วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

395

พระมหากษัตริย์ ตรัสไว้ ให้ได้ตรอง
เราจะครอง แผ่นดิน โดยธรรมฯ นั้น
เพื่อประโยชน์ ของผองไทย ได้ทั่วกัน
ชั่วลูกหลาน สำราญ แต่นานมา

ที่ไหนทุกข์ เสด็จไป ได้ป้องปก
เหล่าพสก นิกร ทุกหย่อมหญ้า
ต่างพร้อมใจ ถวายสัตย์ ปฏิญญา
จะเทิดองค์ กษัตรา กว่าสิ้นลม

ผู้อาสา ผ่านเข้ามา รับใช้ชาติ
น้อมโอวาท ท่านมาใช้ ให้เหมาะสม
ปกครองบ้าน บริหารเมือง เรืองอุดม
ราษฎร์นิยม ก็สุขสันต์ ทั่วกันเอย

394

ประวัติศาสตร์ อาจมีลาดชัน ผ่านผันทุกรอยต่อ
หมุนเป็นกงล้อ ถักทอเป็นเรื่อง บ้านเมืองมีหลักฐาน
แสงสุริยะ จะนฤมิต ทุกทิศบริวาร
แสงรัตติกาล ขานขับพัสถาน ฟ้องผ่านทุกภูมิตรัย

หลักการปกครอง ของแผ่นดินใหญ่ ใจเอกราช
ทุกข้อพิพาท คลาดทุกพิภพ จบทุกสมัย
หากจะวิบัติ ต้องซัด ... ที่วิบาก กระชากทุกหัวใจ
ไทยไม่รักไทย ไทยจึงเป็น "ทาส" อำนาจสห-มาร

หลักอุปโลกน์ โลกอิสระ ประชาทุกภาคส่วน
ควรหรือไม่ควร ดีหรือไม่ดี ต้องมีความกล้าหาญ
รวมใจเป็นหนึ่ง ขึงต้องรู้จบ สยบทุกตำนาน
เปลี่ยนจากนิทาน สานให้เป็นจริง ตรงดิ่งเข้าเส้นชัย

ผู้ใดมีอำนาจ แต่ขาดคุณธรรม คือผู้นำบนปากเหว
เทียนที่โชนเปลว หลอมเหลวไปช้าช้า เพราะน้ำตาเทียนยังไหล
ไหลจนหมดแท่ง แรงปลายเริ่มแผ่ว จบแล้วซึ่งเปลวไฟ
จะหวังอำนาจใด หยุดยั้งความตายนั้น นั่น.....คือนิทาน !!!

393

มือ "เชือด" ไก่ ใหญ่เขื่อง เรื่องปลิ้นปล้อน
ย่อมกะล่อน ซ่อนเงื่อนติด ผิดปกติ
เล่ห์ลวงล่อ ฉ้อฉน ขั้นชำนิ
อุตริ-มนุสธรรม หนอ ... กรรมการ

ใช้กระสอบ ครอบไก่ ไว้ในเล้า
กลัวไม่เฉา เผาสุม...สนุกสนาน
ไก่บางตัว ร้อนตาย จึงวายปราณ
ไก่รอดกร้าน ชาญฉลาด มองขาดมุม

อยู่นิ่งสงบ เพื่อสยบ ความเคลื่อนไหว
ทำสุ่มไก่ ไม่ให้ขยับ กลับสุขุม
มือ "เชือด" ไก่ ตายใจ มาเปิดสุ่ม
ไก่ตะลุม ....มะรุมมะตุ้ม ...ตะลุมรัว

แปลกแต่จริง !! มือเชือดดิ้น สิ้นมาดโฉด
ร้องครวญโอด โดดจับสุ่ม มาคลุมหัว
คน "เคย" ใหญ่ ... พ่ายไร้ ... ไก่ "ไม่" กลัว
เจ็บร้อนตัว ... อยู่ในสุ่ม ... กลุ้มและอาย

392

ที่วุ่นวาย วายวุ่น คุณคุณรู้
รัฐขึ้นสู่ อำนาจได้ เพราะใครหาม
ประชาชน มองเห็น เป็นใครทำ
จะหาความ สามัคคี ได้ที่ใด

สุขสงบ สันติ นั้นมิยาก
นายกมาร์ค แก้ผิด คิดทำใหม่
ชาติจะอยู่ รอดได้เพราะ ประชาธิปไตย
พี่น้องไทย เมื่อยอมรับ ปรับเข้าหากัน

เกิดมาจาก คนผิด คิดหรือว่า
ชาวประชา จะร่วม สมานฉันท์
เฝ้าปิดหู ปิดตา ประชาทัณฑ์
คงสักวัน ระเบิด เกิดจราจล

ไม่เคยมี แดงเหลืองขาว แต่เก่าก่อน
เพราะถูกบ่อน ถูกต้อน ซ้อนสับสน
แก้ปัญหา ที่ปัญหา ปัญญาชน
พาชาติพ้น ภิบัติภัย ได้แน่นอน

391

ปรส. เขายายเที่ยง เบี่ยงบ่ายหนี
สนธิมี คำร้อง ก็ป้องเขา
หากพัวพัน ปชป. ขอบรรเทา
กับคนเก่า ปปง. ล่อรุนแรง
การฝื้นฝอย หาตะเข็บ มันเจ็บลึก
ความรู้สึก รากหญ้า น่าหยะแหยง
ยุติธรรม หาไม่ได้ ใช้ตะแบง
การกลั่นแกล้ง แบ่งฝ่าย ให้แตกกัน...

390

ต้นไม้พิษ ติดผลไบ ก็ให้พิษ
ไม่มีผิด คมช. ก่อรัฐประหาร
เริ่มต้นผิด ติดต่อ ที่ก่อการ
ล้มรัฐบาล ประชา ธิปไตย
นับเริ่มต้น เสียหาย ทำลายชาติ
ขาดสามารถ แข่งข้น โลกทันสมัย
สร้างกฎหมาย องค์กรกลาง อย่างตั้งใจ
สืบทอดใช้ อำนาจ อำมาตยา
ปปช. กกต. ต่อบางศาล
กระบวนการ จัดตั้ง สั่งได้หนา
แบ่งชนชั้น ชัดเจน เห็นกับตา
ถูกพวกข้า ถ้าเอ็งผิด คิดได้ไง
ความยุติธรรม เมืองไทย เมื่อไม่มี
พระ เณร ชี ไม่มี่ศิล ถูกหมิ่นไหม
มีอำนาจ ขาดธรรม จำใส่ใจ
ไม่ว่าใคร ไร้ธรรม กรรมตามทัน
ปปช. ก่อกรรม ทำอีกข้าง
หาข้ออ้าง กล่าวหา มันอาถรรพ์
พวกตัวผิด ปิดไว้ ไม่ทำกัน
ปล่อยเลยวัน หมดเวลา อายุความ....

389

สองระบบ พบเห็น เล่นไปเถิด
มันจะเกิด กลียุค ปลุกเรียกหา
ของผู้มี อำนาจ อำมาตยา
กดรากหญ้า ท้าทาย คล้ายทาสมัน
สักวันหนึ่ง ถึงมือเปล่า เขาก็รู้
ลุกขึ้นสู้ กับอธรรม ถูกหยามหยัน
ให้รู้เห็น เป็นไง ก็เป็นกัน
ถึงวันนั้น ท่านอำมาตย์ อาจเสียใจ....

388

ณ.บัดนี้ เสมือนมี สองระบอบ
คือนอกกรอบ และในกรอบ สองมาตรฐาน
เมื่อโลกเรา ไร้พรมแดน แสนหลักการ
รัฐบาล ติดขอบเขต เหตุผลเพี้ยน

อนุรักษ์ นิยม ผสมทุน
จึงว้าวุ่น กับอำมาตย์ ลืมบทเรียน
ครั้งสังคม นิยม อ่อนๆ ต้อนวนเวียน
มิอาจเขียน ประวัติศาสตร์ ให้ซ้ำรอย

ไม่คิดกล้า รู้คุณค่า ประชาธิปไตย
จึงหลงไหล ในฝ่าครอบ ชอบใจพลอย
เป็นกบใหญ่ ในกะลา พารอคอย
แม้นปลดปล่อย ไปไม่เป็น เช่นห้อยโหน

คิดนอกกรอบ จึงว่าผิด ติดกฏหมาย
กฏทั้งหลาย ร่างกำหนด ให้เล่นโขน
มวลชนสร้าง คนแปลงร่าง เยี่ยงอย่างโจร
จึงจับโยน กติกา ประชาธิปไตย

387

มัวปิดหู แล้วหลับตา อ้าปากค้าง
รู้เสียบ้าง โลกเขาไป ไกลมากแล้ว
อยู่อย่างหลง คงเพลินเสียง วังเวงแว่ว
รักนายแม้ว หริอนายมาร์ค ฝากให้คิด

รักตัวตน คนที่ต้อง ร้อนหนาวเย็น
คนที่เป็น อารยะชน แดนศักดิ์สิทธิ์
ที่รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ สุดชีวิต
ไมตรีจิต ด้วยศักดิ์ศรี เสรีธรรม

386

เสียงเรียกจากเรือนจำ .... พิราบแดง

ฉันเคยมีความสุข
ฉันเคยมีความฝัน
ฉันเคยอยู่อย่างสงบในหมู่พิราบต่างสี
แต่เมื่อวันหนึ่งที่ฉันตื่นขึ้นมา
ฉันพบว่ามีตาข่ายใหญ่ได้โอบล้อมพวกฉันเอาไว้
ฉันและเพื่อนๆเริ่มหาทางต่อสู้
พวกเราดิ้นรน กัดตาข่ายนี้เพื่อแสวงหาอิสระเสรีอย่างเคย
แ้ล้วฉันก็เห็นมือนายพราน
เปิดตาข่ายขึ้นแล้วค่อยค่อยกวาดต้อน พิราบกลุ่มหนึ่งออกไป
การต่อสู้ดิ้นรนของเพื่อนๆพิราบกลุ่มนั้นจึงสงบลง
ฉันสังเกตุว่า พวกที่หลงเหลืออยู่ล้วนแต่มีปีกสี ...แดง
ฉันและเพื่อนที่เหลืออยู่ จึงเพิ่มกำลังต่อสู้ให้มากขึ้น และมากขึ้น
แต่แล้ว.... สิ่งที่น่าสะเทือนใจก็ได้เกิดขึ้น
เหล่าพิราบที่ได้ออกจากตาข่ายไปนั้น
กลับหันมาต่อว่าพวกฉันที่ยังต่อสู้ดิ้นรน
ฉันเฝ้ามองพวกเขาด้วยความไม่เข้าใจอย่างยิ่ง

....... ทำไมพวกนั้นถึงยอมเป็นทาสนายพรานได้

ฉันเฝ้ามองพวกเขาด้วยความโกรธแค้นอยู่ทุกวัน
จนวันหนึ่ง...
เมื่อฉันเริ่มคิดให้อภัยพวกเขา
มันทำให้ดวงตาฉันมีพลังมากขึ้น
ฉันมองพวกเขาใหม่ ด้วยจิตใจที่เมตตา
ฉันมองพวกเขา .... ฉันมองพวกเขา
ฉันมองพวกเขา .... ฉันมองพวกเขา
..
..
ฉันอยากบอกพวกเขาเหลือเกินว่า...
พวกเขาถูกกวาดต้อนออกจากตาข่ายไปแล้ว..........แต่
ยังถูกนำไปรวมอยู่ในสุ่มที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น...

จะเห็นได้ด้วยใจ......
...............แห่งเสรีภาพ

หวังว่าพวกเพื่อนฉันจะรู้ตัว............


ด้วยรัก....

....พิราบแดง...

385

คงได้คิด กันบ้างนะ ประชาไทย
แย้งกันไป ฉุดคืนมา ทำไมมี
รัฐธรรมนูญ ใช้กันมา นานหลายปี
ฉบับใหนดี ที่ใหนชั่ว รู้ตัวตน

เริ่มต้นใหม่ ในวันนี้ มีมาตรฐาน
ใหนเผด็จการ ประชาร่าง ต่างเห็นผล
อย่าถูกครอบ ในกะลา พามืดมน
อิทธิพล แห่งโลกา ภิวัฒน์ ไทย

384

หยุดหรือก่อ ต่อหรือตัด ปัดหรือรวบ
ยกหรือยวบ ขวบหรือเดือน ล้วนเคลื่อนหาย
จริงในเท็จ เท็จในจริง ยิ่งอันตราย
ปลายจุดหมาย เหลืออะไร ให้ชื่นชม

จะหวังพึ่ง ผู้ใด ให้มาคุ้ม
ต่างกลุ้มรุม ทำร้าย ให้ขื่นขม
คงมีแต่ ตนพึ่งตน พ้นระทม
เพียงสะสม ชมดื่มซับ กับความดี

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

383

เมืองระคน ปนหลาก มากปัญหา
ค่าเงินตรา ลดหาย ไปกว่าเก่า
เงินหยิบมือ น้อยนิด ก็คิดเอา
อย่างไรเล่า เฝ้าจะเติม เพิ่มราคา

ทุกวันต้อง แข่งขัน กันไม่หยุด
ใครสะดุด พร้อมข้ามไป ไม่รอช้า
บ้างหยิบฉวย รวยร่ำ บนน้ำตา
ของประชา ตาดำดำ ที่ทำกิน

หากเหนื่อยนัก พักผ่อน ก่อนจะสาย
แอบอิงกาย ในร่มเงา เจ้าของถิ่น
เสริมกำลัง ใจให้แกร่ง เพื่อแรงบิน
ก่อนจะสิ้น ใจไป ต้องได้ดี

382

นี่หรือ ”เหมือง” กลางกรุงที่มุ่งหา
แท้แค่ป่าคอนกรีตที่ ”รีดไถ”
“เงินแลกเหงื่อ” ไม่เหลือ “พอยาไส้”
ค่าน้ำ- ไฟ , น้ำมัน , “ขึ้นราคา”

รัฐบาล ”แอบคูณสอง” ค่าครองชีพ
“แจก” เหมือน ”บีบ” รีบ “กู้” ชูคอหรา
นโยบาย “ขายฝัน” ลั่นวาจา..
ฟ้าแทบผ่า...”ประชา-เลิกนิยม”

ชนและชาติไม่ใช่ “หนูทดลอง”
ก่อน ”ลองของ” จงไตร่ตรองให้เหมาะสม
“ผู้ใช้แรง..” กลุ่มใหญ่ในสังคม
ถูก ”โคลนตม” ข่มไว้ให้จม ”เลน”

ค่าแรงงาน ”ขั้นต่ำ” ค่ำ-เช้า-กะ
พ่วงระยะ ”ควบกะ” ไม่ละเว้น
วันไหน ”ป่วย” ซวยหนักต้อง ”พักเวร”
ใครจะเห็น ”ทุกข์เข็ญเท่า” เรารู้ดี

“เบี้ยหัวแตก” แทรกมาสารพัด
ยิ่งอัตคัดยัดเยียด “เบียด” ภาษี
เดินมองแล้ว- มองอีก “ซื้อ..ไม่ซื้อดี” !?!
หยิบอันนี้ ชี้อันนั้น ”เทียบราคา”

เป็นคนดีที่”ขยัน” มาตลอด
แต่มา ”จอด” ที่ไม่มี ”การศึกษา”
เคย ”สับสน” หันหลังกลับสูท้องนา
“หน้าแล้งหน้า” จะทำมา – หากินใด ?

คน ”มีกิน” , ” มีใช้” , มิใช่น้อย
ยังล่าถอย ”ร่อยหรอ” ไม่พอใช้
อยาก ”พอเพียง” เถียงต่อ “ไม่พอใจ”
รับว่าใช่ ! ... ใครเยาะเย้ย “เคย-พอกิน”

“รวยล้นฟ้า” ของแท้ไม่กระทบ
สุขสงบ “บนพานทอง” กองทรัพย์สิน
นักการเมืองบางคนเริ่มจาก “ดิน”
แต่ลืมสิ้น ”หมิ่น” คนจนแถม ”ปล้น” ใจ

ท่านมิต้อง ”ยกย่อง” เราให้เกินเหตุ
เป็นพิเศษ “เพียงวันนี้” เรารู้ ”ไต๋”
วันที่ 1 - พฤษภา”วัน - แรงงานไทย”
นั้นไม่ใช่ !! “วันคนยาก” เดินขบวน

แม้ยากไร้แต่ไม่เคยลืม“รากเหง้า”
มี ”เทือกเถา-เหล่ากอ” รอ ”ชื่นม่วน”
หาก “เมืองกรุง” ยุ่งเหยิงจน ”เริงรวน”
กลับไป “ตาย” - “ที่เรือกสวน” ไร่นาเรา....

381

เมื่อวันท้องฟ้าเหลือง ชาวเมืองจะหลงงมงาย
สรรพสิ่งต่างๆที่มันเคยดำเนินมาจะเปลี่ยนไป
เมื่อเริ่มต้นวันแห่งความน่ากลัว
พระเอกขี่ม้าขาว ที่เคยเคียงคู่กับ ความยากจน
กลับมาปล้นไปด้วยความริษยา
ดาวเดือนเคลื่อนคล้อย
พระจันทร์จะแดงก่ำ
ดวงตาคู่นั้นยังมองอยู่ด้วยความสะใจ ปนเวทนา
พิษร้ายจะปกคลุมทั่วทุกหย่อมหญ้า
กัมปนาทของเสียงอาวุธ จะดังต่อเนื่องไปอีกหลายปี
คนดีจะสิ้นสูญ ผู้คนไร้ทางออก
ร่ำร้อง เพื่อให้เขากลับมา
วันอุกาจะยิ่งใหญ่ ได้แค่ชั่วยาม
เมื่อเวลาสิ้นสลายมาถึง
ผึ้งแตกรังยังดูน้อยเกินไป
การไล่ล่าจะบังเกิด ความทุกข์จะทวีเพิ่มมากขึ้น
ประชาชนเริ่มเห็นความจริง
แต่เมื่อถึงเวลานั้นมาถึง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ฝูงตั๊กแตนจำนวนมาก จะเริ่มทำลายไร่นา
เสียงร่ำร้องหาผู้นำจะยิ่งโหยหวน
ระวังผู้ฉวยโอกาส
แล้วความสูญเสียจะมาถึง
จงรอคอย ด้วยความระมัดระวัง

380

ควรทำ ไรกันบ้าง อย่าชวนค้าง ชวนทำไป
ควรร่วม มือร่วมใจ สร้างบ้านใหม่ ช่วยลงแรง

ควรละ ความเกลียดโกรธ ละเว้นโทษ ทั้งเหลืองแดง
ควรเลิก คิดกินแหนง เรื่องครางแครง ควรกล้ำกลืน

ควรแล้ว ที่จะยุบ สภาฟุบ ชุบกลับคืน
ควรไหม ที่จะฝืน จงหยิบยื่น คืนสิทธิ์ชน

ควรเป็น หน้าที่ของ เราทั้งปอง ทุกแห่งหน
ควรได้ เริ่มตั้งต้น ได้หลุดพ้น ความอึมครึม

379

การควรความถูกต้อง....................ดีงาม
หนุนส่งเสริมทำตาม.....................ยึดใช้
ปฎิบัติทุกเมื่อยาม........................เป็นนิจ- ศีลนา
สนับสนุนให้...............................แผ่กว้างนิยมกัน

การควรความถูกต้อง....................เหมาะสม
เป็นสิ่งน่าชื่นชม..........................ยิ่งแล้ว
สังคมจะรื่นรมย์...........................อยู่ร่วม
คุณค่าอันผ่องแผ้ว.......................สื่อสะท้อนแลเห็น

การควรความถูกต้อง....................สำคัญ
โดยถูกต้องกระทำ.......................เพริศแพร้ว
สู่ทางออกรังสรรค์.......................สรรเลือก
สันติสุขเกิดแล้ว..........................สถิตย์สล้างถาวร

378

กรรมกรเมื่อยล้า.................จำทน
กรรมที่เกิดมาจน.................ต่ำต้อย
กรรมที่เลือกจำนน...............กดขี่
กรรมที่ค่าแรงน้อย...............ทับท้นกรรมทวี

กรรมเอ๋ยกรรมกร
มีที่อยู่ที่นอนพอซุกหัว
ใช้ชีวิตพอเพียงเลี้ยงครอบครัว
ประพฤติตัวใต้กฎหมายนายสั่งมา

ทั้งแบกหามสามล้อทั้งก่อสร้าง
กินอยู่อย่างขัดสนกันทั่วหน้า
ขายหยาดเหงื่อแรงกายแลกเงินตรา
เกิดขึ้นมาเหมือนมดงานสร้างบ้านเอย

377

กรรมเอ๋ยกรรมกร
แสนร้าวรอนระทมใจ
กรรมนี้กรรมของใคร
ต้องมาใชกรรมแทนคน

หยาดเหงื่อที่ไหลหลั่ง
ก้มหน้ายังหลังตากฝน
ยอมสู้และอดทน
เรามันจนทนต่อไป

ความรู้แสนต่ำต้อย
มองลูกน้อยที่เดินหาย
อาทรและห่วงใย
ความวุ่นวายในบ้านเมือง

ถึงจนแต่ใจนี้
ไม่เคยมีความขุ่นเคือง
เป็นหนึ่งในฟันเฟือง
ที่หมุนเนื่องเฟืองกรรมกร

ขอเป็นแรงหนุนให้
กำลังใจและขอพร
อย่าท้ออย่าอาทร
อย่าร้าวรอนแบ่งแยกกัน

ความฝันคือชาติเรา
อย่าหลงเงาความแปรผัน
พวกไหนไม่สำคัญ
เราร่วมกันสร้างชาติไทย


กรรมกรจงต่อสู้.........................ด้วยใจ
หยาดเหงื่อเราสร้างไทย..............เด่นล้ำ
เหนื่อยยากลำบากใจ..................ไม่บ่น นาพ่อ
เราอยู่เป็นฐานค้ำ........................เพื่อให้ไทยเจริญ

376


๏ ploythana กรอบห้า 'พอเพียง'
หากว่า ฟ้าลำเอียง เกิดได้
วันใด ที่หมดสียง หมดสิทธิ์
วันสับสนนี้ไซร้ อาจได้เห็นกัน ๚ะ๛


๏ กรอบห้าเลขอาถรรพ์ รู้ไหมนั่น อาถรรพ์ห้า
ห้านิ้วมือซ้ายขวา อาถรรพ์ห้า สร้าง-ทำลาย

๏ ห้านิ้วมือผู้สร้าง หยาบกระด้าง ช่างเลวร้าย
ห้านิ้วผู้กรีดกราย นวลเนียนใส ไร้มลทิน

๏ มือสร้างมือทำลาย นาที่ขาย กลายเป็นถิ่น-
ที่อยู่ผู้มีกิน บนที่ดิน รโหฐาน

๏ ปัจจัยสี่อย่างนั้น พืชพันธุ์ ธัญญาหาร
ท้องถิ่นที่กันดาร ภักษาหาร หายากนา

๏ หมิ่นเถอะหมิ่นให้หนำ กสิกรรม คนรากหญ้า
อารรพ์หมายเลขห้า แล้วอย่าว่า ฟ้าลงทัณฑ์ ๚ะ๛

375

ทุ่งนา .. หายไปไหน ?
มองเหม่อไป หุ่นไล่กา ยืนหน้าเศร้า
เห็นนกกา รุมทึ้ง จิกตีเอา
ไม่เห็นกลัว เหมือนเก่า ยายเล่าเลย...

ทุ่งนา .. หายไปไหน ?
"ยายจ๋ายาย ... โปรดด้วย ... ช่วยเฉลย.."
หนูไม่เห็น ต้นกล้า ปักเหมือนเคย
...............................................
“แม่หนูเอ๋ย ... ฟังยาย ... อย่าตกใจ”

ทุ่งนา ... หายไปไหน ?
ถ้าตายาย หยุดทำนา จะผิดไหม .. ?
หลังชี้ฟ้า หน้าก้มดิน เหม็นเหงื่อไคล
เหนื่อยแทบตาย คนอื่น”ได้” แต่ยาย .. จน !!

ทุ่งนา ... หายไปไหน ?
จงเดินไป หลังบ้าน เขียวทุกต้น
หุ่นไลกง .. ไล่กา ... ยายไม่สน ..
เหลือจะทน ไม่เคยช่วย อะไรได้ ... !!

ทุ่งนา ... หายไปไหน ?
อย่าเอ็ดไป ... เงียบ – ไว้ ...ไม่เสียหาย
ต่อไปนี้ เราจะอยู่ อย่างสบาย
เราอยู่ได้ ... ไม่ขายข้าว ... แต่มีกิน

ทุ่งนา ... หายไปไหน ?
ชาวนาไทย “ปฏิวัติ” บ้าง ใครแดดิ้น...?
ยุคข้าวยาก - หมากแพง … เพียงได้ยิน
ต้องจบสิ้น คนทำนา ... บนหลัง.. Kวาย

ทุ่งนา ... หายไปไหน ?
ถ้าใครถาม ตอบเขาว่า “ยังไม่หาย”
นายังอยู่ แต่คนทำ มันอยาก...ตาย !!
ข้าวไม่ขาย ... อยากกิน “ข้าว” ... มาปลูกเอง

374

๏ ข้าวยาก ขากเหย้าพ่น........น้ำหมาก
แมงพราก หมากแพงยาก......ปลูกข้าว
ข้าวนก ครกน้าวสาก.............ตำหมาก-หุ่งฮา
อนาคต อดนาคะ จ้าว............แบ่งข้าว'โชแปง'


๏ ม้าแรง แมงล้าทุ่ง..............'คนสาธารณะ'
ผ้าขาด พาดคร้าปะ...............เข่าม้า
ขาวม้า ค่ามาว ยะ.................ผ้าขะ-ม้าแม่
ปิดหน่อย ปล่อยนิด น้า..........อยากให้กุ้งยิง

๏ ขิงแน่ แค่นิ่งพร้อม.............ยอมรับ มะเหงกแล
'สันติ' สิตันคับ.....................เต่งเต้า
ตมลาก ตากลมจับ................ผ้าผ่อน
อวดเต่า เอ้าตรวจเจ้า.............จิกเป้าเป๋าตังค์ ๚ะ

373

ข้าวยากหมากลีบต้น........................ลำกลม
สาวนุ่งสั้นตากลม............................ยั่วเย้า
ไขว่ห้างจดจ้องชม...........................ขาอ่อน นางแล
ขาวแแจ่มจอติดเฝ้า.........................เพ่งแล้วลืมหิว

หมากแพงปูนติดป้าย......................เฒ่าชรา
พลอยเดือดร้อนปูนทา....................หมากแห้ง
ตะปันหมากเข้าตา..........................ยายบ่น
รัฐจ่ายห้าร้อยแกล้ง........................กดแล้วบัตรหาย

ยายบ่นตานี่นี้...............................แกล้งยาย
จัดหมากวางพลูกลาย.....................แอบโอ้
ตาบอกว่าสบายสบาย.....................รัฐจ่าย
เข้าธนาคารพลางโม้.......................บ่ ได้เติมเงิน

372

๏ ขากเยาว์ ยาม ข้าวยาก....หมากแพง
แมลงพราก มดหมู แหยง.....หวัดโย้
โวยัด ว่อนโลกแปลง..........ไปหมด
ปดใหม่ เมืองหมกโอ้..........อ่วมไอ้ ทรชน ๚ะ

๏ ทนสอ พอขนาบข้าง.......เพ็จทูล
พูล,เท็จ เว,หาศูนย์............หนึ่งตั้ง
หนังตึง หย่อนตาตูน...........คอเบี่ยง
เคียงบ่อ โคลนเกลือกพลั้ง...ผ่อนบ้าง เพลาแถลง ๚ะ

๏ แพงเถา วัลย์,กลิ่นเชื้อ.....พลางตน
ผลต่าง ดูแลผล................ผลิตตั้ง
พลังติด ก่อแรงดล.............ตอนก่อ
ตอกร่อน เกินเก็บยั้ง...........อยู่โย้ เรือนพัง ๚ะ

๏ รังเพื่อน เราดั่งไหม้.........รังนอน
รอนนั่ง ลุกบิดตอน.............ยากไร้
ใยลาก เถื่อนถกถอน...........บิด,พลั้ง
บัง,ผิด พลาดเก็บไว้...........หมกเม้ม คุมเมือง ๚ะ

๏ เคืองมุม มองต่างขั้ว........แลเห็น
เล่นแห่ โหมประเด็น...........ประดุจฟ้า
ประดาพุทธ์ ต่างจำเป็น.......ประครองสุข
คุกส่อง ธรรมเกิดกล้า.........แกร่งโก้ เกินใด ๚ะ

๏ ไกลเดิน ทางดุ่มดั้น.........บาทวิถี
บีทาส ถั่งถมทวี.................ป่านเน้น
เป็นนาน ทุกข์ถมมี.............มาพร่อง
มองผ่า ยามทุกข์เค้น..........ข้าวยาก หมากแพง ๚ะ๛

371

นกโก๊กนก หกคะมำ คำร้อยกรอง
บทกวี โคลงสี่กลอน อ่อนถ้อยศรี
ร่ายลำนำ ล้ำจินตะ น่าพาที
มอบไมตรี นี้ให้ ไม่ลับลวง

ถึงคราวข้าว ยากหมาก แพงระยับ
ควรสดับ รับฟัง ทั้งราษฎร์หลวง
ร่วมหล่อหลอม น้อมใจให้ เป็นหนึ่งดวง
เลิกคิดห่วง ยศฐา บรรดามี

ไม่ว่าเขา ว่าเรา เรื่องเก่าก่อน
ไม่คิดย้อน อาฆาต ให้บัดสี
แก้ปัญหา อนาคต ต้องวันนี้
จะไม่มี ข้าวยาก และหมากแพง ........

370

๏ วันนี้ V นั้น หยิ่ง...........ใหญ่นัก
วันก่อน ว่อนกัน หนัก........นอบน้อม
วันหน้า ว่านั่น จัก.............หมองหม่น
วันที่ We ทัน พร้อม.........ผ่องหน้าวันไหน

๏ 'เข้าใจ' ใครเจ้า ที่.........สั่งการ
ครึ่งเท่า 'เข้าถึง' พาล........คึ่งเถ้า ---------->(ต้องโทษทั้งเอกโท ขึ้งเฒ่า)
พาถนัด 'พัฒนา' งาน........หน้าที่ ถนัดฤๅ
ลื้อพลาด ราชพรื้อ เจ้า......ไป่รู้ความหรือ

๏ ใครดื้อ คือ ได้ดิบ..........ได้ดี
ใครโง่ โคง่าย มี...............แอกคล้อง
ใครเด่น เข่น die ตี...........ไล่ขับ
ใครบ่น คนใบ้ ร้อง............ไป่เข้าหูใคร

๏ ดัดไว้ ได้หวัดนก............หวัดหมู
ดัดยับ ดับยัด ดู................ฆ่าทิ้ง
ดัดม้า ด่าหมัด กรู.............มากัด
ดัดกลับ ดับกัด กลิ้ง..........ดับฟ้าดับดิน

๏ อยู่กิน ยินกู่บ้าง.............ฟ้าเตือน
กินอยู่ กู่ยินเรือน...............รอบบ้าน
หลับนอน หล่อนนับเชือน....แชเลอะ เลือนฤา
นอนหลับ นับหลอน ค้าน.....ขัดแย้งทุรนทุราย

๏ ไพร่ฟ้า พร้าไกว่ป้อง.......กันไผ
อำนาจ อาจนำภัย..............สู่เจ้า
'ข้าวแพง หมากยาก' ไย......เดินหมาก พลาดเวย
'ข้าวยาก หมากแพง' เศร้า....ศกนี้มีหรือ-สยามเรา บารนี ๚ะ

369

เรียนอังกฤษ คิดพม่า แหมน่าขำ
เป็นผู้นำ ขึ้นมา หาทหาร
ประชาชน เรียกร้อง ไม่ต้องการ
ไล่รัฐบาล ทหารตั้ง สั่งปกครอง
ปราบชุมนุม กลุ่มใหญ่ ในกินเนสบุ๊ค
เรียกร้องปลุก ประชาธิปไตย เพื่อไทยผอง
ให้เป็นแบบ สากล เมื่อคนมอง
ทหารป้อง จ้องปืน ยืนหวังยิง
M. 16 รถถัง ดังทั่วกรุง
จุดหมายมุ่ง ขยี้แดง รุนแรงยิ่ง
ทุบ ตบ เตะ ต่อยตี ยิงมีจริง
ทารุณยิ่ง สิ่งปรากฎ ไม่ปดเลย
คุกคามสื่อ รื้อไล่ สื่อฝ่ายค้าน
ใช้ทหาร แทนตำรวจ อวดโชวเฉย
ให้ทหาร อารักขา บ้าจังเลย
ชัดไม่เอ่ย เผด็จการ ทหารคุม....

368

แบกจอบเช้าเร่งรุด ขุดมัน
รับจ้างแบกตะบัน เข่งย้วย
รูลอดหัวมันหลุบ ทุบหัว กูเวย
ร้อยห้าสิบเองอ้า ข้าได้ รายวัน

พวกพ้องล้วนเหงื่อย้อย หยดไหล
ต่างแบกต่างขุดไป ไป่คร้าน
หวังค่าแรงรายวัน เลี้ยงลูก เมียเวย
สองพันเขาให้พวก ผู้ได้ งานดี

367

๏ กรรมกร กรณ์ก่อหนี้.........หลังอาน
กรณ์บอกกรรม ทำงาน.........หนักหนี้
กรรมกรณ์มาร์ค บังคลาน......คานเด็ก เฮี้ยนเวย
กรรมปะป๋า ชวนชี้...............ชักม้าอาน'บังเหียน'

๏ Mayday เวียนขับม้า..........เมือง Troy
Toy เด็กเล่น สำออย............มืดหน้า
กลัวตาย ไม่มาฝอย.............วันโลก Labor แล
นายก นกยา ข้า..................บ่ได้อยู่ใน-เหตุบ้านการเมืองเลยหรือ

366

หยิบผักชีโรยหน้าแต่งอาหาร
ปฏิบัติบริการแต่จานใหญ๋
พริกกะปิถ้วยเก่าเอาทิ้งไป
ปรุงขึ้นใหม่ง่ายดายไร้ราคา

เป็นแรงงานรายวันนอกระบบ
ตายเป็นศพไม่ต่างไปจากหมา
ดิ้นรนไปตามบุญกรรมที่ทำมา
จะเงยหน้าอ้าปากช่างยากเย็น

นโยบายแจกเงินเพื่อแลกใจ
สร้างเงื่อนไขแยกชั้นชนให้คนเห็น
เอาตัวตั้งคือรายได้เป็นกฏเกณฑ์
เงินประเคนฐานใหญ่ให้ชอบธรรม

ไยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่คิดแจก
คนทำมาหาแดรกเช้ากินค่ำ
หรือคิดว่าคนกลุ่มนี้เพียงชักนำ
ชักจูงง่ายเชื่อคำไม่หืออือ

ไร้พลังต่อรองต้องสงบ
ต้องเคารพกฎหมายไหว้นับถือ
เป็นแรงงานต่ำใต้ไร้ฝีมือ
เลี้ยงท้องอิ่มนั้นคือเป็นบุญแล้ว

365

เสียงวิงวอน จากแรงงาน นอกระบบ
ต้องการพบ นายกมาร์ค ด้วยอยากได้
เช็คช่วยชาติ เพื่อประกาศ ความเป็นไทย
ควรต้องให้ ไปถ้วนหน้า เพิ่มค่าแรง

ความเป็นธรรม แก้ปัญหา พาชื่นชม
ความนิยม สมใจนึก ให้กล้าแกร่ง
ละลายพล คนเสื้อเหลือง และเสื้อแดง
มิต้องแข่ง จ่ายน้ำเงิน จนเกินงาม

แรงงานไทย มีในนอก สองระบบ
ควรต้องจบ สองมาตรฐาน การเหยียดหยาม
ลูกนอกคอก บอกให้เห็น เป็นคู่ความ
ต้องติดตาม ได้จุนเจือ ช่วยเหลือทัน

เป็นผู้นำ บริหาร การปกครอง
ฟังเสียงร้อง ของประชาฯ อย่าหุนหัน
ใช่คิดเห็น ว่าท่านเป็น เพียงกัปตัน
มิหวาดหวั่น เรือจะจม สมน้ำหน้า

364

วันแรงงาน แต่รัฐบาล ยังลืมเรา
เป็นความเศร้า ของแรงงาน นอกระบบ
ขอเรียกร้อง สองพันบาท ใยขาดงบ
จ่ายไม่ครบ พบเพียงสอง มาตราฐาน

เมื่อฝนตก ไม่ทั่วฟ้า จึงน่าคิด
ความต่างสิทธิ์ จึงต่างรัก สมัครสมาน
เป็นปัญหา พาให้เห็น สถานการณ์
คือรัฐบาล มีงานเข้า กับกรรมกร

363

เป็นชายชาติ อาชาไนย ทหารหาญ
ใครรุกราน ชายแดนไทย ไล่ลุกรบ
เหล่าทหาร ทำหน้าที่ ริปูสยบ
ความสงบ เพื่อแผ่นดิน หมดสิ้นภัย

ปกป้องชาติ ประชาไทย ได้ร่มเย็น
ปราบผู้เป็น อริราช ศัตรูใหญ่
คือเครื่องมือ ของรัฐบาล กองทัพไทย
มีวินัย ใจนักสู้ รู้หน้าที่

พร้อมพลีชีพ ตายเพื่อชาติ ประกาศก้อง
เพื่อพี่น้อง มวลชนไทย มีศักดิ์ศรี
เป็นประเทศ อิสระภาพ สิทธิ์เสรี
ใต้บารมี แห่งพระองค์ ผู้ทรงธรรม

362

แสงนวลผ่อง คันฉ่อง สาดส่องฟ้า
ล่วงเข้าสู่ อันธิกา คืนพาฝัน
เมฆสีหมอก พอกสีหม่น พ่นนิลพรรณ
แอบเงาใจ ใต้เงาจันทร์ เยี่ยง "อาชา"

วาโยแผ่ว พัดผ่าน กังวานเวก
นิศาเสก เพลงเหงา เฝ้าห่วงหา
ทะเลดาว พราวพร่าว กลางอาภา
ป่านนี้เธอ... นิทรา... อยู่แห่งใด ?

แม้นฟ้ากว้าง ต่างทิศ ไม่ผิดแปลก
แม้นต้องแยก แปลกถิ่น ถวิลไหว
แม้นมองจันทร์ ต่างเสี้ยว ไม่เปลี่ยวใจ
ใจถึงใจ ... อยากส่งให้ ... ไม่พรั่นพรึง

รอ .. ปลดเปลื้อง ภาระ และหน้าที่
หวัง .. จะมีวันให้หายคิดถึง
นี่คือเสียงเรียกจาก ... ห้วงคำนึง
ที่ตราตรึง ... ถึงเธอ ... มิเสื่อมคลาย ..

361

ขอบ“ขัณฑแคว้น” แดน ”สันติสุข” ทุก ”สารทิศ”
จิต ”นิรมิต” แด่ “มาตุภูมิ” ภูมิ.. “ชาติทหาร”
เหนือ “ปฐพี” ศรี “วิญญภาพ” ปราบ “อริ-มาร”
ปก ”ประชาชาญ” สาน “ไผท-ทอง” ป้อง “อธิปไตย”

เทิด ”องค์ราชันย์ ท่าน ”คือจอมทัพ” สดับ ”คำพ่อสอน”
หนุน”หัวบนหมอน” พร “พ่ออุ้มสม” ผ้าห่ม “ที่พ่อให้”
แสง”พลันบรรเจิด” เปิด”ความแกล้วกล้า” ท้า ”ที่หัวใจ”
ควร ”เหนือสิ่งใด” ถวาย ”ชีพ-รับใช้” เป็น “ราชพลี”

เร่ง “ทุกฝีก้าว” เข้า “ประจำการ” สู่ ”ฐานที่ตั้ง”
หน้า ”เฝ้าระวัง” หลัง ”เฝ้าระไว” ไหล่ ”เคล็ดได้ที่”
มอม ”สกปรก” ดม ”กลิ่นเต่ากัน” หมักหมม "ทุกวันวี่”
แรก ”ไม่ชินดี” เสียดสี ”ว่าบัดซบ !!” เพื่อนตบ - “กะโหลกให้”

นอน“กลางทรายฟุ้ง” ยุง “รุมกันกัด” ผลัด “เวรกันเฝ้า”
เหนื่อย “พอทำเนา” เหงา “พอทำใจ” ไกล “พอทนไหว”
เพื่อน “จะถึงฆาต” บาด “หทัยป่น” ด้น “แทบขาดใจ”
ซับ“เลือดนองไหล” ใจ “แทบจะขาด” เด็ดขาด “นะเพื่อนเรา”

เช้า - “เร่งปีนป่าย” สาย- “ลาดตระเวน” เย็น - “ ไม่หยุดหย่อน”
มี “ลางสังหรณ์” ซ้อน “เสียงปืนแตก” แยก “ ระวังเหล่า”
ป่วย “ไม่สบาย” หนัก “เพราะไข้ป่า” ยา “ไม่บรรเทา”
ฝืน “ตะลุยเข้า” เร้า “เร่งข่มขู่” สู้ “ทุกศาตรา”

เจ็บ “พอทุรน” ทน “พอทุราย” หน่าย “จงลืมคิด”
มี “ภารกิจ” จิต “ต้องหนักแน่น” แกร่ง “ กว่าภูผา”
นอน“กันกลางดิน” กิน “กันกลางทราย” อาจตาย “กลางพนา”
ท่าน “คือผู้กล้า” เหนือชั้น “ศักดินา” บุรุษชาติ ”อาชาไนย”

360

ทุกปัญหา ย่อมมี ทางแก้ไข
เพียงขอให้ ควบคุมจิต พินิจข่ม
อยู่ใต้ความ ชังชิง ยิ่งตรอมตรม
ใจระบม ปิดทาง สว่างเดิน

เพียงเปิดแย้ม ประตูใจ ให้กว้างออก
เห็นในนอก เมื่อใด ไม่เก้อเขิน
ร่วมฟันฝ่า กล้าในการ ผ่านเผชิญ
ดีกว่าเดิน ย่ำวน ในกลลวง

359

หากพิศการ รอบกาย หลายหลายสิ่ง
ตามเป็นจริง ไมเอา เราเกี่ยวข้อง
ไม่เข้าข้าง ไม่หยามเกลียด เหยียดเมื่อมอง
ก็จะตรอง เห็นจริง ทุกสิ่งเป็น

เมื่อมีเกิด ย่อมมีดับ สลับเสมอ
เพียงไม่เผลอ ใจตาม ยามเมื่อเห็น
ใช้สติ ตรองไตร่ ด้วยใจเย็น
ทุกข์ลำเค็ญ เพียงใด ผ่านได้เลย

358

การทะเลาะขัดแย้งแห่งความคิด
ไม่อาจจบคุณ"น้ำมิตร"พิศย่อมเห็น
การถกแย้งการเมืองเฟื่องประเด็น
หากหมายเข่นด้วยความแค้นแน่นทรวงใน

มีแต่สัมมาทิฏฐิที่ผลิก่อ
จึงอาจพอช่วยเหลือมาเกื้อไข
มีแต่สางปัญหานานาไป
โดยอาศัยความจริงใจและจริงจัง

ในทางธรรมเห็นทางอยู่อย่างหนึ่ง
เป็นทางซึ่งอาจเรียบง่ายคล้ายไม่ขลัง
แพ้ชนะละทิ้งไปไม่อินัง
ตั้งใจฟังทุกผู้โดยรู้ตัว

เพียงตั้งใจฟังกันนั้นสักหน่อย
จึงสานร้อยเรื่องราวสาวได้ทั่ว
คุณ"น้ำมิตร"จิตใสไม่หมองมัว
เปรียบดังบัวไม่เปียกน้ำจึงตามรู้

นี่แหละเป็นจิตใจที่ใคร่เห็น
ใจเย็นเย็นใจกว้างกว้าง"ทาง"เห็นอยู่
เป็นทางของบัณฑิตพึงคิดดู
และเป็นทางการเรียนรู้กู้สังคม

357

เริ่ม” ทั้งที ควร “ใส” ไม่ปนเปื้อน
การเอ่ยเอื้อน วาจา อย่าสอดไส้
นักการเมือง ในสภา หยุด “โหม” ไฟ
ที่ “ไหม้” แล้ว ลุกลามไป ยัง “ดับ” ทัน

จับตามอง “ วิกฤติ” และ “โอกาส”
“ความผิดพลาด” ต้องประเมิน อย่างสร้างสรรค์
“ผลประโยชน์” หากได้ - ใช้ร่วมกัน
เริ่ม “จัดสรร – ปันส่วน” ให้พอดี

เคยมอง “หัว” ให้มองใหม่ “ หัว... ถึง... หาง”
ต้องเปิดกว้าง “ทางเข้า” เท่าทุกสี
จับสลาย “พฤติกรรม” ทำสักที
จัด “เวที” ให้หันหน้า เข้าหากัน

อาจเป็นการ “ลงมติ” จริงสักอย่าง !!
ควรเป็น "กลาง" คืน “ตัวเลือก” เขาเหล่านั้น
แล้ว “ล้างไพ่” เริ่มใหม่ ให้เทียมทัน
เริ่มผูกพัน สร้าง“สัญญา - ประชาคม”

356

มองต่างมุม สุขุม แบบนุ่มลึก
สงบศึก ทางอารมณ์ กลมกล่อมใส
ดุจน้ำทิพย์ จิบเพียงนิด จะติดใจ
จาก "ผู้รับ" เป็น "ผู้ให้" ใช่สุขจริง

มองต่างมุม รุมมอง ตรองหลายแบบ
เปลี่ยนจาก "แคบ" เป็น "กว้าง" อย่างดียิ่ง
กล่องใบเล็ก ขยายใหญ่ ได้ท้วงติง
เปลี่ยนจาก "วิ่ง" เป็น "เดิน" น่าเพลินดี

กลับ "ซ้าย" บ้าง "ขวา" บ้าง อย่ายึดติด
ขยัน "คิด" ขจัด "แค้น" อย่าแค่น "หนี"
เปลี่ยนความ "ร้อน" เป็น"เย็น" เห็นทันที
สดชื่นดี มี"สีสัน" ขึ้นเป็นกอง

355

หนึ่งคนเดิน ผ่านมา หาความคิด
บ้างที่ผิด ที่ต่าง อย่างเหลือหลาย
บ้างที่เหมือน ที่หนุน จนวุ่นวาย
บ้างก็ให้ ข้อคิด พินิจครวญ

ปรับเข้าหา พอดี นี้คงเหมาะ
เขียนไม่เพราะ ก็อย่าทำ ให้กำสรวล
แลกมุมมอง ดีดี อย่างที่ควร
อย่ารีบด่วน ขัดแย้ง ก่อนแจ้งใจ

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

354

๐ คล้ายสนิมเริ่มกินเกาะ
รุมบ่มเพาะพูลสะสม
คอยกัดกินให้ระบม
ท้ายต้องซมล้มละลายฯ

๐ หากไม่คิดจะรักษา
เยียวยาให้หายขาด
อาจจะหมดโอกาส
ต้องพินาศลงสักวัน ฯ

๐ ยาดีนั้นมีแน่
ได้แก่ความยุติธรรม
อย่าเหลิงลมจนถลำ
บาปกรรมจะตามทัน ฯ

๐ เสมอภาคกันทุกคน
มีหรือจนควรเท่าเทีนม
อย่าเอนเอียงแบ่งเสี้ยม
สิทธิ์เต็มเปี่ยมทุกผู้นาม ฯ

๐ ที่ทำอยู่ปัจจุบัน
ดูว่ามันไม่เข้าท่า
เอียงข้างเห็นตำตา
บางพวกหนากลับลอยนวล ฯ

๐ ทำร้ายคนชัดเจน
ภาพเห็นเป็นหลักฐาน
ลอยนวลไม่จัดการ
รัฐบาลไม่เป็นธรรม ฯ a

353

๏ มีคำถาม อยากรู้.......................ตามมา
พี่เทือก ขึ้นวอหนา.......................เพราะลิ้ม
แล้วท่านมาร์คน้องยา..................นั้นละ ใครฤา
อุ้มโอบ ดันก้น ยิ้ม.......................อยู่ข้าง หลังเธอ ๚

๏ อย่าบอกนะ ว่าลิ้ม....................คนเดียว
เอื้อนเอ่ย อาจมีเสียว....................ข่มยิ้ม ( อมยิ้ม )
วานน้องพี่ อย่าเทียว....................พูดส่ง เดชนา
หลายท่านเลยแหละซิ้ม................ถูกจ้อง จองจำ ๚

๏ โฆษกมาร์ค ตอบด้วย...............เถิดเอย
รอท่าน มาเฉลย..........................อยากรู้
เหตุใดเงียบ จังเวย......................น่าแปลก จริงนอ
ขนเพชร ปิดปาก อู้......................บ่ได้ หรือไร ๚–

352

๏ นั่นคือทาง ถูกต้อง.................ควรทำ
เลิกป่วน เลิกสร้างกรรม.............เลิกประท้วง
คิดตั้งพรรค อย่าอำ............,......กันเล่น เชียวนา
ไม่อยาก ลาบละล้วง..................น่าปลื้ม หากจริง ๚

๏ เดินตามแนว กฎบ้าน..............มีมา
ชาติสงบ แน่แหละครา...............บัดนี้
ได้รับเลือก จากประชาฯ.............ส่วนใหญ่ เมื่อไร
คำตอบ จึงบ่งชี้.........................รับได้ สบายใจ ๚

๏ เป็นข่าวดี รับเช้า...................รุ่งอรุณ
มารกลับตัว หลังหมุน................เปลี่ยนหน้า
หยุดซะเถอะ ใครหนุน...............หลังอยู่ พอนา
กลับสู่ ความจริง ถ้า...................รักบ้าน เมืองจริง ๚–

351

๏ แม้รู้สึก เมื่อยล้า......................เพลียใจ
เบื่อนักการเมืองไทย...................ปากร้าย
ผีเจาะปาก หรือใง......................พูดมาก จริงนอ
ทำไม่เป็น ก็ป้าย..........................ผิดให้ ทักษิน ๚

๏ อยากเป็นใหญ่ แต่ไร้...............วิสัยทัศน์
เป็นหุ่นไม้ เทือกจัด.....................ชักให้
ตากลิ้งกรอก ปากถนัด..................กัดจิก นักแล
เป็นเอก โวหาร ใช้.......................ธาตุแท้ มักกะสัน ๚

๏ ความสามารถ แค่ต้น...............หางอึ่ง
ความอยาก กระสันจึง.................ลื่นด้าน
ความอายหมด มิคำนึง...............ชาติล่ม ช่างเฮย
ความเสื่อม จึงเยี่ยมบ้าน..............สำนึกรู้ ใหมเอย ๚–

350

๏ ทำตัวอย่าง ชัดแจ้ง...................ให้เห็น
อย่างสงบ ไร้อาวุธเป็น...................อย่างนี้
แดงเด่น ดั่งเดือนเพ็ญ...................ทั่วแผ่น ดินนอ
หลายอย่าง ล้วนบ่งชี้.....................ทั่วถ้วน กระบวนความ ๚

๏ ไร้คำหยาบ ก้าวร้าว...................บิดเบือน
ดูสง่า หมู่ชนเหมือน......................พี่น้อง
คราเยื้องย่าง ดินเสทือน.................เลื่อนลั่น เพื่อนเอย
ทวงสิทธิ์ ที่เรียกร้อง.....................สู่พ้อง ผองไทย ๚

๏ แดงเถือก ทั่วแผ่นดิน...................แผ่กว้าง
เคยส่งเสียงให้ เหล่าร้าย..................ได้ยิน
สงบสุข เคยอยู่กิน...........................มารกลับ ผจญแล
ตกต่ำ ดั่งเมืองร้าง..........................น่าเศร้า จจิงเอย ๚–

349

๐ เมื่อก่อนนั้น นานมา กล้าใส่เหลือง
จนเป็นเรื่อง ปรกติ มิกระดาก
มีหลายตัว ซื้อไว้ จำนวนมาก
สลับฉาก สลับวัน ใส่กันไป ฯ

๐ พันธมาร ปรากฎตัว เหลืองมัวหม่น
ด้วยมีคน ชอบแอบอ้าง เข้าข้างตัว
เสื้อเคยใส่ สีเคยชอบ จึงหมองมัว
รู้สึกกลัว ไม่กล้าใส่ ให้เสียดาย ฯ

๐ กลัวเขาว่า จะเป็น เช่นพันมิตร
จึงตะขิด ตะขวงใจ ไม่กล้าสวม
วีรกรรม หลายอย่าง ที่รวบรวม
ถ้าไม่บวม ก็บ้า น่ากลัวจริง ฯ

๐ เก็บใส่ตู้ ล๊อคกุญแจ ไม่แลแล้ว
มาเปลี่ยนแนว เป็นแดง แต่งบ่อยครั้ง
รุ้สึกดี เมื่อเห็นเพื่อน หลายคนยัง
มาใส่มั่ง สีแดงจ้า น่าชื่นใจ ๚

348

๐ มาตรฐานสองชั้น
พรรคพวกกันไม่ผิด
ทำได้ช่างไม่คิด
กลับปกปิดความจริง ฯ

๐ หลายหลายเรื่องราว
หลายคราวที่เจอะเจอ
มาตรฐานที่พลั้งเผลอ
เอียงจนเกร่ออึดอัดใจ ฯ

๐ ละอายใจบ้างใหม
ที่ทำไปไร้จุดยืน
ความสงบยากกลับคืน
หากยังฝีนเสียงประชา

347

๏ จริยธรรม พร่ำว่า เคยด่าเขา
กลับย้อนเข้า ตัวสิ้น กลิ่นสาบเหม็น
นโยบาย อีกเล่า คิดไม่เป็น
พวกมีเส้น เหนือคน จนเคยตัว ๚

๏ กระเหี้ยนหือ เลียปาก อยากจะเป็น
เพียรซ่อนเร้น เกมส์กล จนเลอะเลือน
เศรษฐกิจ ของชาติ สั่นสะเทิอน
มิแชเชือน ด้วยอยากได้ ใคร่จะเป็น ๚

๏ ความสามารถ ที่มี นี่น่าคิด
เห็นประดิษฐ์ วาจา น่าฉงน
กลับไปมา ในอ่าง ทางเวียนวน
กับผู้คน รู้ทัน มันลิเก ๚

346

ด้านได้ อายอด ปดโป้
ทอล์คโชว์ ลีลา ลื่นไหล
ปล้นแปล ประชา ธิปไตย
เป็นไป อมาตยา สมสู่

สมรู้ ร่วมคิด พันธมิตร
ผูกติด ก่อการ ร่วมสู้
รัฐประหาร แปรรูป ให้รู้
ยืนอยู่ แอบอิง เผด็จการ

เหลืองแดง ถูกแบ่ง แจ้งชัด
ปฏิวัติ อำนาจ บริหาร
เหลืองเขียว เกี่ยวข้อง เบิกบาน
ประจาน ด้านได้ อายอด

ทรยศ ต่อชาติ ประชา
อวดกล้า ท้าทาย เป็นกบฎ
ขัดต่อ นิติธรรม กำหนด
จึงหมด ศักดิ์ศรี รัฐบาล ( ประชาธิปไตย )

345

๐ กลายเป็นtalk of the townคำกล่าวนั้น
เขาพูดกัน ดังทั่วเมือง เรื่องด้านได้
แหมอายอด รับประทาน ประจานใคร
คำโบราณ ว่าเปรียบไว้ ได้ยินมา ฯ

๐ ตรงประเด็น เห็นประจักษ์ ดูชัดเจน
ใช่พูดเล่น เพียงสนุก ปลุกสนาน
เหล่าเสนา อำมาตย์ ท่านสำราญ
เทพประทาน ตำแหน่งให้ ได้ครอบครอง ฯ

๐ กว่าจะมา ถึงวันนี้ มีลูกเล่น
หลายประเด็น น่ากังขา ว่าไม่ซื่อ
สมคบคิด พันธมาร ชาวบ้านลือ
เข้าร่วมมือ ป่วนประเทศ เหตุวุ่นวาย ฯ

๐ ด้านถึงได้ อายก็อด หมดโอกาส
น่าอนาถ ยิ่งนัก พักตร์คมขำ
ข้างในนั้น กลับด้าน ทั้งใจดำ
การกระทำ เพียงสร้างภาพ ทราบทั่วไป ฯ

๐ คารมดี มีโวหาร วิจารณ์เขา
ตัวเองเล่า เป็นยังใง รู้ใหมหนา
ชาวบ้านเริ่ม บ่นว่า เอือมระอา
หานำพา ใส่ใจ ไม่ฟังความ ฯ

344

ทางออกคือทางเข้า......... การเมืองเราใช่ทางตัน
นิรโทษอภัยกัน..............ทางที่สั้นก็ยืดยาว


ทางเข้าทางออกนั้น...............ทางเดียว กันเฮย
เปิดประตูแลเหลียว.................รอบด้าน
ประตูปิดหวาดเสียว................แมวตบ
ฤๅพี่คิดเปิดบ้าน.....................ไล่ต้อนแมวหนู

343

นิรโทษ โปรดเข้าใจ คือกรรมใด ใครกระทำ
รู้ผิด คิดชิงนำ เหล่าอธรรม กรรมตัดรอน

๐๐๐ทำผิดรู้แก่ใจ นิรโทษ
กรรมกอหวังประโยชน์ ตนผิด
เขียนขอรอทรงโปรด กฏหมาย
เสื่อมหายอาญาสิทธิ์ ปิดประตู.ตาย

342

อันเรื่อง รัฐประหาร เค้ารู้กัน มานานแล้ว
ชนะ ไม่ต้องแจว แต่แพ้แล้ว ต้องรีบไป

ชนะ เขียนกฏหมาย สั่งการได้ ไปอย่างไร
ยกโทษ ตัวเองไซร้ เค้าทำกัน ทั้งนั้นครับ

ที่พูด ถึงตอนนี้ เป็นเรื่องที่ ยกโทษกับ
คนที่ โดนบังคับ ถูกติดกับ พักการเมือง

ให้กลับ มาช่วยชาติ ช่วยเก็บกวาด ทั้งแดงเหลือง
ทำนุ บำรุงเมือง พาชาติไทย ให้ร่มเย็น

341

กาพย์ห่อโคลง โยงยาก ลำบากคิด
หัวหางปิด ติดต่อ ยิ่งท้อถอย
สู้ผัดไท ห่อไข่ ใส่เส้นน้อย
ยังอร่อย ไม่ยาก เหมือนห่อโคลง

จะร่วมกอบ ร่วมกู้ ดูให้แน่
ปัญหาแท้ ไม่ใช่สี ที่ประสงค์
รื้อระบบ ล้างระบาย ให้ถูกธง
ล้มมันลง พวกริ้นเหลือบ ที่เคลือบแคลง

340

ก็ใครใช้มารบ ควรสยบที่นั่นก่อน
ใครใช้ให้ราญรอน แล้วจะถอนคดีความ

บ้านเมืองเคยร่มเย็น กลับทุกข์เข็ญแดงสยาม
ยุบสภาน่าทำตาม วิกฤติยามใครจะทำ

ต้องรออีกเมื่อไร หรือรอใครกินพุงหลาม
อ้าอ้างไม่สวยงาม ก็มาตามรัฐธรรมนูญ

จัดการให้เสร็จสรรพ คนขานรับไม่สิ้นสูญ
เศรษฐกิจควรเพิ่มพูน เลิศจำรูญศิวิไลย์

339

นิร โทษก่อนกล้า ควรทำ
จงอย่า ฝืนกลืนคำ กล่าวอ้าง
การเมือง เรื่องเคยจำ มาเก่า(นาน นม)
จงอย่า เก็บมาล้าง เข่นแค้น กันเลย


นิร โทษกรรมเก่า อยากจะเฝ้า ขอวิงวอน
ฝากไว้อุธาหรณ์ ความเดือดร้อน จักบรรเทา

ความผิด คิดขัดแย้ง เรื่องแก่งแย่ง แบ่งเราเขา
รบกันอย่างมัวเมา เลือดไทยเรา สาดกระจาย

เหลืองป่วน แดงก็ซ่า ออกมากล้า ทำท้าทาย
กำลัง นำมาใช้ ปล่อยคนไทย ฆ่ากันเอง

ต่างกรรม ต่างวาระ ฝ่ายชนะ ก็ข่มเหง
ฝ่ายแพ้ ก็นักเลง ทำเป็นเก่ง ไม่ยอมกัน

สุดท้าย ตายซ้ำซาก ปากต่อปาก พูดเล่าขาน
เล่นกัน ไปนาน นาน เหลือขอทาน อยู่เต็มเมือง

บ้านเมือง ไม่สงบ คนอยากจบ ลบแดงเหลือง
ออกไป ให้ไกลเมือง ความฟุ้งเฟื่อง จักคืนมา

ความผิด ไม่เด่นชัด อย่าตามกัด กันเลยหนา
ยุบพรรค กันหลายครา แต่คนน่ะ ไม่สมควร

ธรรมนูญ ถ้าแปลกๆ ก็ควรแยก มาสอบสวน
แก้ไข ที่สมควร ให้สอดคล้อง ปรองดรองกัน

เฮียมาร์ค เคยเรียกร้อง ปากกู่ก้อง ร้องเรียกขาน
สมชาย สมัครพลัน สมัยนั้น ยุบสภา

อำนาจ ตอนนี้ได้ มาอย่างไร คนกังขา
โอกาส คราวนี้นา อยากบอกว่า น่ายุบจัง

วิกฤติ คือโอกาส อย่ากลัวพลาด พ่ายแพ้เขา
อำนาจ ในมือเรา ไม่เทียบเท่า ของปวงชน

คืนเขา ให้เลือกใหม่ แล้วทำใจ อย่าสับสน
ชนะ เป็นยอดคน พ่ายแพ้พ้น อย่าท้อใจ

วันนี้ อยากหยุดรบ เข้ามาพบ กันได้ไหม
คุยกัน อย่างเปิดใจ ด้วยหัวใจ ไทยกันเอง

เริ่มต้น กันอีกครั้ง ให้ทุกอย่าง กลับมาเจ๋ง
อาญา อย่ากลัวเกรง ใครผิดอยู่ รู้ๆกัน

ยกให้ เรื่องการเมือง ช่วยปลดเปลื้อง ให้สุขสันต์
อาญา ขอละกัน ความผิดนั้น ควรต้องยอม

กลับมา ช่วยกู้ชาติ ร่วมบทบาท กันหล่อหลอม
สร้างชาติ คงต้องยอม ถอยหนึ่งก้าว เอ้าเริ่มเลย

338

“ศพ” ที่พบ พบที่ไหน บ้านใครหนอ ?
“ศพ” ยังรอ เตาเผา มาเผาผี
“ศพ” ตำตา ตำใจ“แม่” ที่แสนดี
“ศพ” ท่านนี้ ... ป่านฉะนี้ .. เคว้งคว้างใย ?

ผลพิสูจน์ แตกต่าง เป็น 2 ผล
ไม่จำนน ต่อผล คนสงสัย
คอหักหรือ คอไม่หัก จักอย่างไร ?
ล้มฟาดไป เสีย...วันไหน หรือ วันนั้น

ส่งข้อความ “คิดถึง” ตรึงดวงจิต
แด่ผู้สาว คู่คิด มิตรคู่ขวัญ
ความคิดถึง ฝากก้อนเมฆ ในฉับพลัน
กะทันหัน ไม่ทันกลับ ไปบอกเอง

จะอย่างไร ขอให้ ท่านเป็นสุข
ปลดเปลื้องทุกข์ ยกโทษให้ ... ใครข่มเหง ..?
เพลงแห่งบุญ ถึงท่อนสุด หยุดบรรเลง ...
ขอคนเก่ง อย่าน้อยใจ จงไปดี ..

337

ขึ้นกับว่าคำถามนี้ใช้ที่ไหน
ปฏิบัติเพื่อใครใช้ประสงค์
ผู้ปกครองย่อมครองกฏความมั่นคง
เพื่อดำรงสถานะมีละเว้น

ไม่มีหรอกเท่ากันชั้นสังคม
ฟังแต่ลมปากเป่ามองไม่เห็น
ไม่มีหรอกคนต่ำเตี้ยตั้งกฎเกณฑ์
สุดท้ายโทษกรรมเวรจึงเป็นไป

336

เป็นรัฐบาล ทหารนิยม ชื่นชมนัก
เป็นที่รัก ของป๋า... เกษมสันติ์
เป็นโชคดี หรือโชคร้าย ลองทายกัน
มินานวัน ก็คงเห็น เป็นอย่างใด

อาจจะเป็น เช่นนายก ที่ผกผิน
ต้องเที่ยวบิน ดังวิหค ตลกไหม
เหมือนกงกรรม เป็นกงเกวียน หมุนเวียนไป
ประเทศไทย ใครดีเด่น จะเป็นภัย

สัจธรรม แห่งอำนาจ อาจหลงตน
ประชาชน ต้องตายก่อน ใช่ไม่ใช่
ที่เจ็บปวด ริมถนน ก็จนใจ
ความเป็นไทย ใจเป็นธรรม จำต้องทน

335

ความเป็นธรรม และเป็นไทย มีไหมหนอ
เขาร้องขอ ความเป็นจริง ที่ปกปิด
พลทหาร อภินพ จบชีวิต
อภิสิทธิ์ จะต้องจบ อย่างใดดี

ยุบสภา หรือลาออก บอกได้ไหม
หลังแก้ไข รัฐธรรมนูญ ถ้าบุญมี
อาจถูกไล่ โดยทหาร บานบุรี
หรือบางที.. .... หยุด หายไป ( น่าใจหาย ไม่อยากคิด )

ต้องเที่ยวจร นอนหมอนหมิ่น ถิ่นทหาร
เป็นรัฐบาล เผด็จการ หรือไฉน
อย่าปล่อยราษฏร์ ร้องเรียกหา ประชาธิปไตย
หลายศพไทย รอส่วนบุญ คุณอย่าลืม

334

“คำแก้ต่าง” สมัยนี้ ควรมีครบ
ต้องสมทบ ครบตาม ความเสียหาย
อย่าส่งเสียง เอะอะ.. ดะ .. โวยวาย
เพื่อทำลาย บรรยากาศ สาดประจาน

“คำแก้ตัว” ไม่ติดขัด ต้องชัดแจ้ง
มุ่งชี้แจง หมัดเด็ด เสร็จหลักฐาน
โวหารดี วาทีเด่น เน้นหลักการ
หยุด ... ฤาษี - แปลงสาร ... การจำแลง

“ถือสัจจะ” จริงใจ ในคำพูด
ต้องพิสูจน์ ความนัย ให้แจ่มแจ้ง
หากผิดพลาด ประการใด ให้สำแดง
หยุดตะแบง แสร้งตะบัน ปั่นประชา

ผู้ใดกล่าว แต่ความจริง ... “วาจาสิทธิ์”
ต้องไม่เห็น “ผิดเป็นชอบ” สาบาน ... กล้า
ยืนอกผาย ไหล่ผึ่ง ตรึงกายา
มีสัมมา ทิฐิ เพ่งพิศเชาวน์

ประเด็นที่ ... ผู้สงสัย ...ถามย้อนศร !?!
เสมือนพร อันประเสริฐ เปิดความ “เขลา”
ทุกปัญหา มีทางออก บอกทางเข้า
“คำบอกเล่า” ใช่ “ข่าวลือ” หรือ “มุสา” ... !!

มีคนบอก ว่าเขา “เจ็บ” เขา “ทุกข์ ... เศร้า”
มีคนบอก ว่าเขา “เหงา” เขา “อ่อนล้า”
เขา “ร้องไห้” เป็น “สายเลือด” และ “น้ำตา”
ใยกล่าวหา ... ว่าพวกเขา “ไม่รักดี”

ภาพมันฟ้อง ว่าเขา “แรง” เขา “เลวร้าย”
เกินบรรยาย คุณ “ยิง” เขา ... เขา “วิ่งหนี”
ในบางมุม เขา “แสนถ่อย” ไล่ “ทุบตี”
คุณรุมปรี่ “กระทืบเขา – ล้มทั้งยืน”

คลิปบางคลิป เห็นเขา “จุด” เขาจะ “เผา”
ถ้าเขา “เผา” ย่อม “ตาย” ด้วย มิอาจฝืน..
เหตุใดเขา ไม่กลัว “ไฟ” ไม่กลัว “ปืน”
ที่พวกคุณ ขู่ “จ่อยื่น” ลั่น “กระจาย”

ออก “หมายจับ” แล้ว “จบ” – “จับ หมด ไหม” ?
เขาชดใช้ ตามตัวบท แห่งกฎหมาย
คุณคุยเฟ้อ หาเรื่อง เปลืองน้ำลาย
เขากลับกลาย ต้องหุบปาก มันมากไป... ?

ผู้ปกปิด “ความเท็จ” เก็บ “ความลับ”
เล่น “ตบทรัพย์” กับความจริง เคยรู้ไหม …?
“สวรรค์ในอก” ... ส่วน “นรก - อยู่ในใจ”
และสิ่งที่ ฆ่าไม่ตาย คือ “ความจริง” ...!!!....

333

๏ ไทยปะเทศ ลูกขึ้ง...........ครึ่งไหน
ใครหนึ่ง ครึ่งลูกใคร...........ต่อแต้ม
แต้มต่อ ต่อรองไหม...........ได้เสี่ยง
เดี้ยง-ไซ่แห้ง-ยิ้มแย้ม........ปากแห้งไส้โหย

๏ โซ้ยให้กาซิ ไส้..............หมดพุง
มุงพจน์ พจนารถมุง............แข่งเผ้า
ข้าวแพง หมากยาก ลุง........ขากเย่า เขย่าฮา
ข้าวยาก หมากแพง เจ้า.......มั่วเม้าเอามัน

๏ อัน'เมา' เมาเหล้า เล่า.......ไข้เมา
ข้าวใหม่ ปลามันเผา............กับข้าว
ก้าวขับ-รถ-รสเกา...............เหลานั่น
run เน่า เหล่านั้น จ้าว..........บอกใบ้ใบลาน

๏ voice ท่าน หวานถ้อย-ม...ธุรส
โทษรุ บุราณ หมด..............คอกล้อม
ค้อมหลอก เลือกแต่พจน์.....เสนาะ
เสาะนะ พูดจาน้อม.............นอบให้ใครหลง

๏ โคลงไหลลื่น น้ำท่วม.......ทุ่งนา
ท่านุ่ง-ห่ม สูตรหนา.............ศักดิ์หนี้
ซี้หนัก ซักนี่ มา.................ค้านซัก
คักซ่าน ฮา มุขจี้................ยุคนี้'รักเธอ'-ประเทศไทย บารนี

332

ทะเลาะเบาะแว้งอยู่...........ทุกวัน
ได้อะไรบ้างฉัน................ใคร่รู้
ประเด็นที่สำคัญ................ทางออก
บ่พบฉะนั้นก็สู้..................อย่าได้ทะเลาะเลย

ควรหันหน้าเข้าพูด.............คุยกัน
การเผชิญหน้านั้น..............อย่าให้
ทางออกที่สร้างสรรค์.........ร่วมถก
สันติก่อเกิดไซร้...............ขัดแย้งคลี่คลาย

331

๏ พอ...ดี....ที่พ่อว่า-คือ-พอดี
ไม่พอ...ไม่ดี...นี่-หนี้-หรือ คือ-ตรรกะ
พอแค่นี้...พอแค่นั้น...มันแค่ไหนล่ะ
ให้แค่พอดีนะ...แล้วใครวะ...ขอได้ขอดี

๏ ให้เป็นคนดี...ไม่ให้เป็นคนเลว
ธุรกิจล้มเหลว...ขอไม่ได้...ใครเลววะนี่
ให้เขาซี...ที่เขาขอ...แง่มแง่ม...ขอกู้หนี้
ขอของฟรี...ดีที่ไหน...ของไม่พอ--ก็แย่งกันฮา บารนี

330

๐๐๐สิทธิเสรีภาพ ทราบซึ้ง
ชาติไทยรักเป็นหนึ่ง แน่แท้
ประชาธิปไตยจึง ควรคู่
ครองไทยโดยธรรมแก้ รัฐธรรมนูญสี่ศูนย์คง

๐๐๐ลบล้างประวัติศาสตร์ ชาติไทย
เผค็จการกฏหมายใด ให้เลิก
เพื่อประชาธิปไตย เต็มร้อย
สันติสุขศุภฤกษ์ บานเบิกขบวนธรรม

329

แม้อยู่คนละข้าง.................ฟากฝั่ง
แต่มิได้ชิงชัง.....................โกรธแค้น
สองฟากฝั่งคงยัง................แดนถิ่น สยามนา
เลือดรักไทยบ่แข้น.............ขอดข้นเท่ากัน

การเมืองเรื่องขัดแย้ง............ถกเถียง
ต่างก็มีสิทธิ์เสียง.................จะใช้
กติกาขอเพียง....................ยึดมั่น
ประชาธิปไตยจะได้.............ไม่ไร้ความหมาย

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

328

เห็นด้วยครับ จับมาได้ รีบใส่ปลอก
ของใครบอก กันถ้วนถี่ ก็ดีหนา
สีน้ำเงิน ของใครนี่ ที่ออกมา
ทำงามหน้า อัดสีแดง แรงดูพาล

ไม่เห็นด้วย กับทุกสี ที่มาป่วน
ออกมาชวน กันวุ่ยวาย หลายสถาน
ทั้งแดงเหลือง ชวนกันทำ น่ารำคาญ
แตการนั้น ต้องคนรัฐ จัดการเอง

ดันปล่อยให้ น้ำเงิน เดินมาป่วน
อัดเค้าม้วน ลงพับ จับข่มเหง
ทำไม่ถูก ใช้กฏหมู่ Kuลุยเอง
แล้วก็เร่ง รีบหนี ปรี่ลงรู

ขุดออกมา ประจาน กันซะบ้าง
ว่าใครสร้าง ใครสั่ง อย่างอดสู
บุรีรัมย์ หรือที่ไหน ใคร่อยากดู
ออกมาสู้ สบหน้า ประชาไทย

กล้าสั่งการ ก็ต้องกล้า เงยหน้ารับ
บ้างสิครับ อย่าปอด ดอดไปไหน
รัฐต้องตาม ออกมา อย่าช้าใย
ปลอยเอาไว้ หอกข้างแคร่ คอยแหย่ตำ

327

นิติรัฐ จัดไว้เพื่อ คนเสื้อแดง
ส่วนพวกแต่ง หน้าตา ผ้าโผกปิด
ดังโจรร้าย ปล้นก่อการ มารหรือมิตร
มิกล้าคิด จับสืบสวน ก๊วนอาสา

เป็นกองทัพ เสื้อน้ำเงิน เชิญมาช่วย
หน้าไม่สวย จึงต้องปิด คิดเสียว่า
ยังรู้อาย แต่ไม่วาย เสียราคา
เป็นปัญหา เทียบคุณค่า เท่าเทียมโจร

ทุกคนรู้ กันอยู่แล้ว พวกห้าร้อย
มีไม่น้อย ทั้งเพื่อนห้อย และพวกโหน
เอาออกมา ทำหน้าที่ ทมิฬทะโมน
จึงเอนโอน นิติรัฐ ขัดข้องใจ

326

อันนายกปากร้อง................................จัดการ
สร้างภาพหรูรัฐบาล..............................ค่ำเช้า
หลังฉากกลับเดินงาน............................เร้นลับ
หนุนหนุบหนับเร่งเร้า.............................ไล่บี้เสื้อแดง

คลางแคลงมิจบสิ้น...............................ต่ำทุน
อำนาจกลับเวียนหมุน............................บิดเบี้ยว
นิติรัฐนิติคุณ.......................................มาร์กซิส ห่วยนอ
ตลบแตลงลดเลี้ยว...............................ซับซ้อนวางแผน

แกนนำเหลืองอีกด้วย............................น้ำเงิน
พยานประจักษ์ผิดกลับเมิน.....................เกี่ยวข้อง
สีแดงทุกขณะเผชิญ.............................หมายกด
ขวางขัดจ้องปัดป้อง..............................ชั่วร้ายเสมอมา!!!

325

กองกำลัง เสื้อน้ำเงิน ที่เดินอวด
คือตำรวจ ชาติไทย ในอิสาน
จากสุรินทร์ บุรีรัมย์ มาทำงาน
โดยมีฐาน ภาคสาม ตาม เน ฯ- บุญฯ
ทุกคนรู้ อยู่ว่า อย่าให้ยิง
เหตุแท้จริง ยิงใส่ คนใหญ่หนุน
เรื่องจึงเงียบ เหยียบไว้ ใช้บุญคุณ
เล๊ะเป็นวุ้น นิติรัฐ เห็นชัดเจน...

324

รัฐบาล นิติรัฐ จัดการด้วย
ขอได้ช่วย สืบสวน ก๊วนอาสา
กองกำลัง เสื้อน้ำเงิน เดินพัทยา
ที่จัดมา ต้านเสื้อแดง แรงเกินไป
กองกำลัง แยกหมู่เหล่า เขาสังกัด
มันบ่งชัด วันนั้น ท่านอยู่ไหน
การปะทะ ขว้างปา ไม่ว่าไร
ยิงปืนใส่ ใครทำ นำตัวมา
รู้ตัวตน ต้นสังกัด ชัดอย่างนี้
ทำบอดบี้ เหมือนใบ้ ไม่ได้หนา
ประชาชน เห็นรู้ อยู่เต็มตา
ถ่ายทอดมา ทีวี ที่ยิงแดง
การปล่อยปละ ละเลย เฉยพวกฉัน
ส่วนพวกมัน สมน้ำหน้า กล้ากำแหง
ถูกบาดเจ็บ เสียบ้าง ข้างเสื้อแดง
จะได้แหยง หนีไป ไม่มากวน
หากคิดได้ แค่นี้ ชี้ทารก
สกปรก วิธีการ ต้านยิงสวน
เหมือนให้ท้าย ไม่เอาผิด คิดมิควร
กลับเสริมส่วน สองมาตรฐาน ประจานตน....

323

ถ้าได้อย่าง เสียอย่าง ยังรับได้
แต่ผ่านไป ผ่านมา น่าฉงน
มีแต่เสีย กับพังไป ไงชอบกล
จะหลุดพ้น วังวนได้ อย่างไรกัน

เรื่องปราบม้อบ รุนแรง ทั้งแดงเหลือง
แล้วเป็นเรื่อง เป็นราว ที่กล่าวขาน
นั่นแหละคิด ว่าเสียไป จะได้การ
แต่วันวาน เห็นชัด บัดซบใจ

ไม่จับปืน แล้วจะใช้ อะไรปราบ
ก็อยากทราบ เหมือนกัน ท่านทราบไหม
ใช้แต่โล่ห์ บุโรทั่ง ตั้งเข้าไป
เจอท่อนไม้ โต้กลับ จับไม่ลง

แก๊ซน้ำตา ยิงไป ดันไม่เวิร์ค
เอิกเกริก แขนขาขาด พลาดเสียงหลง
งงสิครับ แก๊ซน้ำตา พากันงง
ชวนให้หลง ว่าปิงปอง น้องพกมา

ความรุนแรง ไม่มีทาง จะสร้างสรรค์
ต้องช่วยกัน ทุเลา เจ้าปัญหา
ปัญญาแก้ ด้วยการ เจรจา
อย่ามาท้า ทุ่มแทงต่อ ขอเถอะคุณ

322

๏ เสี่ยงอะไร เสี่ยงได้..............เสี่ยงเสีย
ไม่เสี่ยง ได้เสีย เฮีย...............ขาดซ้อ
เสี่ยงเถอะ เซอะเที่ยง เพลีย.....อยากพัก ผ่อนนา
เดี้ยงศึก ดึกเสี่ยง จ้อ..............จิตร้อนรุมใจ

๏ เสี่ยงไพ่ นั่งเพ่งจ้อง.............ดูหมอ
เล่นไพ่ อะไรหนอ...................แม่เจ้า
เสี่ยงไพ่ ใส่เพี่ยงรอ................พ่อเพลี่ยง-พล้ำแล
เสี่ยงบ่อย สร้อยเบี่ยงเข้า.........แปะโป้ง'โรงจำนำ'

321

เพราะเสียไป จึงได้มา ตำราเต๋า
เมื่อมีเขา จึงมีเหว ใช่เหลวไหล
ความชั่วดี มีอยู่ คู่กันไป
ทำอย่างไร ให้เป็นกลาง คือทางดี
ทางสายกลาง เท่านั้น ขั้นสุดยอด
รู้ตลอด ทั่วกัน นั่นวิถี
พุทธองค์ ทรงทำ ย้ำวิธี
ตึงหย่อนมี ทดลอง ต้องสายกลาง...

320

เมื่อได้อย่าง แม้นเสียอย่าง ยังเท่าทุน
จะได้บุญ โดยทำบาป หาได้ไม่
เผด็จการ มิอาจฆ่า ประชาธิปไตย
ชนชาวไทย คือนักสู้ ผู้รักธรรม

สัจธรรม ให้ความจริง ได้ปรากฏ
จอมกบฏ ทรยศชาติ พาตกต่ำ
ด้วยกิเลส และตัญหา ชิงการนำ
สั่งก่อกรรม ลุกไล่ล่า ประชาชน

จึงเจ้าจอน คูโบต้า รากหญ้าไพร่
เป็นคนไทย ใจเต็มร้อย ปลูกพืชผล
วอนท่านเท้า ผู้มั่งมี อิทธิพล
อย่าหลงตน ลืมลูกหลาน สำราญใจ

ได้อำนาจ เสียโอกาส ความเป็นคน
ของมวลชน ชาว ประชา ธิปไตย
จะคงความ สันติสุข ได้อย่างไร
ด้วยดวงใจ คนสื้อแดง ยังแช่งสาป

319

เมื่อมั่งมี อำนาจ และบารมี
จะคงดี ที่คงไว้ ให้ทหาร
จะไม่ปล่อย ให้ใคร ได้สำราญ
ในอำนาจ บริหาร ของบ้านเมือง

****************

ใครคิดสู้ ยิ่งใหญ่ ฉันไม่สน
มันแค่คน ชั้นกุลี ที่ขยะแขยง
คิดจะเอา ไม้จิ้มฟัน มาทิ่มแทง
ขอสาปแช่ง พระสยามฯ ปรามพวกมัน

*************************

..... ในสังคม ปัจจุบัน เห็นตัวอย่าง
มีช่องว่าง ให้ลูกชาย ผมบ้างใหม
เค้าไฝ่ฝัน ตอนเติบโต ไม่อยากเป็นไพร่
เหมือนพ่อมัน คนนี้ไง ใคร .......... ยัดเยียดมา

318

ได้อย่างเสียอย่างนี้...................ยุติธรรม
ของแลกจะจดจำ......................ซาบซึ้ง
สัจจะแห่งน้ำคำ.........................สูงค่า
ตระบัดสัตย์ทำอ้ำอึ้ง...................จึ่งต้องเสียคน

คุณโทษอยู่ต่างข้าง....................ฟากฝั่ง
โทษกัดกร่อนผุพัง.....................เสื่อมแล้ว
ส่วนค่าแห่งคุณยัง......................ประโยชน์ก่อ เกิดแล
ใกล้ชิดคุณจักแคล้ว...................โทษแผ้วพานผจญ

317

ผู้ที่ใช้ อำนาจ ถือบาตรใหญ่
จะต้องให้ หิริ มิมัวหมอง
จะคิดทำ สิ่งใด ต้องไตร่ตรอง
ให้คล้องจอง ยุติธรรม จึงทำไป
ผู้ที่ใช้ อำนาจ ถือบาทใหญ่
บ้าเรื่อยไป ใช้อำนาจ อาฒม์นิสัย
เรื่องผิดถูก ชั่วดี มิสนใจ
มีบ้างไหม ในรัฐบาล วานบอกที....

316

อำนนาจตามกฎบ้าน.................................เมืองเรา
ต้องอยู่คู่บรรเทา......................................ทั่วถ้วน
หากหมดอำนาจเงา...................................ปีศาจ
เมืองแยกกฎหมายล้วน..............................หมดสิ้นคนกลัว

อำนาจบาตรใหญ่นี้...................................ใช้พาล
พวกนักเลงบริวาร......................................กลั่นแกล้ง
เพาะบ่มนิสัยราน......................................แรงรุ่ม
มีแต่ความขัดแย้ง.....................................แบ่งข้างพรางตัว

อำนาจควรแค่ใช้......................................พอดี
ยืดหยุ่นใช่เร่งตี.......................................เหล็กร้อน
น้ำเย็นลูบเย็นดี.......................................ใจสุข
ลดทุกข์แรงสะท้อน..................................ปลดร้อนแรงไฟ

315

ผู้คุมกฏ หมดศักดิ์ศรี แค่คนเถื่อน
ดูเสมือน มี " อำนาจบาตรใหญ่ " ใจทมิฬ
หลงตัวตน เทียมเทียบฟ้า ค่าเพียงดิน
มิยลยิน ploythana สาธยาย

จึงฝันไป ใจเตลิด เกิดมาใหญ่
ช่างเกรียงไกร ในอำนาจ ที่มั่นหมาย
จนก่อกรรม ทำลืมแก่ แม้ความตาย
ไม่ละอาย ต่อบาป ถูกสาปแช่ง

อันเสาหิน แปดศอก ตอกเป็นหลัก
ช่วยกันผลัก เสาคงคอน ผุกร่อนแล่ง
อย่าหลงกลัว และหมอบกราบ ผิดสำแดง
จงร่วมแรง ไล่ อำนาจ ขาดชอบธรรม

314

หากเราเป็น ผู้คุ้มกฏ ภายในบ้าน
แต่ได้เที่ยว ระราน คนทั่วถ้วน
พอเขาเถียง เราหา ว่าเขากวน
เลยตีรวน ลงโทษ จับเขาตี

จนเด็กๆ เริ่มเก็บกด ทนไม่ไหว
จึงวางแผน วิ่งหาย หมายหลบหนี
แต่ผู้คุม ไม่ปล่อย ไล่ต่อยตี
ซ้ำอีกที จับขังนาน กว่าครั้งเดิม

จนอยู่มา วันหนึ่ง ผู้คุมล้ม
เด็กทึ้งผม จิกตี เหมือนฮึกเหิม
ด้วยเก็บกด แรงเพิ่ม กว่าแรงเดิม
หมดเกรงใจ จึงซ้ำเติม ตุ๊บ ... ตึง ... ตัง

ผู้คุมกฏ โกรธเด็ก จึงฟาดให้
ไม้ท่อนใหญ่ ตีแสกหน้า จนเลือดคั่ง
เด็กบาดเจ็บ เกือบตาย เพราะพลาดพลั้ง
แต่ผู้คุม ใยถูก ตั้งข้อหา ....

เด็กผิดไหม เด็กผิด ถูกลงโทษ
ผู้คุมโกรธ เกินกว่าเหตุ พยายามฆ่า !!
ผู้คุมผิด ถูกควบคุม รออาญา
ผลออกมา ....................... อย่างไร ลองทายกัน !!

313

สังคมใดไร้เมตตามาหนุนหลัง
สังคมนั้นเตรียมพังล่มสลาย
คนพลาดพลั้งเหยียบย่ำถ่มน้ำลาย
ใยจึงหมายให้หันหน้าเข้าหากัน

สังคมใดไร้เท่าเทียมเป็นรากฐาน
สังคมนั้นเตรียมพิการล้มสนั่น
กระบวนการยุติธรรมถูกโจษจัน
เลือกแบ่งชั้นวรรณะเลือกข้างใด

สังคมใดไร้โอกาสและปิดกั้น
สังคมนั้นเตรียมประจัญความสงสัย
มีแต่ความลับลวงไม่ห่วงใย
มีแต่ความไม่จริงใจจ้องทำลาย

สังคมใดไร้ขันติ และ สันติ
สังคมนั้นเตรียมปริแตกและสูญหาย
ความเห็นต่างของผู้คนนั้นมากมาย
ต้องรู้จักข่มกายและข่มใจ

สังคมใดไร้ผู้นำที่แข็งแกร่ง
สังคมนั้นเตรียมแกว่งลื่นไถล
ปล่อยผู้นำไร้ค่านำทางไป
เหมือนผลักไสให้ต่ำลงทุกที

สังคมใดไร้ความจริงและกฎหมาย
สังคมนั้นเตรียมเสียหายและป่นปี้
หากยังไม่หยุดแก่งแย่งและชิงดี
อยากย่ำยี หัวใจกัน ก็เชิญเลย

312

ขอเป็นหนึ่ง ตัวแทน คนส่วนใหญ่
ที่ไม่ใช้ ความรุนแรง เพื่อหวังผล
ความต้องการ สันติดั่ง อารยชน
พร้อมเจียมตน น้อมรับ คำวิจารณ์

แม้รุนแรง แต่เราถือ เขาคือเพื่อน
ไม่แชเชือน จะบอกปัด จะรับขาน
เขารุนแรง เสียเลือดเนื้อ ในเหตุการณ์
เราสงสาร และเห็นใจ อยู่ในที

เขาทำเกิน กว่าเหตุ นั่นว่าใช่ !!
เหตุอันใด สาเหตุใด ใยเสียดสี
ตัวปัญหา หากมอง ให้ถ้วนถี่
ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน คนอย่างเรา

ทุกสังคม มีทั้งดี มีทั้งชั่ว
มีสลัว มีสว่าง ขำและเศร้า
ความเลวร้าย ที่รุนแรง เกินบรรเทา
ใช่เกิดจาก พวกเขา เพียงข้างเดียว !!

การสลาย การชุมนุม อย่าบ้าคลั่ง
กองกำลัง !?! ปืน !?! รถถัง !?! ยังแก้เกี้ยว
ทหาร "ทำ" รับว่า "ทำ" มาคำเดียว
ท่านมีเอี่ยว กับใคร ใยรุนแรง ?

การชุมนุม ครั้งไหน ใครไม่เถื่อน
คนกลุ่มหนึ่ง มีเลอะเลือน ใช่เสแสร้ง
อาจมีบ้าง มีคนพราง มาจำแลง
เหตุรุนแรง จึงก่อเกิด ระเบิดมา

เราหวังว่า เพื่อนมนุษย์ จงหยุดคิด
เขามีสิทธิ์ จะร้องเพรียก และเรียกหา
ถ้าสังคม รัฐบาล ไร้เมตตา
คงเกินแล้ว จะเยียวยา ให้เหมือนเดิม

ที่กล่าวมา ข้างต้น ทั้งหมดนั้น
จากใจฉัน ชัดแจ้ง ... ขอแจงเสริม
ใครผิดถูก ต้องพิสูจน์ ให้รู้เพิ่ม
ผิดกฎหมาย ต้องเริ่ม ลงอาญา

ฟังสักนิด ทุกคนล้วน รักชีวิต
แม้กังขา ว่าเขาผิด เสียหนักหนา
ตราบใดที่ ความจริง ยังค้างคา
สังคมไร้ ธรรมมา สงบใด ?

ช่วยแนะนำ ให้ด้วย ช่วยคิดหน่อย
ทหาร "ถอย" หรือ "ไล่ล่า" จึง "ยิง" ใส่
อาวุธจริง กระสุนจริง พร้อมลั่นไก
เขาพิสูจน์ ตัวเขาได้ กันหรือยัง !?!

311


เราต้องการ ;ประชาธิปไตย; ที่แท้จริง !!
เราต้องการ แท้จริง ในสิ่งใด
เราต้องการ ตามหลักธรรม ในข้อไหน
หรือทำไป เพื่อสิ่งใด ก็ไม่รู้


เราต้องการ ;ประชาธิปไตย; ที่แท้จริง !!
เราต้องการ เพื่อผู้ใด ไตร่ตรองดู
เราต้องการ จนพินาศ น่าอดสู
จะเหลืออะไรให้ดู หรือ ประชาธิปไตย


เราต้องการ ;ประชาธิปไตย; ที่แท้จริง !!
เราต้องการ จริงจริง ทำสิ่งไหน
เราต้องการ ประเทศนี้ ที่แห่งใด
ก็ตามใจ ใครห้าม ตามใจประชา


เราต้องการ ;ประชาธิปไตย; ที่แท้จริง !!
เราต้องการ สิ่งไหน กันนักหนา
เราต้องการ อะไร ทำไมอ้างอมาตยา
หรือสักว่า ประชาธิปไตย ใช้ ท่องจำ

310

อย่าไปคิด ว่าเค้าใหญ่ เลยไล่แกล้ง
ไม่ว่าแดง เหลืองน้ำเงิน อย่าเมินหนี
ใครยืนข้าง ปวงชน เป็นคนดี
ไม่ย่ำยี สิทธิ์คนอื่น ยืนได้นาน

แต่ถ้าออก มาวุ่นวาย ทำลายชาติ
ทำประหลาด ก่อวุ่นวาย ให้ราวฉาน
คนส่วนใหญ่ ถึงทนได้ ก็ไม่นาน
อาจจะพาล ขับไล่ ไปทุกคน

ไม่ว่าแดง หรือเหลือง อย่าเฟื่องกร่าง
ขอซักอย่าง ฟังกันนิด คิดซักหน
คุณจะทำ อะไร ให้ปวงชน
อย่าสับสน ทำเกินสิทธิ์ คิดเอาเอง

ถึงวันนั้น ทั้งอำนาจ และบาตรใหญ่
คงจากไป หมดท่า ไม่มาเจ๋ง
ถึงจะกล้า ทำใหญ่ ใจนักเลง
แต่ต้องเกรง ชาวบ้าน กันทั้งเมือง

309

ผู้ที่ใช้ “อำนาจบาตรใหญ่” ฝันไปเถิด
อยากตะเพิด ขับไล่ ไม่ถอยหนี
จะเกณฑ์พล มากี่ไพร่ ไล่ทุบตี
หรือใส่ร้าย ป้ายสี อย่ารีรอ

ผู้ที่ใช้ “อำนาจบาตรใหญ่” ฝันไปเถิด
ตีเตลิด จนแตกพ่าย หมายสานต่อ
ไม่รู้จัก คำว่า “เข็ด” คำว่า "พอ"
หมดเวลา ร้องขอ “พอกันที”

ผู้ที่ใช้ “อำนาจบาตรใหญ่” ฝันไปเถิด
มัวเพลินเพลิด แต่เหยียบย่ำ ... ย่ำศักดิ์ศรี
เหนือชีวิต ความกินดี ความอยู่ดี
คือความ “รัก” ใน “เสรี” ของผองชน

ผู้ที่ใช้ “อำนาจบาตรใหญ่” ฝันไปเถิด
ความประเสริฐ ทำไว้ คงไร้ผล
หากเสแสร้ง แห้งแล้งไป ใจพิกล
อาจสับสน จนพิการ อย่าย่ามใจ

ผู้ที่ใช้ “อำนาจบาตรใหญ่” ฝันไปเถิด
เรา “จงรัก ภักดี ” อย่าใส่ไคล้
ไม่เคยคิด “ทรพี” แผ่นดินไทย
เราต้องการ “ประชาธิปไตย” ที่แท้จริง !!

308

ภายใต้กำแพงแห่งความคิด
ย่อมเกิดความยึดติดและยึดมั่น
ย่อมสร้างความรู้สึกที่กดดัน
ย่อมทำลายความสร้างสรรแห่งปัญญา

วัฒนธรรมความรุนแรงแฝงสังคม
พฤติกรรมไม่เหมาะสมบ่มความบ้า
เห็นต่างพวกต่างสีก็บีฑา
ไล่เข่นฆ่ามั่นหมายตายคามือ

สังคมยังคลั่งแค้นแน่นจริต
ถูกและผิดปรุงแต่งได้ใครนับถือ
ความอึดอัดก่อเกิดการลุกฮือ
เสียงเล่าลือเล่าอ้างต่างมีมูล

สันติภาพหลังสงครามไม่งามงด
คือการกดผู้แพ้ให้สิ้นสูญ
ผู้ชนะเขียนประวัติให้เทิดทูน
ในท่ามกลางกองกูรของผู้แพ้

สันติธรรมจึงใช้เพียงสร้างภาพ
ให้ราบคาบปกครองปิดรอยแผล
แต่เริ่มต้นสักนิดไม่เคยแคร์
จึงเป็นแค่เครื่องมือยุทธวิธี

307

อหิงสา อโหสิ สันติเกิด
จิตเตลิด มิขันติ โสรัจจะ
สมาธิ มิตั้งมั่น วิวาทะ
หิริ โอตตัปปะ ไม่งอกงาม

ทุกสนาม การต่อสู้ ผู้ได้เปรียบ
คงเดินเหยียบ เส้นชัยชนะ น่าเกรงขาม
ผู้พ่ายแพ้ แน่แล้วต้อง ถูกติดตาม
คดีความ ซัดสาดใส่ ให้จำนน

สันติภาพ มิอาจมี ให้มุ่งหมาย
จากการตาย และเจ็บปวด บนถนน
อำนาจแฝง ร้อนแรงกล้า อิทธิพล
บันดาลดล สันติธรรม มิได้เลย

คงความคิด ทำสงคราม เพื่อสันติภาพ
จึงไล่ปราบ ปวงประชา อย่างเปิดเผย
อนิจจา ยังโฉดเขลา เหมือนเช่นเคย
เวรกรรมเอ๋ย ประเทศไทย ในกำมือ

306

ภายใต้ความรุนแรงแห่งโครงสร้าง
ย่อมเกิดความอ้างว้างไม่ห่างหาย
ย่อมก่อความกดดันอันมากมาย
ย่อมทำร้ายองค์รวมของสังคม

วัฒนธรรมความรุนแรงยังแต่งแต้ม
คอยสอดแซมพฤติกรรมซ้ำเพาะบ่ม
ต่อปัจเจกจะประนอมและจ่อมจม
ติดในหล่มตัวตนพ้นประมาณ

ต่อสังคมจะคับข้องด้วยหมองหม่น
เพราะเกลื่อนกล่นด้วยปัญหามหาศาล
เกิดอึดอัดขัดประโยชน์โทษบันดาล
ความต้องการแตกต่างจนหมางเมิน

สันติภาพจากสงครามคือความเขลา
คือความเศร้าหลังรบสงบเผิน
ฝ่ายชนะลำพองจองหองเพลิน
ฝ่ายแพ้เกินกลืนกล้ำระกำใจ

สันติธรรมจึงใช่เพียงสันติภาพ
ใช่สงบหลังเลือดอาบเพื่อรบใหม่
สันติธรรมใช่(ยุทธ)วิธีเพื่อมีชัย
สันติธรรมคือหทัยอันใสงาม

สันติธรรมคือฐานธรรมนำอหิงส์
คือความนิ่งคือความกล้าเดินฝ่าข้าม
คือความรักการุณราวแก้ววาววาม
ใช่ความเกลียดเหยียดหยามตามเกมผจญ

สันติธรรมนำให้เราเข้าใจมนุษย์
ให้เราหยุดประทุษร้ายทุกแห่งหน
โดยเริ่มหยุดความรุนแรงแห่งสกล
ณ จุดแรกที่กมลของตัวเรา

ถ้าจะสู้ก็สู้แต่แค่กิเลส
ซึ่งก่อเหตุลุกลามจากความเขลา
กิเลสนี้มีทั่วไปใช่แต่เรา
คิดบรรเทากิเลสนี้ย่อมมีทาง

อหิงสาคือทางอันสร้างสรรค์
คือหลักธรรมอัศจรรย์ซึ่งสรรค์สร้าง
คือขันติ โสรัจจะและละวาง
การก้าวย่างด้วยสงบจบเบียดเบียน....

305

๏ เที่ยงวัน วันร้อนรุ่ม...........ด้วย'ตะวัน'
ฝนฉ่ำหลั่งมา พลัน..............ดับร้อน
ความกรุณา อัน..................เปรียบดั่ง พิรุณแล
ใช่หลั่งมาเอง อ้อน..............ออดได้'ดังใจ'ฤๅ

๏ หรือ ธรรมอันเที่ยงแท้.......'ยุติธรรม'
ย้ำติทุต-จริต คำ..................ด่าร้อน
สองมาตรฐาน นำ................ธรรมเที่ยง แท้ฤๅ
ศาลสถิตยุติธรรม-ย้อน.........ยอก-แท้หยั่งถึง

๏ พึงคิด มิตรผู้ร่ำ.................รวยฝัน
วิกฤต คือโอกาสอัน..............ท่านสร้าง
ธรรมชาติเที่ยงวัน.................ร้อน ฤ เย็นเวย
นับ 'หนึ่ง-สอง-สาม' ค้าง........คิดร้อนฤๅเย็น

๏ เล่น'การเมือง' เล่นด้วย.......ศาลใด
ห้ามอุทธรณ์ ฎีกา ไย.............เล่นได้
ศาลทหาร กี่ศาล ใคร.............สั่งเล่น
ศาลสถิตยุติธรรม ให้..............เที่ยงแท้ฐานสาม

๏ 'เที่ยงธรรม' ธรรมชาติแท้.....เที่ยงวัน
เที่ยง สว่างโปร่งใส ดัน............มืดได้
เมฆฝน ม่านหมอก มัน.............บังตะ-วันแล
หมอกม่านบังใจ ไว้.................ไม่เข้าใจเลย

๏ เคยเล่น คำเหล่านี้...............นานมา
เบื่อที่จะวิสัชนา......................ซากซ้ำ
ลิขิตแห่งฟ้า-อา......................ถรรพ์จิต
พุทธทำนาย ย้ำ......................เสื่อมแล้ว'ยุติธรรม'-กรรมเวร บารนี ๚

304

เที่ยงตรง เที่ยงแท้ เที่ยงธรรม
หยุดกรรม หยุดก่อ พอแล้ว
ยุติธรรม อยู่ไหน ทแกล้ว
ไม่แคล้ว ไล่ล่า ฆ่าไทย

ต่างคิด ต่างเห็น เป็นอยู่
ต่างชู ผู้ตน หลงไหล
อำนาจ ชี้นำ ทำไป
ทำไม ลืมไทย กันเอง

ลืมตน ลืมตัว ชั่วช้า
ไล่ล่า ฆ่าฟัน ข่มเหง
อวดกล้า ยิ่งกว่า นักเลง
ถือปืน ยืนเบ่ง ยิงฟ้า

ปลุกเร้า นักสู้ แดนสยาม
สู้ตาม สัญชาติ เกิดมา
มือเปล่า มิกลัว แกร่งกล้า
แม้ว่า มิเที่ยง ธรรมเลย

303

ผู้ยืนหยัด สัตย์ซื่อ มือสะอาด
ย่อมผงาด เหนือบัลลังก์ อันสูงส่ง
ผู้เที่ยงธรรม นำใจ ให้เที่ยงตรง
ย่อมมั่นคง ไม่ไหวหวั่น มั่นวจี

คุณธรรม นำหน้า อาญาสิทธิ์
ย่อมลิขิต ความชั่ว ให้ถอยหนี
แผ่พลัง ศรัทธา บารมี
ขจัดภัย ไร้ราคี ที่มืดมน

จิตใจท่าน หนักแน่น กว่าเหล็กกล้า
แต่ชุ่มกว่า สายน้ำ ฉ่ำสายฝน
การปลดเปลื้อง “อคติ” จริตตน
ย่อมส่งผล ให้เมตตา และปราณี

ท่านคือผู้ พิพากษา จากใจฉัน
ผู้สร้างสรรค์ วันใหม่ ในโลกนี้
ผู้เด็ดขาด พิฆาต ฟาดไพรี
ทรงความดี บริสุทธิ์ ยุติธรรม

302

ทำสิ่งใด ใครก่อ กรรม เข็ญ
จักได้เห็นเช่นนั้น วัน เช้าค่ำ
ปลิ้นปล้อน กะล่อน เล่ห์ ทำ
ก็คำพูดตัว ย้อนตี ทำร้าย ตัว


สัญญิง สัญญา แม้นว่า ดี
ไม่หน่ายหนี คนเบือนหน้า ว่า เลวชั่ว
เพราะคนไกลคนคนนั้น ทำ มัวซั่ว
ทำตัว เป็นดี หลบลี้ เรื่องร้าย หมายปลุกปั่น

301

ทำสิ่งใดหากต้อง..................หวังผล
เจือพิษภัยปลอมปน..............ใส่ไว้
พลาดหวังมอบผลยล.............ดูต่าง หน้าแล
ลิขิตกำหนดไว้.....................เที่ยงแท้สัจธรรม

ทำสิ่งใดบ่ต้อง.....................หวังผล
บริสุทธิ์สุกใสดล..................ผ่องแผ้ว
จะได้ทุกสิ่งยล....................ผลส่ง
สัจธรรมเพริศแพร้ว...............เที่ยงแท้เที่ยงธรรม

อันทุกข์ภัยก่อไว้.................หวังผล
ผลลัพธ์ที่ได้ยล...................ป่นปี้
เกินกว่าคาดคิดจน................สาหัส
สัจธรรมบ่งชี้.......................ทุกข์นั้นคืนสนอง

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

300


ก้มหัวตก แล้วกัดกราม มือกำหมัด
กลั้นใจขัด กรอกตารัว กลัวกรรมก่อ
สุดจะฝืน กลืนช้ำ น้ำตาคลอ
โดนมันข่ม ขี่ต้นคอ ให้กลัวเกรง

มันใส่ความ เหยีบหน้าอก แล้วปกปิด
โยนความผิด ยัดเยียด ข้อหาใหญ่
รัฐธรรมนูญ ปี40 ดีเกินไป
เลยเขียนใหม่ ให้ สส ได้ดอก ท.อ.ง.

299

๏ เมื่อสุกงอม เปลือกอ้า.................หลุดไป
เงาร่าง ประชาธิปไตย...................เริ่มแย้ม
แดงทั่วแผ่นดินไทย......................ต้องช่วย กันนา
จะสามารถ เปิดแง้ม......................ฉุดรั้ง มาชิม ๚

๏ ประชาธิไตย ครึ่งเสี้ยว...............นานมา
เพราะเหล่า อมาตยา......................ฉุดรั้ง
ปิดหูปาก หลอกตา.........................เหยีบย่ำ ชนแล
วันที่แปดเมษาฯ ตั้ง.......................จิตไว้ ใส่แดง ๚

๏ ออกเดินทาง ร่วมพ้อง................สีแดง
ทั่วแผ่นดิน ร่วมแรง.......................เรียกร้อง
ทางสว่าง เห็นแสง.........................เริ่มส่อง สู่ชน
น้องพี่ ตะโกนก้อง...........................ไล่บี้ อมาตยา

298

๏ ยิ่งดูยิ่งเห็นธาตุแท้
ทหารแก่ผู้ดีเก่า
พวกไฮโซในบ้านเรา
ดั่งของเน่าซากศพเดิน ๚

๏ มองคนจนอย่างไร้ค่า
หลงตนว่าเป็นผู้ดี
แบ่งชนชั้นกดขี่
สุดทานที่จะอดทน ๚

๏ ถูกเหยียบย่ำนานมา
ปากหูตาโดนปกปิด
ไม่ถูกใจโยนความผิด
ไม่อาจคิดพูดได้เอง ๚

๏ อยากได้ก็ข่มขู่
อำนาจอยู่ในเงื้อมมือ
ไม่ยอมปล้นดื้อดื้อ
ใครกล้าหือก็ทำลาย ๚ะ–

297

๐๐๐" ความในใจ "ไทยแท้ ทุกท่าน
รักชาติยิ่งยืนนาน ทั่วถ้วน
รักชีพตนตลอดกาล ท่วมท้น
รักสุดใจมั่นล้วน รักศาสน์กษัตรา

๐๐๐เมื่อใจแตกแหลกสลาย กายร้อน
ความยุติธรรมสั่นคลอน มิเที่ยง
ความจริงวันนี้วอน แจ้งจิต
ถูกผิดคิดหลีกเลี่ยง สงครามประชาชน

๐๐๐ผู้ใดใครก่อเกิด วิกฤติ
ทักษิณ-อภิสิทธิ์ ย่อมรู้
ก่อการร้ายวิปริต ผิดเพี้ยน
แปรเปลี่ยนรัฐบาลผู้ ประชานิยมพลัน

๐๐๐เผด็จการรัฐประหาร ก่อกรรม
นิติรัฐนิติธรรม สูญสิ้น
รู้ผิดชิงการนำ นิรโทษ
ใจโกรธถูกหยามหมิ่น แผ่นดินมิชอบธรรม

296

๏ ประชาธิปไตย ชาตินี้....................ช่างประหลาด
ตัวตลก ยังมิอาจ...............................เทียบได้
ชาวต่างชาติ ขยาด..........................หลบหลีก ไกลนอ
ความมั่นใจ สิ้นไร้............................หมดแล้ว เพื่อนเอย ๚

๏ ประชาธิปไตย เลือกข้าง................ปฏิบัติ
บางพวกผิด เห็นชัด.........................ภาพฟ้อง
กลับหลุดรอด ช่างขัด.......................ตานัก พ่อเอย
ชาติอยู่ได้ กฏต้อง............................ปฏิบัติให้ เท่าเทียม ๚

๏ ประชาธิไตย แค่อ้าง......................ไปวัน
มันขัดแย้ง เห็นกัน.............................ทั่วล้า
ยุคโลกใหม่ ต้องทัน..........................หยุดเถิด อมาตยา
ออกจากถ้ำ มองฟ้า............................ว่ากว้าง เพียงใด ๚

295

๏ เก็บเสื้อเหลือง ใส่ตู้......................นานมา
หลายสิบตัว อยู่นา...........................พี่น้อง
มารอุบัติ อ้างบุญญา........................พ่อท่าน ผิดแล
สาเหตุ ทำให้ต้อง...........................ไม่กล้า ใส่เลย ๚

๏ กลัวเขาว่า พวกพ้อง....................พันธมาร
ซักเก็บ ใส่ตู้นาน.............................ผ่านแล้ว
รอสงบพวกคนพาล........................สิ้นซาก เมื่อใด
นำกลับมาใส่ แผ้ว.........................ผ่องได้ สบายใจ ๚

๏ แต่วันนี้ ใส่แล้ว...........................สีแดง
เพราะเกลียดอยุติธรรมแรง.............เพิ่มขึ้น
ฟ้าหมองหม่น ไร้แสง.....................สว่าง เสรี
ทุกหย่อมหญ้า สะอื้น.....................รัฐไร้ ธรรมพิบาล ๚

๏ ช่างพอดี พรุ่งนี้.........................มีกะตังค์
เชคช่วยชาติ ที่หวัง.......................เบิกได้
ค่าใช้จ่าย พอยัง............................ได้ร่วม ชุมนุม
ร่วมแช่ง รัฐบาลให้........................ตกอี้ หัวโน อิอิ ๚

๏ ต้องฝันร้าย แน่แท้.....................มาร์คเอย
ท่านเทพ มิอาจเฉย........................ค่ำนี้
กระสับส่าย แน่เลย.........................แดงหลอก หลอนนอ
วันพรุ่ง อาจป่นปี้...........................แหลกสิ้น ของจริง ๚

๏ อำมาตยา นั่นด้วย......................เป้าหมาย
วันล่ม สูญสลาย............................เฉียดใกล้
หยั่งรากลึก ทำลาย........................ต่อชาติ นานแล
รู้บาป สำนึกได้..............................ก่อนไร้ ดินฝัง ๚ะ–

294

อำนาจอาจนำให้.................................โหยหา
เราต่อรอเต่ามา...................................เชื่องช้า
รองก่อนร่อนกองหา............................เพียงเศษ ใจแล
อำนาจอาจนำบ้า.................................กันให้กลัดหนอง

อำนวยอวยนำให้................................พาเพลิน
ทั้งเจ็ดเท็จจังเกิน...............................แอบยิ้ม
กลอนผกกกกลอนเพลิน......................เราะร่วน
ไล่จับหลับใจพริ้ม...............................บอกให้คนขำ

อำนาจมีมากล้น.................................มนต์หลาก หลายแล
ใช้บ่อยใจเพลินพราก..........................จากน้อง
แอบจูบลุบไล้ลาก..............................ใจหอบ นาแม่
หอมหน่อยผวนคำพ้อง.........................ยากแท้จริงเชียว

293

พุทธศักราช 2475 องค์เจ้าฟ้าพระราชทานให้
อำนาจการปกครองประเทศไทย ทรงมอบให้ชาวไทยทั่วทุกคน
คือประชาธิปไตยใสสว่าง วิถีทางนำไทยให้เกิดผล
เพื่อประโยชน์ปวงชนโดยปวงชน ได้พ้นจนพ้นทุกข์สุขเป็นไท
ดังนั้นใครผู้ใดใจบังอาจ มุ่งหมายมาดยกตนขึ้นเป็นใหญ่
ยึดอำนาจปกครองทรงมอบไว้ ใช่อื่นใดพวกปล้นโจรกบฏ
เพราะต้องการรักษาความยิ่งใหญ่ กลัวคนไทยหายจนกันเสียหมด
กลัวคนจนเทียบชั้นใจรันทด จึงสกดประชาธิปไตย

292

สัจธรรม แห่งอำนาจ มิอาจป้อง
ผู้เรียกร้อง ความเป็นจริง ที่ยิ่งใหญ่
การต่อสู้ จึงคงอยู่ ตลอดไป
สุดที่ใจ ยังใฝ่หา ความเป็นธรรม

แม้เป็นไทย ใยเสือกใส ดังเป็นทาส
ปิดโอกาส การต่อสู้ เมื่อตกต่ำ
แย้งอำนาจ ที่ครองอยู่ ชิงการนำ
กฏแห่งกรรม จึงไล่ล่า อย่าแปลกใจ

เห็นกันอยู่ มองก็รู้ ไม่เป็นสุข
ต้องแบกทุกข์ ถูกประกบ ให้หลบภัย
จะปกป้อง ประชาชาติ ได้อย่างไร
แผ่นดินไทย เดินไม่ทั่ว มัวหมองตน

291

๏ อาจนำ อำนาจเจ้า...........ชี้นำ
สาวหนุ่ม สุ่มหนาว รำ..........สอดสร้อย
ท่ารำ ทำร่า-ทำ..................ไม-ล่า ไล่แล
ทำล่า ถ้าลำ ร้อย...............ไผ่ปล้องผันผวน

๏ ควรรู้ ครูล้วนผูก.............ไผ่หวาย
ล้อมคอก หลอกค้อมกาย....บ่ได้
เรียวไผ่ ไล่-pure-หมาย......ผ่องผุด
ลำไผ่ 'ลัย,พร่ำ ใช้.............ผูกสร้างศรบัลลัย

๏ ไทยฉ่ำ ทำใช้ล่า.............หาอา-หารฮา
อาวุธ อุดวาจา...................บ่นบ้าง
อำนาจ อาจนำหา...............กินมาก แน่ฤๅ
หน้าที่ หนี้ถ้าสร้าง...............ทาสน้ำเงินเขลา

๏ เล่าคำ รำเข้าป่า...............เขาเขิน
อำราช อาจรำเพลิน.............ไพร่ฟ้า
อำราษฎร์ อาจรำเดิน...........รำดาบ
อำนาจ อาจนำบ้า................เฒ่ากล้าฝืนธรรม ๚ะ

290

อันอำนาจแม้แปลก....................แต่จริง
ฝักใฝ่ไขว่คว้าอิง.......................ชิดใกล้
สาปสางส่งผีสิง.........................สู่ครอบ
พลันหลุดสูญสิ้นให้....................คลั่งบ้าฟั่นเฟือน

ยามมีพฤติกร่างกร้าว..................ฮึกเหิม
แปรเปลี่ยนจากเคยเดิม...............เพริศแพร้ว
ลุอำนาจเหิมเกริม.......................รุกคืบ จึ่งนา
ถูกโค่นล่มถางแผ้ว.....................ขจัดสิ้นเสี้ยนหนาม

สัจธรรมเที่ยงแท้........................ยืนยง
เคียงคู่โลกาคง...........................อยู่ยั้ง
ธรรมประทีบเที่ยงตรง..................สถิตย์ เสถียรแล
สัตย์ซื่อพิสุทธิ์รั้ง.........................ปกแผ้วเผด็จมาร

289

สองมือกร้าน กายกล้า ยืนท้าโลก
สิทธิโชค แห่งชีวา ชลาศัย
สุขสงบ ร่มเย็น มิเข็ญใจ
ดังร้างไร้ ไฟปัญหา แห่งมายา

ทั้งต้น - สาย ปลายเหตุ ที่ก่อเกิด
บ้างอดสู หรูเลิศ เกิดประหม่า
บ้างเพลี่ยงพล้ำ ถลำลึก สำนึก...ล้า
มีสุข .. เศร้า .. เคล้าน้ำตา ... จนชาชิน

คนอยู่สูง หากมองต่ำ คลำทุกทิศ
คนอยู่ต่ำ ใช้ชีวิต เป็นนิจศีล
คนอยู่สูง หากมองต่ำ เป็นอาจิณ
คนอยู่ต่ำ กว่าเมฆินทร์ ย่อมยินดี

คนต่ำขอ มองตะวัน จันทร์ส่องหล้า
ให้เต็มตา ก่อนก้มต่ำ ย้ำศักดิ์ศรี
หากเบื้องบน คือหลังคา ป้องปฐพี
ใยเบื้องต่ำ จะย่ำยี ธุลีแดน ...

288

ความปองดอง สามัคคี อยู่ที่ใจ
เมื่อมีภัย ก็รวมกัน ตามสัญชาติ
ยิ้มสยาม สู้ไม่ถอย คอยโอกาส
สู้อำนาจ ไม่เป็นธรรม จำต้องสู้

ผู้ชนะ คือ ศัตรูชาติ ไม่อาจเถียง
ความไม่เที่ยง ตรงต่อธรรม ยังเห็นอยู่
อาณาเขต แสนศักดิ์สิทธิ์ ปิดประตู
สังหารหมู่ ประชาราษฏร์ อาจเป็นจริง

สัจธรรม นำให้เห็น ในวันใด
ประชาไทย คงร่วมรุก ทุกชายหญิง
ไม่ปล่อยไว้ ให้คงอยู่ ผู้ลอบยิง
ต้องไล่ลิง หลอกเจ้าแท้ ทอดแหเพลิน

สยามประเทศ อาณาเขต แผ่นดินธรรม
มีผู้นำ แผ่นดินทอง ต้องสรรเสริญ
ถ้ายามใด ไม่สร้างสรรค์ ความเจริญ
ต้องขอเชิญ และขอบอก ให้ออกไป

287

ไม่เริ่มต้น กันใหม่ ไม่ไหวแล้ว
ดุจเหมือนแก้ว แตกร้าว ไทยร้าวฉาน
สีเขียวขาว น้ำเงินแดง แบ่งประจาน
หากต้องการ สามัคคี วิธีเดียว
คือจับหลอม รวมกัน ทุกชั้นสี
นับหนึ่งมี เท่าเทียม เอี่ยมมองเหลียว
ยุติธรรม เสมอภาค ไม่ยากเจียว
หลักยึดเหนี่ยว อยู่ตรง องค์ราชัน
เมื่ออภัย ใช้หลัก นิติรัฐ
ทุกบรรทัด มาตรา พาสุขสรรค์
ใครทำผิด คิดร้าย ให้ลงทัณฑ์
เสมอกัน ทุกคน พ้นไม่มี
สยามประเทศ เขตไทย ได้มาตรฐาน
คำกล่าวขาน ในทางร้าย จะพ่ายหนี
กลับมาใหม่ เที่ยวลงทุน หนุนทวี
สยามดี เหมือนเดิม เริ่มได้เลย....

286

สยามประเทศ อาณาเขต แสนศักดิ์สิทธิ์
ดวงอาทิตย์ ร้อนแรงกล้า ฟ้าสั่งฝน
บันดาลให้ ไทยทั่วหล้า หย่าร้อนลน
ประชาชน สันติสุข โดยทันที

เดือนเมษา อากาศร้อน สะท้อนเห็น
แปลเปลี่ยนเป็น ความเย็นฝน พ้นรังสี
กลายเป็นวัน พลันอับแสง แห่งสุรีย์
ฟ้าดินมี ปฏิสัมพันธ์ กันเสมอมา

ภัยโลกร้อน วอนคนไทย ให้ตั้งมั่น
อาจบางวัน พายุร้าย หมายเข่นฆ่า
แสงอาทิตย์ อันร้อนแรง จากฝากฟ้า
คุณธรรมแห่ง เมตตาพา นิรโทษภัย

285

เพราะว่าโลกใบนี้มีสีเทา
ใต้เงื้อมเงาความดีล้วนมีแผล
ความคลุมเครืออึมครึมในดวงแด
ลอยเป็นแพแผ่ซ่านดังม่านบัง

สังคมยังอุดมด้วยเส้นสาย
คุณความดีซื้อขายง่ายดังหวัง
ยิ่งเฉิดฉายในสังคมยิ่งล้มดัง
คอยระวังถูกสาวไส้ให้ไก่กา

ฝุ่นไอหมอกลอยคลุ้งฟุ้งตลบ
ต่างก็กลัวเป็นศพอนาถา
ประดักประเดิดเตลิดนิ่งประวิงเวลา
เพราะสองตาฝ้าฟางด้วยม่านควัน

เพราะว่าโลกใบนี้มีสีเทา
เหมือนหนังเก่าโบราณสยองขวัญ
รู้รักษาตัวรอดยอดกระบวน
ควรมิควรชนะแน่ไม่แพ้ใคร

284

“ความกระจ่าง” คือทางเดียว ที่จะจบ
“การชี้นำ” ฝังกลบ หลบไม่ไหว
“การพิสูจน์” ข้อจริงเท็จ เสร็จเร็วไว
“การยอมรับ” เปิดใจ ยอมให้ทาง

“การค้นพบ” ค้นหา นำมาสู่
ความใฝ่รู้ “สู้ไกล่เกลี่ย” เคลียร์บาดหมาง
ผู้สูญเสีย ไม่เก็บกด ลดเดือดดาล
มือสังหาร ถูกสยบ ลบกระจาย

โลกใบนี้ ลี้ลับ และซับซ้อน
อย่ายอกย้อน อ่อนเอียง เฉลียงหาย
ไร้ที่ยืน มีแต่ แพ้และอาย
เมื่อคนตาย โผล่ยื่นหมาย ....ใคร “ฆ่า” กู ?

หากไร้จิต พิศวง ถือ ..ธง.. มั่น
ตามคำสั่ง “นายท่าน” ดั่งนกรู้
หากด้ามธง หักวันใด ให้คอยดู
ใครจะไป ใครจะอยู่ เดี๋ยวรู้เอง ...

283

เขตทหาร ห้ามเข้า เจ้าปัญหา
ถืออัตตา ตัวตน ผลเขาใหญ่
ใครขืนยุ่ง กับทหาร พาลบรรลัย
คือหลักใหญ่ ใช้ฉุด ยุติธรนรม
หากทหาร โปร่งใส ไร้อภิสิทธิ์
ตรวจุถูกผิด อย่างไร เอาให้หนำ
ศักดิ์ศรีเท่า เทียมกัน ยันผู้นำ
หากปล่อยทำ ดังนี้ มิอึมครึม

282

เพราะละครน้ำเน่าจึงเศร้าหมอง
ควรเห็นพ้องเลิกดูใช่ขู่เข็ญ
ดูมากไปไม่ดีคิดไม่เป็น
ละครเน้นริษยาตาร้อนลุก
ค่อยซึมซับวิญญาณพาลบกพร่อง
คนอื่นต้องด้อยกว่าจึงเป็นสุข
พอเห็นเขาเด่นดีกลับมีทุกข์
ริษยามันจุกเต็มหัวใจ

281

ความคลุมเครือเจือจาวในข่าวสาร
สมองบานบ่าบ้าถ้าหลงใหล
ยากแยกแยะแกะประเด็นเห็นข้างใน
คนใช่ไกลกวนหมุนให้วุ่นวาย

นักสิทธิฯ นิ่งยลเพราะตนต่าง
รู้แต่ข้างเลี้ยวลดช่องกฎหมาย
ข้าราชการเกียร์ว่างเพราะต่างนาย
สื่อทั้งหลายขายสเบียงเพื่อเลี้ยงตัว

เป็นผลกรรมทำไว้คนไทยก่อ
คนไทยก็รับผลที่ชนหัว
ใครมานำทำตามเพราะความกลัว
ใครท่ำชั่วหันหนีเดี๋ยวดีเอง

ควันจางจางกางกั้นคั่นเราอยู่
อยากจะรู้ความจริงให้ตรงเผง
ต้องยืนหยัดคงมั่นไม่หวั่นเกรง
แล้วก้าวไปตามเพลงประชาธิปไตย

280

อึมครึม ซึมเศร้า เหงาหงอย
เฝ้าคอย ยุติธรรม คงมั่น
คลุมเครือ เหลือเชื่อ เบื่อกัน
รอวัน คืนกลับ ร่มเย็น

เป็นไทย เป็นธรรม นำสุข
ปลดทุกข์ ราษฏร ให้เห็น
เสรี ศักดิ์ศรี ดีเด่น
สมเป็น ประชา ธิปไตย

โลกร้อน พอแล้ว ทแกล้วกล้า
อย่ามา แปลเปลี่ยน ชาติไทย
ปกครอง โดยธรรม ยิ่งใหญ่
อย่าใช้ อาวุธ ไล่ล่า

อำมาตย์ อาจหลง ทรนง
ยืนยง เทียบคง คู่ฟ้า
ลืมตัว ดำ-ขาว เจ้ากา
ใบ้บ้า เมามั่ว เผด็จการ

279

คลุมเครือหรือเลือกข้าง............................นั่งดู
ชนะพ่ายแพ้ศรัตรู...................................อยู่ด้วย
นั่งดูอยู่บนภู..........................................ดีกว่า
ใครพลาดพลั้งใครม้วย............................เลือกด้วยช่วยเฮ

ใครเล่าเขาจะบ้า....................................เลือกใคร
เฉยอยู่ดูนั่งสบาย...................................แน่แท้
ขืนลงคลุกฝุ่นไป...................................เจ็บปวด
พวกเลือกตั้งไม่แพ้................................พวกแพ้ข้าราชการ

สื่อสารยังอยู่ด้วย...................................อุปถัมถ์
ขืนบิดเบือกข่าวนำ.................................ออกหน้า
พลาดไปยิ่งระกำ...................................ลำบาก
ดุละครเจิดจ้า........................................ตบแล้วแย่งผัว

เกียร์ว่างต้องใส่แล้ว................................ตาลอย
เช้าค่ำนั่งเฝ้าคอย...................................รับให้
เงินเดือนนิดเดียวถอย.............................รถดับ
เกียร์ใส่เดินหน้าไซร้...............................อาจได้ชนกำแพง

อึมครึมและซึมเศร้า................................ต่อไป
สอนบอกลุกหลานไทย...........................ทั่วหล้า
อันการเลือกตั้งใด..................................ไม่บริสุทธิ์
แจกจ่ายเงินเลือกข้า...............................อย่าได้สนับสนุน

278

ความคลุมเครือ อึมครึม ทำซึมเศร้า
ความหงอยเหงา เศร้าหา ระลอกใหม่
เสียงระงม ตรมตรอม ไม่พร้อมใจ
ทำไฉน ไอคลุมเครือ จะเจือจาง

มีแต่ความ ก้ำกึ่ง ยิ่งบึ้งครึ้ม
บ่นงำงึม ใครนะ … จะสะสาง
หันเหไป ไม่เห็นใคร ไม่เห็นทาง
ตาฝ้าฟาง พลางหรือบอก หลอกอะไร !?!

จิตสะดุ้ง พาสะดิ้ง ยิ่งเตลิด
ชนวนเกิด ระเบิดอับ ดับตรงไหน !?!
ระเบิดเกิด ชนวนก่อ จะล่อใคร !?!
จึงลั่นไก ไหวสนั่น ให้พรั่นพรึง

นักสันติวิธี ... นักเขียน -.คิด. !?!
นักสิทธิ-มนุษยชน ... อยากบ่นถึง ...!?!
นักกฎหมาย ทนายธรรม ... ย้ำคนึง ...!?!
เพรียกรำพึง ... ถึงสื่อสาร มวลชนไทย

ขบวนการ ยุติธรรม ... สังหรณ์นัก !?!
ผู้พิสูจน์ เอกลักษณ์ ... เธออยู่ไหน !?!
ผู้อาสา เพื่อนผู้กล้า ... อย่าหลบไป !?!
เพื่อนข้าราช-การใย ... ไม่ออกมา !?!

ควันหรือหมอก หมอกหรือไอ ไม่อาจรู้
ลอยฟุ้งอยู่ ดูสงบ กลบอนาถา
ประดักประเดิด เตลิดตลิ่ง ประวิงเวลา
กะโหลกกะลา... ท้าเล่นกับไฟ... จะหาไม่เตือน!?!

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

277

ไม่อยากออก กฎหมาย อภัยโทษ
ขอได้โปรด เอาให้หนัก ทุกพรรคเหมา
มีข้อหา กี่กระทง ลงทัณฑ์เอา
สอบให้เข้า ก่อการร้าย ใช้เป็นเกณฑ์
สอบให้ถึง คนช่วย ด้าวยเงินหนุน
ใช้เป็นทุน เคลื่อนไหว ชี้ให้เห็น
บริษัท ห้างร้าน ชาวบ้านเป็น
จ่ายเงินเห็น เป็นประกาศ ทุกบาทไป
ผิดต่างกรรม ต่างวาระ อย่าละเว้น
กี่ประเด็น เห็นหมด ถ่ายสดใส
เอาอย่างนี้ นะหรือ หนักคือใคร
เหลืองใช่ไหม ไม่ใช่แดง เทียบแข่งดู

276

นิรโทษกรรม นำชัย ไขทางออก
ทางอื่นนอก จากนี้ มีไม่สวย
ไม่แยกชั้น แยกชน แยกจนรวย
ยกโทษช่วย เสมอกัน ทุกขั้นตอน
คนทำผิด การเมือง เรื่องของชาติ
คนเราอาจ หลงทำ ตามคำสอน
เริ่มต้นใหม่ ในชีวิต คิดสังวรณ์
วันเก่าก่อน เคยผิด คิดเป็นครู
หากไม่ทำ อย่างว่า หาทางออก
จะย้ำตอก แตกแยก แหลกอดสู
แบ่งฝักฝ่าย เป็นพวกมัน นั่นพวกตู
ธรรมไม่รู้ อยู่ไหน หาไม่เจอ....

275

นิรโทษกรรมเท่านั้น ทางออก
หากไม่ทำขอบอก ยากแก้
ทางอื่นไม่มีหรอก จงเร่ง ทำนา
จะไม่มีใครแพ้ แก่นแท้ แก้ถูกทาง

การดึงเกมส์เรื่องช้า เกินกาล
จะส่งผลเสียนาน หลากด้าน
เศรษฐกิจสังคมฐาน ไทยเสี่ยง
ทำด่วนส่วนมีค้าน ชาวบ้าน ลงประชา

ทุกฝ่ายประโยชน์ได้ เสมอกัน
ทางสู่สมานฉันท์ พี่น้อง
ผิดพลาดอภัยกัน ทุกอย่าง
คิดต่างไม่สอดคล้อง ต่างต้อง รับฟังกัน

274

สุดทน ต่อสู้ พักรบ
ใช่สยบ หยุดรอ ฟ้าใหม่
ต้องตรวจ ไพร่พล คนใด
เปลี่ยนไป แปลกปลอม ปนมา

ต้นเหตุ แห่งความ สับสน
เล่ห์กล ของความ อิจฉา
กิเลส ส่งผล จรรยา
เจรจา ท่าที ทรนง

ใครดี ใครชั่ว มัวเมา
ดูเอา ก็รู้ กาหงส์
ตัวเรา ก็ต้อง ปลดปรง
อย่าหลง ร่วมผู้ เผด็จการ

สยาม ยิ้มสู้ ปลุกใจ
กู้ไทย แสนสนุก สุขสนาน
ด้วยจิต ผุดผ่อง เบิกบาน
อุดมการณ์ ประชา ธิปไตย

273

เมื่อแค้น โกรธเคือง ใครเขา
ต้องเอา เลือดล้าง จริงหรือ
ลองหยุด จ้องพิศ ฝ่ามือ
จะถือ ของหนัก ทำไม

ตั้งใจ ปล่อยวาง ดวงจิต
ลิขิต ชีวิต ทางใหม่
โกรธเกลียด คนอื่น ทุกข์ตาย
อภัย ให้เขา เบาตัว

272

ดูเหมือนเป็นนิยายสุดร้ายลึก
ไยคนเดียวทำศึกครบรอบด้าน
ทั้งผลักไสไล่ล่าด่าประจาน
เกินพอดีกับข่าวสารทุกวันนี้

ขี้ไม่ออกเยี่ยวไม่ออกบอกเพราะเขา
สังคมเราหามแห่แต่สาดขี้
ไม่เคยโทษตัวเองรำไม่ดี
ยินเสียงปี่เสียงกลองก็จ้องลุย

271

๏ ความจริงวันนี้ ไม่.............รู้คน อะไรแล
นามว่า คน คนกล...............ลูกกลิ้ง
กริยาว่า คน ผล..................กวนป่วน เละนา
วิเศษว่า คน เขี่ยทิ้ง.............บ่ใช้ใน'พจนานุกรม'

๏ สมแล้ว คน ไม่รู้..............ความจริง
ต้นตระกูลนาม ลิง...............หลอกเจ้า
อากัปกิริยา สิง...................สาราสัตว์
คนวิเศษ น่าเศร้า................โลกนี้มีไหม

๏ ภาษาไทย ที่แท้..............ภาษาใจ
คำศัพท์ จับกระเดียดไป........บ่นบ้า
เข้าใจ ฤ ว่า-ใคร..................เจ้า-นั่น
คำว่า 'เจ้าคน' สั่งข้า.............เชื่อข้าต้องทำ

๏ ขำ 'นายคน' คนชี้สั่ง..........คน'นาย-คน'แล
คนที่คน จนตาย..................ไม่รู้
คณ อีกหนึ่งนาม หมาย.........ถึง'คณะ-คน'นา
รวมหมู่ช่วยคน ผู้.................สั่งซ้าย-ขวาคน

๏ วนในอ่าง ต่างรู้................พายเรือ
ชี้มั่ว ชั่วมี เขือ....................มั่วชี้
กระลาครอบกบ เหลือ..........แต่-กบ เจ้า-ฤๅ
ฟ้าครอบ คน ขณะนี้.............กบเจ้าคณะไหน

๏ กบเลือกนาย ไม่รู้.............เลือกนาย กบฮา
อาทิตย์จันทร์ ผันผาย...........ผ่านฟ้า
อาถรรพ์จิต วุ่นวาย...............คนไม่-ผ่านแล
รู้เมื่อสายแล้ว หน้า...............มืดชี้มั่วกัน

๏ ความจริงวันนี้ มั่ว..............อาทิตย์จันทร์
บ้านพระอาทิตย์ บ้ากัน..........ใหญ่แล้ว
บ้านจันทร์ส่องหล้า มัน..........ชี้มั่ว แน่ฤๅ
จันทร์กระจ่างฟ้า แผ้ว...........ผ่องแล้วฤๅไฉน ๚ะ๛

270

มีเรื่องตั้ง มากมาย ใช้กล่าวอ้าง
เพื่อยับหยัง คนดี ที่เกื้อหนุน
ปวงประชา เปรมปรีดิ์ ที่การุณ
แต่พวกคุณ ทำลาย ให้จากลา


เหมือนถูกบีบ ดวงใจ ให้ตายดิ้น
ท่านทักษิณ ต้องฉาว ถูกกล่าวหา
คดีความ ช่อฉน จนระอา
ที่ทำมา มากมาย คล้ายแกล้งกัน


คนคนเดียว ที่ว่า พาเสียหาย
กล่าวหามากเกินไป จริงนะนั่น
ย้อนดูก่อน ใครหนอ ตอสำคัญ
ที่ปุกปัน ทำกันจนวุ่นวาย


จนมาถึง วันนี้ เกินจะกล่าว
ด้วยเรื่องที่ ปวดร้าว เราทั้งหลาย
อันปมเหตุ ก่อนนั้น มันมากมาย
ใครนะคิด ทำร้าย ใจประชา


ความอดทน อดกั้น นั้นถึงขีด
เพราะใจเหมือน ถูกกรีด ด้วยมีดผา
จึงต้องสู้ เรียกยุติธรรม นำคืนมา
คือประชา ธิปไตย ให้มวลชน/...

269

๐๐๐คนเดียวดังดีเด่น เดี่ยวโดด
กิเลสหลงโลภโกรธ อิจฉา
ข้อหากุกล่าวโทษ กฏใหม่
สุมใส่ความอาญา ไร้ท่าขบวนธรรม

๐๐๐คนเดียวจรจากไป ไกลห่าง
หนี้ทุกข์คุกตะราง มิชอบ
เป็นไทยเป็นธรรมอย่าง ตกขอบ
มาตราฐานสองกรอบ ครอบงำอำนาจรัฐ

๐๐๐ด้วยสิทธิ์เสรีชน ต่อสู้
เล้นกายหายเข้าสู่ สากล
เป็นพลโลกดังผู้ ไร้ชาติ
โดนอำนาจฉ่อฉล ปล้นล่าความเป็นไทย

268

ทีมเดียวเป็นกลุ่มก้อน ทหาร
ปฏิวัติรัฐบาล ถูกต้อง
ล้มรัฐธรรมนูญฐาน เกิดก่อ เหตุนา
ทุกอย่างยุ่งขุ่นข้อง พี่น้อง ทะเลาะกัน

กฤษฎีกาเลือกตั้ง กำหนด
คนที่จิตใจคด เกี่ยวข้อง
ใช้อำนาจปืนปลด ทำก่อน เลือกนา
ดีชั่วเห็นไม่พ้อง ใยต้อง ปฏิวัติ

ชาติบ้านเมืองต่ำเตี้ย ปฏิวัตื
เพียงเพื่อหวังกำจัด ชื่อแม้ว
มูลเหตุเพราะเก่งจัด เกินกว่า อำมาตยา
จุดเสื่อมชาติเกิดแล้ว ดุจแก้ว ร้าวรอย

267

คนคนไหนกิเลสหนา สร้างเรื่อง
ริบอำนาจสิทธิพลเมือง ดับสูญ
ขยายศักดินากร่างฐานะ เพิ่มพูน
รัฐธรรมนูญย้ำแผลร้าย เน่าใน

คนคนยากสุดจะทน อยู่เฉย
ประกาศสู้สังคมเลย ขัดแ้ย้ง
แบ่งแยกขั้วแม้นเคยร่วม หม้อแกง
นองเลือดแดงยังมีคน สะใจ

คนคนถืออำนาจมือ เปื้อนเลือด
อยู่ต่อไปสังคมเดือด บ้าคลั่ง
พอเถิดโปรดก่อนประเทศ ไทยพัง
ฟังสักครั้งเถิดพ่อหน้า ตาดี

266

ยุติธรรมน่ะ มีไหมในไทยนี้
ทำเรื่องที่เปิดเผย เซ็นชื่อให้
ภรรยา ประมูลที่ไม่ผิดอะไร
ตัดสินให้ผัวผิด ผิดพิกล

เห็นได้ชัด เรื่องการเมือง ฝ่ายชั่วช้า
อ้างเอามากฏหมาย ทำฉ้อฉล
ดับอนาคตการเมือง ของหนึ่งคน
เพียงเพราะผล ความกลัว ทำเสื่อมเสีย

เท่านั้นไม่เพียงพอ ฝ่ายคนชั่ว
ตามเอาตัว รังควาน จนละเหี่ย
คนจนตรอก จนใจ ไม่กลัวเสีย (แล้วว่ะ)
คงจะเคลีย ให้พัง กันทั้งเมือง

265

กรรมนั้นเองเร่งผลไม่พ้นวิถี
กฎเหล็กนี้จะเป็นใครไม่อาจต้าน
ยิ่งกงเกวียนกำเกวียนใหญ่ได้คืบคลาน
การเคลื่อนผ่านเร็วขึ้นทุกทุกที

กงล้อความยุติธรรมย่อมนำหมุน
เพื่อก่อดุลขึ้นใหม่โดยคลายคลี่
กรรมของใครยอมรับมาอย่ารอรี
เพราะไม่มีใครหนีพ้นผลของกรรม

264

คนคนเดียวสร้างเรื่อง..................วุ่นวาย
ลามลุกแพร่ขยาย.......................แผ่กว้าง
แทบย่อยยับมลาย......................วายวอด
ประชาธิปไตยอ้าง.......................ช่างร้ายเหลือทน

คนเดียวกันหลบลี้........................หนีหาย
หนีคุกหนีคดีหมาย.......................สั่งฟ้อง
สถานะจึงกลาย...........................เป็นนัก โทษนา
มารับโทษกู่ร้อง..........................เรียกเค้าไม่มา

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

263

เราควรเลือก อยู่ให้ได้ ทั้งที่รู้
หรือจะอยู่ อย่างไม่รู้ มองไม่เห็น
รู้ทั้งรู้ แต่ต้องอยู่ ด้วยจำเป็น
หรือรู้เห็น แกล้งไม่รู้ แล้วอยู่ไป .!?!.

เราควรเลือก ที่จะทำ ทั้งที่รู้
หรือแค่ดู ไม่กระทำ ทั้งสงสัย
หรือกระทำ เพราะไม่รู้ เท็จจริงใด
หรือเฉไฉ ว่าไม่รู้ จึงกระทำ .!?!

เราควรเลือก ต่อสู้ ทั้งที่รู้
ทั้งไม่รู้ แพ้ - ชนะ หรือสูง – ต่ำ
หรือยอมแพ้ แกล้งไม่รู้ หยุดกระทำ
แกล้งเพลี่ยงพล้ำ ทั้งที่รู้ ดูเหตุการณ์ .!?!

เราควรเลือก ที่จะถอย ทั้งที่รู้
ไม่ขอเสี่ยง ต่อสู้ รู้แตกฉาน
หรือจะถอย แกล้งไม่รู้ เก็บอาการ
หรือแกล้งถอย เพื่อให้มาร นั้นไม่รู้.!?!

เรารู้หรือ ว่าจะจบ หรือจะจอด
แม้จะปอด ยังอยากจบ จึงสุดกู่
หรือปล่อยไป ไม่รู้จบ แก่ศัตรู
หรือต้องจบ เพื่อให้รู้ กันไปเลย .!?!

เรารู้ใจ ตัวเรา ดีแค่ไหน .!?!
หากแน่วแน่ อยากแก้ไข ย่อมไม่เฉย
หากไม่แน่ เหมือนไม่รู้ อยู่อย่างเคย
ช่วยเฉลย เปิดไพ่ ใบสุดท้าย

คำถามที่ วกวน ข้างบนนั้น
ใช่คิดปลุก ปั่นแม่น้ำ หลายร้อยสาย
ด้วยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา ทั้งดี – ร้าย
ล้วนสะท้อน “คำตอบสุดท้าย” หลากหลายมุม

262

ขอคารวะ เพื่อนกวี ศรีไศล
ผู้คงไว้ ประสบการณ์ อันหลากหลาย
ต่างมุมมอง ต่างคิดเห็น ประเด็นกลาย
เราถือว่า ทุกผู้นาย ล้วนเป็นครู

การประชัน ความคิด ทางปัญญา
เราค้นหา จากพวกท่าน นั่นแหละ..สู
เราต่อกลอน ด้วยท่าน นำให้รู้
ตาคอยดู หูคอยฟัง หลังไม่พิง

หากเรียนรู้ "รู้จักธรรม" นำชีวิต
ย่อมมากมิตร ผู้เจริญ เพลินเพริศพริ้ง
แต่เรานั้น อยู่ในโลก แห่งความจริง
ซึ่งไม่อิง กับพระธรรม คำสั่งสอน

คนเราหนา เกิดมา เพื่อรอดับ
จะตายลับ ยังไม่อาจ รู้ตัวก่อน
หากปิดหู ปิดตา ไม่อาทร
ถึงตอนนั้น จะย้อนนึก ตรึกเมื่อสาย

อยู่ประคอง ชีวิต มีสิทธิ์อยู่
เราต่างรู้ ใครไม่เคย ทำเสียหาย
ความผิดพลาด เราต่าง มีมากมาย
บางบทดี บางทีร้าย ไม่ต่างเลย

261

ก่อการใหญ่ ใช่เรื่องง่าย ดังที่คิด
เมื่อยังผิด ในคำพูด พิสูจน์ได้
สัจธรรม นำให้เห็น ที่เป็นไป
ประชาธิปไตย ไทยหมกเม็ด เผด็จการ

จึงมิกล้า ยุบสภา หรือลาออก
ใครก็บอก คืนอำนาจ บริหาร
คงไม่ยอม เสียโอกาส เป็นรัฐบาล
ตามต้องการ นานแสนนาน เฝ้ารอมา

จึงร้องหา สมานฉันท์ กันอีกหน
ประชาชน เห็นสุดเอื้อม เอือมระอา
เมื่อได้ที ขี่แพะไล่ ไม่นำพา
ที่เรียกหา ความปองดอง เพื่อครองไทย

ไม่ครองธรรม เป็นผู้นำ ที่กลับกลอก
ถ้าต้องออก มิอาจกลับ คืนมาใหม่
จึงสู้ทน ให้แบกหน้า อยู่ต่อไป
โอ้ ประชา ธิปไตย ในมือโจร

260

ถึงอย่างไรแดงสู้ไม่รู้ถอย เหลือเพียงน้อยลมหายใจก็ไม่หนี
ไม่อยากอยู่ใต้อำมาตย์แม้นาที คนพวกนี้เป็นใครได้ปกครอง
แอบซ่อนรูปเข้ามาน่าอายนัก เพียงเพื่อจักลุตัณหาตอบสนอง
หวังตนได้ยิ่งใหญ่ดังใจปอง ทุกคนต้องสยบซบบารมี
กิเลสหนาตีหน้าทำย้อนยอก กลกลับกลอกชักใยคล้ายภูตผี
เที่ยวหลอกหลอนผู้คนว่าตนดี คุณธรรมมีเลิศล้นพ้นเหนือใคร
แท้ที่จริงอีแอบแยบคายนัก มาล้วงลักอำนาจอันยิ่งใหญ่
อำนาจการปกครองของคนไทย ถูกมารร้ายครอบงำอมอำพราง

259

คิดการใหญ่สิ่งนี้ดีบริสุทธิ์
ไม่สะดุดล้มคว่ำคะมำหงาย
ใจประเสริฐเลิศล้ำไม่ช้ำกาย
หยุดท้าทายต่อกรละครคน

ลดกิเลสอคติฐิฑิได้
สู้ด้วยใจและจิตคิดเหตุผล
การต่อสู้รู้แจงแปลงใจตน
ใช้มวลชนกดดันมันวุ่นวาย

มีทางเลือกหลายหลากหากจะคิด
ทุกชีวิตเกิดมามีความหมาย
อย่าเหยียบย่ำข้ามชีวิตคิดสบาย
ที่เรียงรายล้มร่างสร้่างทางเดิน

คิดการใดจงคิดให้รอบครอบ
มีคำตอบด้วยใจใช่ห่างเหิน
มีวิถีนำไทยให้เจริญ
จะร่วมเดินด้วยคนชนด้วยใจ

258

คิดจะก่อ “การใหญ่” ใช่เรื่องง่าย
ถ้าบังเอิญ โชคร้าย ทำเสียเรื่อง
อย่าบุ่มบ่าม หยามตน จนขัดเคือง
ทำต่อเนื่อง อย่ากลัวเปลือง กายและใจ

ลองค้นหา ด้วยปัญญา อย่าเพิ่งโกรธ
ลองตั้งโจทย์ หาคำตอบ เหมือนสอบไล่
จุดแข็งที่ ดีอยู่แล้ว รักษาไว้
จุดอ่อนที่ มีมากไป ให้ทบทวน

ย้อนกลับมา พิจารณา ที่ “การใหญ่”
ต้องไม่เป็น พิษภัย ให้ผันผวน
ต้องสมเหตุ สมผล และสมส่วน
ควรมิควร.. ? ทำเพื่อใคร... ? ได้อะไร... ?

“บริสุทธิ์” ... “สุจริต” .... “จิตประเสริฐ”
“ไม่ละเมิด” ... “ตระบัดสัตย์”...”ตระหนักไหว”
“ไม่ก่อกรรม” ... “ทำเข็ญ” ... “เป็นเลศนัย”
“ต้องโปร่งใส” ... “ให้ประโยชน์” ... “โทษไม่มี”

“รอจังหวะ” ... “ กะเวลา”...” ให้เหมาะสม”
“เร่งระดม” ... “ความคิด”...” ให้ถ้วนถี่”
“มีทีมงาน” ... “มีผลงาน” ... “การันตี”
“ต้องมุ่งดี” ... “หยุดให้ร้าย” ... “หายโกรธา”

ร่วมปรึกษา หลากความคิด ใช่คิดหนึ่ง
ยอมรับฟัง อย่าดันดึง ขึงโทษา
อัน “การใหญ่” ที่ผิด ธรรมจรรยา
มันไม่สม ราคา “หย่าศึก” พลัน

หากเดินหน้า หาผลลัพท์ อย่างสันติ
มีกติ – กาสากล แห่งชนชั้น
ที่ทุกคน มีส่วนร่วม เท่าเท่ากัน
แถมสุขสันต์ ปันสักนิด ติดปลายนวม

แล้วคิดว่า “การใหญ่”นี้ มีทางไหม ?
ต้องถามจี้ ที่หัวใจ ของแนวร่วม
จะแน่ใจ กี่เปอร์เซ็นต์ เสียงส่วนรวม
เขาจะสวม หรือจะถอด อุดมการณ์

วันเวลา จะเป็น เครื่องพิสูจน์
“พหูสูต” จะเกิดหนึ่ง หรือเกิดล้าน
“ความสำเร็จ” จะกลาย เป็นตำนาน
หรือถึงกาล “อวสาน” ปิดฉากลง