียดหยามตามเกมผจญ

สันติธรรมนำให้เราเข้าใจมนุษย์
ให้เราหยุดประทุษร้ายทุกแห่งหน
โดยเริ่มหยุดความรุนแรงแห่งสกล
ณ จุดแรกที่กมลของตัวเรา

ถ้าจะสู้ก็สู้แต่แค่กิเลส
ซึ่งก่อเหตุลุกลามจากความเขลา
กิเลสนี้มีทั่วไปใช่แต่เรา
คิดบรรเทากิเลสนี้ย่อมมีทาง

อหิงสาคือทางอันสร้างสรรค์
คือหลักธรรมอัศจรรย์ซึ่งสรรค์สร้าง
คือขันติ โสรัจจะและละวาง
การก้าวย่างด้วยสงบจบเบียดเบียน....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น