วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

30

ตามเข้ามาอ่านกลอนในตอนบ่าย
ทั้งสองฝ่ายร่ายความเห็นประเด็นเรื่อง
สนุกกว่าเคยมาอ่านห้องการเมือง
ไม่เปล่าเปลืองที่เข้ามา...ขอพาที

อันคนที่ดีพอต่อทุกผู้
ย่อมเรียนรู้และรักในศักดิ์ศรี
ย่อมเคารพย่อมจริงใจในฤดี
เมตตามีเพียงพอให้อภัยกัน
ถ้าเธอไม่เบียดเบียนใครให้ทุกข์ร้อน
จะเป็นพรนำไปสู่ประตูฝัน
ธารสีทองเรื่อยไหลในฝันนั้น
คือทางอันสงบสุขทุกผู้นาม

29

ความบิดเบือน ปิดหูตา ประชาชน
ใช้เล่ห์กล แย้งอำนาจ เข้าบริหาร
ประชาธิปไตย หมกเม็ด เผด็จการ
เมื่อรัฐบาล แสดงออก บอกภาพลักษณ์

การกู้หนี้ และกู้หน้า ประสามาร์ค
คงลำบาก ประชาชาติ เห็นประจักษ์
อ้างกฏหมาย กระหายเลือด เดือดดาลนัก
มิใช้หลัก รัฐศาสตร์ การปกครอง

ให้สั่งการ ทหารออก มาทำไม
ประเทศไทย กลายเป็นเถื่อน เหมือนแบ่งสอง
ที่ล่าไล่ ลงใต้ดิน มิไตร่ตรอง
มีมุมมอง เมาอำนาจ อำมาตยา

รู้ๆอยู่ คนไทยสู้ ไม่ยอมถอย
จงอย่าปล่อย ให้ฉุกเฉิน เกินปัญหา
ลดกิเลส โลภโกรธหลง และอัตตา
ใช้ปัญญา สภาวะนำ ธรรมปกครอง

ไม่ปองดอง อย่าร้องหา สมานฉันท์
เล่นเกมกัน ทางการเมือง อย่างยิ่งผยอง
อำนาจรัฐ ผลัดกันชม ได้สมปอง
ก็ควรต้อง สนองประชา ทั้งแผ่นดิน

ยังแบ่งสี แบ่งขั่วข้าง แบ่งทางเดิน
คงหลงเพลิน อำนาจรัฐ ที่หัดบิน
จะไปได้ นานเท่าใด ให้ยลยิน
ไม่ติดดิน ก็สิ้นหวัง ประชานิยม

28

เมื่อเหตุการณ์ ผ่านไป ได้ข้อคิด
ช่วยสะกิด กันบ้าง อย่างสร้างสรรค์
ด้วยข้อความ คลาดเคลื่อน บิดเบือนกัน
ที่ปลุกปั่น ป่าวร้อง ก้องเวที

จะขอยก ตัวอย่าง เอ่ยอ้างบอก
เพื่อช่วยตอก ย้ำเติม เพิ่มจากนี้
ถึงแกนนำ กลุ่มไหน ให้รักดี
คิดถ้วนถี่ มีจรรญา หน้าฝูงชน

บนถนน คนชุมนุม สุดคลุ้มคลั่ง
จากฝากฝั่ง ฝ่ายแดง ทุกแห่งหน
รวมพลั่ง ดั่งว่า จราจล
ร้องตะโกน บ่นหา ประชาธิปไตย

รัฐบาล สั่งการ ทหารกล้า
ให้ออกหน้า โน้มน้าว กล่าวปราศัย
ให้เลิกปิด เปิดทาง อย่างเร็วไว
โดยอาศัย ใช้กฏหมาย ขั้นร้ายแรง

สีเรืองรอง ทำชั่วไว้ ได้แบบอย่าง
ขอทำบ้าง เอ่ยอ้า อย่ากำแหง
เลยเป็นเหตุ สลายกลุ่ม ชุมนุมแดง
ท่ามกลางแสง ไฟรุม ที่สุมเมือง

ประกาศก้อง ร้องดังดัง ฟังพี่น้อง
พวกเพื่อนพ้อง ตายออ อย่างต่อเนื่อง
ด้วยทหาร พาลยิง ทิ้งเนืองเนือง
นับเปลืองเปลือง ตายห่-า กว่าร้อยคน

ขอเพื่อนพ้อง น้องพี่ สีแดงแดง
ทุกหนแห่ง หวนมา อย่าฉงน
ณ บัดนี้ ทหารฆ่า ประชาชน
ต้องการคน ตายเติม เพิ่มปริมาณ

ด้วยความจริง สิ่งที่เห็น เป็นตัวอย่าง
ที่เอ่ยอ้าง สิ่งใด ไร้หลักฐาน
เพื่อยุยง ส่งเสริมความ ตามต้องการ
ด้วยคิดอ่าน การณ์ใด ให้คิดดู

แถมปิดบัง ข่าวสาร ของบ้านเมือง
ทุกๆเรื่อง สื่อมวลชน คนขี้ตู่
ทั้งสื่อใน สื่อนอก หลอกคนดู
ให้เชื่อกรู กรอกหู อยู่ทุกวัน

อันความจริง วันนี้ ที่พี่จัด
ดูขัดขัด ข้องใจ ให้ไหวหวั่น
ไร้หลักฐาน สรรหา มายืนยัน
หลอกคนไป วันวัน มันน่าอาย

27

กลัวเช็คบิล ที่กินมา ไม่ยอมจ่าย
กลัวอดตาย อาจตกงาน ราชการแก่
กลัวที่สุด เป็นมนุษย์ ผู้อ่อนแอ
กลัวความจริง ที่เที่ยงแท้ ถูกเปิดเผย

สัจธรรม คงนำทาง ให้ได้เห็น
คนดีเด่น อยู่ไม่ได้ ควรเฉลย
ความอิจฉา ทั้งริษยา เช่นอย่างเคย
ไม่น่าเลย เสียโอกาส ชาติเจริญ

26

คือความจริง ในวันนี้ ที่ได้เห็น
ทุกอย่างเป็น ตามกฏกรรม นำสู่ผล
ประชาธิปไตย เป็นเหตุให้ ต้องร้อนลน
ด้วยเปรอะปน เผด็จการ ประสานสี

จึงทำให้ ไทยวันนี้ ไร้ทิศทาง
เดินเก่งกร่าง แกว่งเกาะกุ่ม รุมไล่หนี
เกิดมวลชน คนหลืองแดง แข่งร้ายดี
อย่างไม่มี ความเป็นธรรม และเป็นไทย

25

เป็น ประชาธิปไตย หมกเม็ดเผด็จการ
เป็น รัฐบาล ปากปราศัย ใจเชือดคอ
เป็น กฏหมาย ที่ตราไว้ ให้หักงอ
เป็น หัวตอ ให้รัฐบาล คลานสี่ขา

เป็น อะไร รู้แก่ใจ ไปตามกรรม
เป็น ผู้นำ วืสัยทัศน์ เจ้าปัญหา
เป็น ที่รัก มวลหมู่เหล่า อำมาตยา
เป็น โซดา ผสมเหล้า เมาอำนาจ

เป็น หุ่นเชิด เปิดประเด็น นิรโทษกรรม
เป็น แกะดำ หรือกาขาว ผู้ผุดผาด
เป็น เป้าหมาย ถูกไล่ล่า ประชาชาด
เป็น ประสาท แห่งทรายทอง ของพจมาน

24

ขอโทษที ... เพื่อนทั้งผอง
เราจำลอง ... ใช่เหยียดหยาม
เป็ดน้อย ... ถ้าเกินงาม
เรานิยาม ... ว่าเกินตัว


นักการเมือง ... ที่เป็นเป็ด
ปล่อย "หมัดเด็ด" ... ต้องไม่ "มั่ว"
ต้องรู้ กำลังตัว ... อย่ามัวแต่ สร้างศัตรู


ประชาชน เรียกใช้ท่าน ... ท่านผู้นำ ท่านพึงรู้
เป็ดน้อย น่าเอ็นดู .... ดำรงอยู่ อย่างรู้การณ์


เราด้อย ... ด้วยปัญญา
อย่าถือสา ... อ่านแค่ผ่าน
เรามิอาจ ... สื่อประสาน
ให้ท่านได้ ... เข้าใจกลอน

23

การใด “ยาก” หาก “งาบ” มา แบบ “มักง่าย“
ยามเสีย “หาย” กลายลืม “ยาก” ฝาก..กังฉิน
เปรียบฝูง “เป็ด” คิดลึก จะฝึกบิน
คงมิอาจ โผผิน บินดั่ง “นก”

ปาก ระ “พร่ำ” ตำ บอน ชอนให้ “รั่ว”
ย่อมเกรง “กลัว” มั่ว “อุด” ปาก สกปรก
เปรียบฝูง “เป็ด” ท้าว อ้าง ง้าง...จิก..ชก
น่วม ช้ำ ฟก เพราะ ชก ไล่ ใส่ “ไก่ชน”

การตีรวน สวน กลับ ดับกระแส
แย่กว่าแย่ แปร กลับ ดับเหตุผล
เปรียบฝูง “เป็ด” คิดว่าย ทวนสายชล
ว่ายเวียนวน เข้าตาจน หมายข่ม “ปลา”

การหลงลึก ยึกยัก แล้วทักทึก
เดินยักยึก ฉุยฉาย ไม่อาย “หมา”
เปรียบฝูง “เป็ด” ยกตน ข่มฝูง “กา”
ข้านั้นหนา คือ “หงส์” จงจดจำ

ฝูง “เป็ด” เอ๋ย ใครยกยอ ปอปั้นเจ้า
คิดหลายเส้า เจ้า บ่... ยั่น ปั้น ซ้ำ ซ้ำ
ต่อให้ “เป็ด” กลายเป็น “หงส์” ได้สมคำ
สัตว์-คือ-สัตว์ วันยังค่ำ ต้องย้ำเตือน

22

๏ ข้าหวิด คิดว่า ข้า.............เหนือคน
ข้าใหญ่ ใครอย่า ซน............เบิ่งหน้า
ข้าจับ ครับจ่า ลน.................ลานกราบ ข้าเวย
ข้าบิด ข่าว คิดบ้า.................ฆ่าสร้าง สถาณการณ์ ๚

๏ นั้นแหละ แนะลั่น บ้าน......ก่อนสาย
นั้นกล่าว nowกลั่น กลาย......กลัดกลุ้ม
นั้นคิด นิดครั้ง คลาย...........คราหม่น ใจแล
นั้นอย่า ยานั้น อุ้ม...............ห่อเชื้อ หลอกยา ๚

๏ รักกัน ลั่นกัก ไว้................ผิดทาง
รักปล่อย ลอยปลัก วาง.........ว่างเว้น
รักห่วง ร่วงหัก นาง..............อย่าหัก โหมเฮย
รักเก็บ เล็บกัก เต้น...............แบ่งเส้น บอบบาง ๚

๏ สงบให้ ใช้งบ ต้อง...........เหมาะควร
สงบทิศ คิดทบ ทวน............ถ่องแท้
สงบจิต คิดจบ จวน.............สัมผัส ได้นา
สงบแน่ แชร์งบ แล้.............ทั่วถ้วน ยุติธรรม ๚ะ

21

๏ ใจคริสต์ จิตใคร่ ล้าง.........บาปหมด บาปฤๅ
ใจแขก แจกไข้ หมด............บาปร้าย
ใจพุทธ จุดไพร่ ลด..............บาปละ บาปเวย
ใจทิด จิตไทย ป้าย..............บาปรู้หลายปาง

๏ ล้างบาป ลาภบ้าง บาป.......ใหม่ลอบ ล้างเวย
หมดบาป หมาบบด หมอบ......ลาภสิ้น
ลดบาป ลาภบด มอบ............ใส่บาตร พระนา
รู้บาป ลาภบู้ ปลิ้น.................แลบลิ้นลาภหลง

๏ ลาภสงฆ์ หลงทราบ ซึ้ง.......ห่วงหวง
มีห่วง ม่วงฮิ กลวง.................ห่วงคล้อง
หงส์ร่วง ห่วงหลง หลวง..........พ่อสวด เทศน์แล
รุนห่า ราหุล จ้อง...................พุทธเจ้าตัดใจ

๏ ห่วงไหม ไหม่วง ห้อย..........หอยหลวง
สาธิต สิทธา หวง...................ห่วงล้อม
คำแนะ แคะนำ กลวง..............หมองคี่ เลื่อยฮา
คำลาภ คาบรำ น้อม...............กราบเท้าเจ้านาย

๏ มั่วหลาย หมายรั้ว ปัก...........ป้องกัน
กันท่า กาทั่น มัน....................ปากแห้ง
ไก่หมด กฎใหม่ ฉัน................ได้ลาภ
เลือกบาป ลาภเบื๊อก แร้ง.........เฒ่าทึ้งทุกฐาน

๏ งาบบาน งานบาป เจ้า............ห่าวิ-ชาการเวย
สินบาป สาปบิน บิ...................แบ่งให้
กินบาป กราบบิน มิ..................ปริปาก บ่นแล
สร้างบาป ทราบบ้าง ไร้.............สติทั้งสมองกลวง

๏ ห่วงบ้า ห้าบ่วง ทั้ง.................ห้าศีล ละเลย
มนต์ป่า มาป่น ตีน....................นะสู้
ล้านนท์ หล่นน้า ปีน..................ตกไม่ เปรมนา
เสี่ยงบ่น ส้นเบี่ยง ทู้..................สะท้าน'กวีการเมือง'

20

เขาวางระหว่างข้าง........ทางกล
เขาแต่งเรื่องราวผล.......ผิดเพี้ยน
ประชาธิปไตยบน.........ทางแพร่ง
ซ้ายหั่นขวาห้ำเหี้ยน......หักล้างเสรีฯ

19


๏ ชวดหนู ชูหนวด หน้า..........ตาโต
ชูละ ฉลู โค.........................เชื่อมั้ย
โมฆะ มะโค โชว์...................อาถรรพ์'มะ'
โม้วะ มะโว้ หั้ย.....................'ห่านฟ้า'หลง'กาขาว'

๏ 'วฤก'กล่าว วะร้าวกึก...........กือเห็น
หลงห่า ล่าหงส์ เป็น...............กับแกล้ม
เนาครก นกเขา เข็น...............ขึ้นโคก
โคกหลุด ขุดโลก แง้ม............ชะโงกหน้ามาแจม

๏ แซมใจ ใสแจ่ม แจ้ง...........วิถีธรรม
โมฆะ 'มะ' Coฯ จำ................หลักไว้
ข่มรัฐ ขัดล้ม คำ....................ศาลสั่ง 49 ฮา
เลือกใหม่ ไล่เมือก ใช้...........พวกร้อง'อารยะ'ขัดขืน

๏ ปืนม้า ปาหมื่น ล้าน.............ละลาย
โมฆะ 'มะ' โค คาย................เมือกม้า
แอบม่าน อ่าน map นาย.........แมงสาป
กบฎสั่ง กะบังซด หญ้า............แจกเลี้ยงม้าบัง

๏ สร้างกฎ ซดก้าง ยัด............มูมมาม
ศาลแหบ แสบหาร สาม...........สี่ห้า
หกเจ็ด เห็ดจก นาม................ศรีเหี่ยว
เม้าจัด มัดเจ้า ฟ้า...................คี่ข้าสั่งเอง

๏ เพลงมาร พาลเหม่ง เม้า........ฆ่ามัน
อาถรรพ์จิต อาทิตย์จันทร์.........คู่สร้าง
อำนาจ อาจนำ ทัณฑ์...............ล้างคู่ ขันแล
ทัณฑ์ขี่ ที่ขัน อ้าง...................แอบฟ้าอิงเวียง

๏ เคียงสู้ คู่สี่ยงได้..................เสี่ยงเสีย
ข้างบู่ ขู่บ้าง เกียร์...................วุ่นหว้าง
เกียร์ล่าง กร่างเลีย เชียร์..........นายใหม่
เกือกลบ กบเลือก ข้าง.............พรรคใต้กินเมือง

๏ เขื่องยี้ ขี่เยื้อง ย่อง...............สองฐาน
ศาลเงียบ เสียบงาน การ...........แจกหนี้
จ่ายงบ จบง่าย ทาน.................ไม่ทั่ว ถึงแล
ดับสื่อ ดื้อสับ ชี้.......................สั่งเจ้าตาใส

๏ เข้าใจ ใครเจ้า เค่า................ปกครอง
ผวนเล่น เผ่นรวน มอง...............กวิเจ้า
ครูบอก ครอกบู่ รอง.................เหล่า Doc-tor แล
กองม่วง กลวงม่อง เศร้า............ห่าเจ้า'วิชาการ'

18

ถามคนไทย เข่นฆ่ากัน ไปทำไม
เราเป็นไทย กันทั้งผอง ปองดองเถิด
ถูกแทงใจ ไปกี่แผล ตั้งแต่เกิด
จะประเสริฐ ลืมไปเสีย เลียแผลไว้

ไทยฆ่าไทย ให้ใครครอง มองให้ดี
ใช่มนตรี รัฐบาล ที่จันไร
วิญญาณปู่ จะร้องว่า น่าเห็นใจ
ลูกหลานไทย แสนอดทน จนอยู่เจียม

จงจำไว้ ทำอะไร ให้โผกผ้า
ควรปิดหน้า อย่าให้เห็น ใครโหดเหี้ยม
แม้มีปืน ยืนยิงฟ้า ใช้ลูกเทียม
คงยอดเยี่ยม เล่นหนังสติ๊ก หยิกหยอกกัน

เสียเลือดกัน ไปเท่าไหร่ เสียใจแน่
ยอมพ่ายแพ้ เสียดีกว่า อย่าใฝ่ฝัน
หยุดคิดว่า ทีของใคร ก็ทีมัน
สมานฉันท์ สามัคคี กันดีกว่า

17

อันความจริง ที่กระจ่าง มีทางรู้
ยินแค่หู เห็นกับตา หาพอไม่ ?
พุทธศาสตร์ สอนมา เป็นหลักชัย
เพียง "คน" ใช้ ต้องใส่ใจ ในหลักธรรม

กิเลสหนา ตราหน้าได้ ทุกมนุษย์
ดีที่สุด คือหยุดยั้ง ก่อนถลำ ...
พุทธศาสตร์ สอนเรื่อง เวรและกรรม
เพื่อหนุนนำ บาปบุญ คุณโทษมี

เราเพียงแค่ คนหนึ่ง ซึ่งอ่อนหัด
ไม่เคืองขัด จะรับฟัง นำวิถี
กว่าความจริง จะปรากฎ ชี้ - ชั่ว - ดี
ไม่หวัง "มี" แค่หวัง "ให้" ได้ "เท่าเทียม"

16

ความจริง คืออะไร ใครรู้หรือ
เชื่อเพราะฟัง ข่าวลือ ว่าคือสัจจ์
เชื่อเพราะฟัง เขาเล่า ว่าแจ่มชัด
เชื่อเพราะถือ ปฏิบัติ ตามกันมา

เชื่อเพราะคิด อนุมาณ ประมาณผล
เชื่อเพราะตรอง แยบยล ตามปุจฉา
เชื่อเพราะมี บันทึก ในตำรา
เชื่อศรัทธา ตรรกะ น่าจะเป็น

เชื่อเพราะเข้า ทฤษฎี ที่เคยพบ
เชื่อเพราะครบ สองตา นี้ได้เห็น
เชื่อเพราะพูด โดยครู รู้ประเด็น
เชื่อว่าเป็น ความจริง หรืออย่างไร

ความจริง ศึกษาได้ ในอริยสัจจ์
ทุกข์เกิดจาก กำหนัด พาหลงใหล
ทั้งหมื่นโลก แสนจักรวาล รวมที่ใจ
ตัดกิเลส เมื่อใด ได้ความจริง.

15

“คำขอโทษ” อ้างเอ่ย นั้นไม่ยาก
แค่ใช้ปาก กระชากลิ้น คงสิ้นเสร็จ
แต่ความจริง สวนทาง กับความเท็จ
ต้องล้างเช็ด เก็บกวาด กันอีกนาน

ทุกคนมี หัวใจ อยากไต่สวน
ควร มิควร ล้วนอ้าง อิงหลักฐาน
ไม่เถียงว่า แดง “ผิด” แผลง แรง “เกิน” การ
เหรียญยังมี “สองด้าน” คุณค้านไหม ?

“แดง” ส่วนใหญ่ มาชุมนุม อย่างสันติ
ปราศจาก “คำตำหนิ” แสนโปร่งใส
ที่เขียนโต้ ใช่..เพื่อ “แดง” หรือเพื่อใคร ?
แค่อยากให้ เปิดใจ ให้กว้างพอ

แดงที่ “ผิด” กำลัง ถูกลงโทษ
ทั้งที่โจทก์ ขาดหลักธรรม ทำสึกหรอ ...
ยุติธรรม แล้วใย ปล่อยให้รอ ..
คนร้าย ... “ล้อ” ร้องเรียน ... พวกเดียวกัน

มีอำนาจ หรือ ... แปลว่า บริสุทธิ์ ?
เปรียบรักคุด กุดแล้ว รู้ไหม ..นั่น !!
เห็นเห็นอยู่ แกล้งไม่รู้ ทำรู้ทัน
กฎหมาย “หมัน” ไม่ศักดิ์สิทธิ์ จึงคิดเตือน

เราทุกคน ร่วมสายเลือด ล้วนรัก "ชาติ"
ความผิดพลาด ผ่านพลาดไป ใยเชือดเฉือน
ดี คือ ดี ชั่ว คือ ชั่ว อย่าบิดเบือน
ทำเสมือน หลับตา แค่ข้างเดียว

ถ้าทุกอย่าง สมดุลย์ เจือจุนได้
ไม่ต้องกลัว ล่มสลาย ใครตายเดี่ยว
ช่วยกันเถอะ เรียกร้องหา ความกลมเกลียว
อย่าแก้เกี้ยว เพียงแค่ ความรู้สึก ...!!

บ้าง...สะใจ บ้าง.. เสียใจ ไทยทั้งชาติ
บ้าง...ด่ากราด ต้อง...ฉุกคิด จิตสำนึก
ไทย “ฆ่า” ไทย ฆ่าทำไม ใช่ ... ข้าศึก !!!
มันบาดลึก ตกผลึกแค้น เข้าแผนใคร ?

14

๏ ความ-จริงนั่น*จันทร์นิ่ง-จริงหรือเท็จ
ผล-จากเหตุ*เจตน์หาก-อยากค้นหา
โค-จรกลับ*จับกลอน-ศรอักษรา
ดวง-อาทิตย์*อิตถา-พาโคจร

๏ ใจ-จริงแท้*แจทิ้ง-อิงไขแข
ใจ-จริงแน่*แจนิ่ง-อิงสมร
เท็จ-ไม่จริง*มิ่งใจ-ไยขวัญอ่อน
คำ-ร้อยกลอน*รอนก้อย-ร้อยกรองคำ

๏ ดู-คำไทย*ใครทำ-ตามใจหรือ
ไทย-ลายสือ*ฤาสาย-เช้าบ่ายค่ำ
ภัยสาธาร์*ภาษาไทย-ใส่ใจจำ
ร้อย-คำกลอน*คอนกรรม-ทำกินกัน

๏ กัน-ป้องกัน*ปันกล้อง-ข้าวของใคร
แก้-แก้ไข*ใกล้แข-แค่ปลาหัน
แก้-ปัญหา*ปลาหัน-มันผวนผัน
คำ-ผวนปั่น*ผันป่วน-ทวนกระแสทำ

๏ ธรรมที่ใจ*ไทยที่จำ-ธรรมชาติ
ข้าว-ใส่บาตร*ศาสตร์ใบ้-ใบลานย้ำ
มี-ข้อแม้*แค่หม้อ-พอเพียงคำ
มอ-แม่น้ำ*หม่ำแน่-แท้จริงมี

๏ ผัน-ผวนใจ*ไผจวน-ตัวควรคิด
ผัน-ผวนจิต*ผิดจวน-ตัวควรหนี
ผัน-ผวนคิด*ผิดควร-หวนกลับซี
ผัน-ผวนดี*ผีดวล-สวนห่าดง

๏ หลง-คำด่า*ฆ่าดำ-อมตะ
หลง-ขาวน่ะ*คะเน่า-เหล่าห่านหงส์
หลง-ที่เน่า*เฒ่านี่-ที่ปลิดปลง

13

ความจริงแท้ อยู่หนใด ที่ไหนหนา
แดงด้นหา พาโล โกลาหล
จริงของแดง แจงให้ ผู้อืนยล
ใยดูคน เคืองใจ จบพารา

ถ้าความจริง ของแดง จริงจริงจริง
ชนจะนิ่ง ยอมฟัง ไม่นั่งเถียง
แต่แท้จริง จริงของแดง นั้นลำเอียง
เขาจึงเลี่ยง หลบนิ่ง ไม่นำพา

แต่พอนิ่ง แดงว่า จริงของฉัน
ที่ว่านั้น คือจริง ของชนผอง
ทำผยอง เผยอ เพ้อลำพอง
คึกคะนอง ทำแทนไทย ไม่เข้าที

มาวันนี้ ที่ไทยแท้ ทวงไถ่ถาม
ความจริงตาม ความจริง ที่จริงจริง
เหตุใด แดงจึง เหมือนผีสิง
ทำสิ่ง ทรามสิ้น ใส่ไทย

แดงเอย อ้างเอ่ย อรรถไหน
ดูไม่ สมแล้ว แดงเอ๋ย
แดงเอย แดงตก เป็นจำเลย
แดงเคย ขอโทษ บ้างไหมฤา ?

12

“สัจธรรม” คือ...ความจริงสิ่งเที่ยงแท้
การ - เกิด – แก่ - เจ็บ – ตาย - คล้าย - สูง – ต่ำ
ความแน่นอน คือ .... ไม่แน่เป็นประจำ
ความเหลื่อมล้ำ ดำ – ขาว เรื่องราวมี..

“ศรัทธา” หรือ !?! ซื้อไม่ได้ ด้วยเบี้ยหมาก
ยิ่งความ “อยาก” ปาก ... พร่ำอยาก ยิ่งจากหนี
ยิ่ง “บังคับ” กลับ “ผลักไส” ไร้ “ไมตรี”
การ “ยอมพลี” ไม่มีให้ คนใจ “จน”

ไข่ในหิน ... ใช้หิน ...ป้องรอบเปลือก
เท้าในเกือก ... เดินไม่แตะ ... พื้นถนน
ใยจะรู้ !?!... หัวใจ ...ของมวลชน
ว่าพวกเขา ...เจ็บและทน ...ปนแข็งใจ…

เราต้องการ ความจริง ยิ่งถูกกด
กลับคิดคด ทรยศ ประชด...ไล่
แม้เรา “เศร้า” แต่เรา ไม่ “อาลัย”
สิ้นเกรงใจ ... แล้วหน้าอินทร์ ... หรือหน้าพรหม… !!

เลิกแบกหาม ...เสลี่ยง ...ที่กดบ่า
เปิดกะลา ... พร้อมตื่น ... จากขื่นขม ...
“สัจธรรม” ... นั้นหรือ ... เรื่องพกลม ... !?!
พิสูจน์ที่ ... ความ “นิยม” ...ที่เสื่อมแปร

ใช่ ... “ความจริง” ... สิงสถิตย์ ... อยู่ทุกที่
แต่ ... แวววี่ ... ไร้ท่าที ... ว่ามีแน่
เพราะสิ่งแรก ...ก่อนค้นหา ..มี “ข้อแม้”
เราค้นพบ ... “เมืองลับแล” ... เจอหรือยัง ?.

11

อันคนที่ดีพอต่อทุกผู้
ย่อมเรียนรู้ย่อมรักในศักดิ์ศรี
ย่อมเคารพย่อมจริงใจในฤดี
ย่อมเมตตาปรานีอภัยกัน

ถ้าเธอไม่เบียดเบียนใครให้เดือดร้อน
จะเป็นพรไปสู่ประตูฝัน
ถ้าเธอไม่แบ่งแยกให้แตกกัน
หนทางฝันจะไม่ไกลจากใจเธอ

เรื่องของสิทธิ์เสรีที่วาดฝัน
หากหมายมั่นจริงใจคงไม่เผลอ
โชคชะตามากับกรรมนำพบเจอ
อย่าครวญเพ้อตั้งหลักใหม่ปรับใจตน

ถ้าเธอไม่ตรองไตร่ไม่นึกคิด
ปล่อยชีวิตไปตามความสับสน
ไม่เปิดใจให้แสงทองส่องกมล
ย่อมต้องทนทุกข์ในใจไม่คลายคืน

อันคนที่ดีพอต่อทุกผู้
ย่อมยิ้มสู้ไม่ข่มให้ใครทนฝืน
เปี่ยมใจรักเพื่อนมนุษย์สุดหยัดยืน
จึงคงคืนบริสุทธิ์ยุติธรรม

10

@...ไม่กี่สิบตารางวาที่อาศัย
แวดล้อมไปด้วยป่าดงอีกพงหนาม
สภาพดินสิ้นอุดมทั้งเขตคาม
แม้พยายามไม่ท้อหาหมอดิน

หลากหลายหมอพอเห็นเป็นส่ายหน้า
ต่างระอาผวาไปหายหน้าสิ้น
เจอเคสหนักหักหน้าสุดหากิน
ปล่อยเราดิ้นสู้ไปใจร่วงโรย

ที่งามสิ้นจริงหนอไม่ง้อปุ๋ย
ไม่ใช่คุยแต่ทำให้จิตใจโหย
ฝูงหญ้าคาพาพวกกลุ้มรุมขโมย
หวังกอบโกยครองสิ้นที่ดินเรา

โอ้ชีวิตคิดไฉนใยมาเกิด
แต่ความเลิศรวยเลือนไม่เหมือนเขา
หวังพึ่งหวยก็หายวับดังกับเงา
ต้องมัวเมาใช้สุรามารดใจ

อยากบากหน้าหางานเพื่อพานพบ
หวังประจบเข้าทำงานกราบกรานไหว้
พ่อ "นกโก๊ก" คนดีมีหทัย
ช่วยรับไว้สักหนเป็นคนงาน...///

9


ปลูกพืชไร่ ไม้ผล ปนกันมั่ว
เก้าสิบไร่ คลองเป็นรั้ว ทั้งซ้ายขวา
เขาคิชฌกูฏ พระบาทพลวง เบื้องบูรพา
ไม่มีนา ปลูกข้าว ต้องซื้อกิน

ไม้ผลหลัก รัก "ลองกอง" รอง "มังคุด"
สาม "king of fruit" สุดโอชา อร่อยลิ้น
สี่ "เงาะโรงเรียน" ห้า "สละเนินวง" คงเคยยิน
หก "มะไฟ" ปลูกไว้กิน เหลือขายแล

เจ็ด "สำรอง" แปด "สะตอ" เก้า "กล้วยไข่"
สิบ "สัปปะรด" สิบเอ็ด "ไผ่" หน่อไม้แยะ
สิบสอง "กระวาน" สิบสาม "ไพล" ขายได้แฮะ
สิบสี่แปะ "ดีปลี" เกาะ "กระถินเทพา"

เป็นสวนป่า สาระพัด พืชกินได้
มีสระใหญ่ ใส่ "ปลาแรด" ตัวใหญ่หนา
มี"ผักกูด -กระถิน - ตำลึง - กะเพรา - โหระพา"
ทั้ง "หน่อข่า - กระชาย - ตะไคร้ - กระทือ"

มี "ส้มซ่า - มะนาว - มะขาม" ทำกับข้าว
มี "มะพร้าว - หมาก - พริกไทย" ไม่ต้องซื้อ
มี "เผือก - มัน - บอนหวาน" ชื่นนสะดือ
มี คนขอซื้อ "บอกไม่ขาย แจกไปกินกัน"

ฝนสั่งฟ้า มาคราใด ใบเขียวสด
ปุ๋ย" ชีวภาพ" ราดรด งดพิษสาร
ไม่พ่นยา ปล่อยหญ้าปก ป้องดินดาน
มีคนงาน ห้าคน "สุขสบาย" (ดีฮับ)

8

..ฝนหลั่ง สั่งฟ้า ย่างหน้าหนาว
เก็บเกี่ยว นาข้าว ร่วมสังสรรค์
ลงแขกเกี่ยวข้าวเอาแรงกัน
เพื่อสร้างสรร สัมพันธ์ไมตรี


...วันนี้เกี่ยวข้าว นาของน้อง
พรุ่งนี้ จำต้อง เกี่ยวนาพี่
ผูกพัน รักกัน มานานปี
เป็น วิถี ชี้นำความสามัคคี


...ฝนตกหนักที่ บ้านน้อง
ใยฟ้ายังร้องได้ยินถึงบ้านพี่
สวรรค์ บ้านนา นั้นคงมี
เป็นน้องเป็นพี่ ใต้ฟ้าเดียวกัน


...เป็นน้องเป็นพี่ แม้ต่างท้อง
ไม่จำเป็นต้อง บากบั่น
ความรักมีมอบให้ทุกวัน
สุขสรรกันทั่วท้องทุ่งนา

7

@...ถึงมิใช่เชื้อชาวนาว่าพ่อลูก
แต่พันผูกปลูกรักแน่นหนักหนา
ทุกวันนี้อยู่ได้หมายเมตตา
จากชาวนาด้วยข้าวมายาวนาน

คนร่ำรวยเงินทองครอบครองเพชร
ทั้งมากเม็ดอีกค่ามหาศาล
กับคนยากลำบากแค้นแสนทรมาน
ล้วนกราบกรานพึ่งพาชาวนาไทย...///

6

@หมองเอ๋ยหมองเศร้า
โอ้อกเราเฝ้าแค่รับกับสิ่งเสนอ
ที่ยื่นมอบตอบสนองของบำเรอ
มักพบเจอก่อนเลือกตั้งทุกครั้งไป

การหาเสียงมีให้เห็นอยู่ทุกพรรค
ก็ลมปาก ทุกทุกผู้ใครสู้ไหว
แล้วแต่ว่า ใครจะเห็นผลงานใด
ชาวนาไทย ก็ยงคงยากจน

การยื่นมอบตอบสนอง ของมีค่า
อยู่ทีว่า น้ำใจดีมีท่วมท้น
ว่ามองเห็น คุณค่า ความเป็นคน
แม้ยากจน ศักดิ์ศรี คน ก็ยังมี

5

@หมองเอ๋ยหมองเศร้า
โอ้อกเราเฝ้าแค่รับกับสิ่งเสนอ
ที่ยื่นมอบตอบสนองของบำเรอ
มักพบเจอก่อนเลือกตั้งทุกครั้งไป

นโยบายมากมีดีเหลือล้น
ช่วยคนจนพ้นตาหาสุขให้
ช่างสรรมาพาบรรเจิดพริ้งเพริศใจ
ชาวนาไทยจักร่ำรวยด้วยเงินทอง

เป็นเช่นนี้ทุกทีมีคำตอบ
เรายังยอบแยบจนทนเศร้าหมอง
ทุกคืนค่ำจวบทิวาน้ำตานอง
แม้แต่ท้องไส้ยังกิ่วหิวทุกวัน

4

๐ ชาวสวน "ชวนเศร้า" อด "ชวนสาว"
"ช้าเน่า" ชาวนา now เน่าแล้ว
เลี้ยงไก่ "ไล่เกลี้ยง" คราว กลัวหวัด นรกแล
แพ้เท็จ "เพชรแท้" แก้ว นพเก้าร้าวฉาน

๐ วันนี้ ที่ปลูกไว้ หน้าดิน
ทุกอย่างที่ปลูก กิน ไม่ซื้อ
คอยฝนที่หลั่งริน นะแม่ ยืมโพสแล
รถติดหล่ม ไม่ดื้อ ก็ด้วย"น้ำมัน"แพง

๐ กระจ่างแจ้ง ในจิตล้วน รู้ "ทำ"
ไม่ "เล่น" ละคอน รำ หลีกเร้น
กระจิบ กระจอก คำ จริยะ- ทำแล
ไม่ "ออก" อารีย์เต้น เรื่องหุ้น"ตูหนา"

๐ ฝนสั่งฟ้า ว่าข้า คว้าเชิญ มานะ
อ้างอย่างไม่ขัดเขิน ข่มฟ้า
"คุณธรรม" เฒ่ายับเยิน เมินหมด
นี่รึ "แบบอย่าง" บ้า สั่งฟ้าบ่นฝน

3

ฝนสั่งฟ้า ว่า "วิกฤต" ธรรมชาติ
"วิกฤต คือ โอกาส" ต้อง "คราดไถ"
ชาวนา "ฟ้าสั่งฝน" มาคราใด
เตรียม "แอก" ไว้ เตรียม "ไถคราด ควัวกะวาย"

เกิด "วิกฤต" ผิดพลาด "ฟ้าขาดฝน"
รอ "โอกาส" ขาดคน หาน้ำให้
พระแม่ฟ้า พระพ่อหลวง หลั่งน้ำใจ
ชโลมหล้า ชาวนาไทย ไม่อับจน

ฝนสั่งฟ้า "ประชาไทย" ไยบ่นว่า
ฝนสั่งฟ้า "เทวดา" ถูกด่าบ่น
ฝนสั่งฟ้า "ชาวนา" ต้องการฝน
ฝนสั่งฟ้า "ประชาชน" บ่นอะไร

สร้างบ้านเรือน "ในที่ลุ่ม" กลุ้มทุกคน
ขับรถยนต์ "ถนนลื่น" รีบไปไหน
เมืองอู่ข้าว "อู่น้ำ" ทำนาไป
เมืองอุตสาหกรรม "ทำนาใด" ไปที่ดอน

เพราะไม่คิด "มิตรไข้" ต้องตายหมด
เพราะรันทด "ลดทัณฑ์" ไม่ผันผ่อน
เพราะโอกาส "อาจโก้" โอ้ ครูสอน
เพราะครูย้อน "ค้อน you" รู้พอฤๅ

รอฟ้าฝน "คนโง่ รอโอกาส"
รอไม่ทน "คนฉลาด สร้างโอกาส" หรือ
สร้าง "วิกฤต" เพื่อ "โอกาส" ฉลาดฮือ
"ฝนสั่งฟ้า" ว่านี่คือ "พอ-ไม่พอ"

"ชาวนา" ฟ้าสั่งฝน คน "รอ" ฝน
"คนรวย" ไม่สน คน"พอ" หรือไม่หนอ
"คนทำนา บนหลังคน" รึทนรอ
หมดโอกาส ก็ "สร้างวิกฤต" กันวุ่นวาย

2

...จะมีใครไหนเล่า เข้ามาช่วย
เหมือนคน ป่วยขาดหมอ รอรักษา
ช้ำใจ ที่ได้เห็น้ำ ท่วมนา
โอ้น้ำตาของ ชาวนานั้นไหลนอง



...หวังพึ่งรัฐบาล ให้ช่วยเหลือ
ก็ชักช้าเมื่องบประมาณ มันขัดข้อง
ทำอย่างไร เพราะไร้คนเหลียวมอง
จะพึ่งพี่ พึ่งน้อง ก็ ลำเข็ญ



...วอนฟ้า..วอนฝน..เพราะจนยาก
คงต้องล้าง ลาถิ่น แผ่นดินที่เห็น
สู่เมือง ฟ้า มหานคร ด้วยจำเป็น
เพื่อ หลีก เล้น ความยากจำจากนา



...หวังเข้ามาหางาน ในเมืองใหญ่
จะงานอะไร ก็ไม่ท้อเร่งเสาะหา
ถ้าได้ เงิน จะส่งให้ บิดร และ มารดา
จะได้พลิกฟื้น ผืนนา ด้วยข้าไทย...

1

...ฝนกระหน่ำ ยามค่ำคืน แสนวิปโยค
ยามฝนตก ฟ้าคะนอง ต้องหมองหม่น
โอ้ชาวนา หน้าหมอง ต้องจำทน
น้ำมากล้น ท่วมผืนนา พาเศร้าใจ


...ไกล้ถึงวันฤดูกาล ต้องเก็บเกี่ยว
ถูกสายน้ำ ไหลเชี่ยวทำลายให้-
ข้าวในนา ต้องสี้น ตามสายน้ำไป
แสนสงสาร จับใจ โอ้ชาวนา


...ฝนกระหน่ำ น้ำตาหลั่ง กลางสายฝน
โอ้คนจน นั้น ช่างไร้วาสนา
ทำงานหนัก หวังเพื่อเพียงเลี้ยงกายา
และครอบครัว ของตัวข้า ใช่หวังรวย


...ฝนสั่งฟ้าหรืออย่างไรใยน้ำหลาก
ฝนตกมาก หรือบอกลา ฟ้าสดสวย
ยากจนแท้ แม้ฟ้าฝน ไม่อำนวย
หวังโชคช่วย คงหมดหวัง นั่งเศร้าเอย!!!!!