วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

105

จากเพื่อน.....ถึงเพื่อน ไว้เตือน ใจจิต
รู้ถูก รู้ผิด รู้คิด สันติสุข
รักธรรม รักไทย ด้วยใจ แสนสนุก
จงอย่า ล่าลุก ไม่ทุกข์ สุนทรีย์

มีรอย ยิ้มสยาม มีความ ชื่นชม
ประชา นิยม รื่นรมณ์ เสรี
เป็นยอด นักสู้ ผู้รัก ศักดิ์ศรี
รู้รัก สามัคคี ไม่มี พยาบาท

ประชา ธิปไตย เพื่อไทย เพื่อนพร้อง
ให้น้อง พี่ญาติ มีความ องอาจ
เป็นไทย โดยธรรม ค้ำชู เชื้อชาติ
ทั้งศาสน์ กษัตรย์ นิติรัฐ ธรรมนูญ

บัดนี้ อาเพศ เกิดเหตุ ปรวนแปร
จิตใจ ท้อแท้ จงอย่า อาดูร
สงบสติ ตั้งมั่น อย่าหวั่น เสื่อมสูญ
ครองธรรม ทวีคูณ เพิ่มพูน เมตตา

อากาศ แสนร้อน วิงวอน เพื่อนพร้อง
ช่วยกัน กล่าวร้อง น้องพี ใฝ่หา
สันติ ครองศีล สมาธิ ปัญญา
นำพา ยุติธรรม คุ้มครอง สนองไทย

อย่าได้ ลุอำนาจ อย่าขาด จรรยา
ยุติ ปัญหา รอวัน ฟ้าใหม่
วันไทย เป็นชาติ ประชา ธิปไตย
แสงทอง ผ่องใส่ วันไร้ เผด็จการ

104


เธอต้องการกำลังใจไหวสะท้าน
เหมือนไกลบ้านโดดเดี่ยวเปลี่ยวไฉน
คล้ายถูกขว้างคว้างหล่นบนแดนไกล
ทอดถอนใจลึกร้าวหนาวเหน็บจริง
จงเปลี่ยนความวังเวงเป็นเพลงเอก
สดับเสียงสงัดวิเวกในความนิ่ง
ตั้งสติอยู่กับกายซึ่งไหวติง
ใจจึงมีที่พักพิงไม่ดิ่งจม
แม้นมีอ้อมแขนใครให้ลูบปลอบ
ไม่เท่าตอบคำถามความขื่นขม
ของตนเองใจถนอมไม่จ่อมจม
อย่าอกตรมหม่นหมองนองน้ำตา
เธออัดอั้นหมองระทมถูกข่มเหง
อยู่กับเพลงแสนเศร้าเคล้าปัญหา
ฉันขอตั้งข้อสังเกตใช้เมตตา
เมตตานี้ใช่ว่าเมตตาใคร
เป็นเมตตาตัวเธอเองอย่าเพ่งพลาด
วนกับบาดแผลล้นจนหม่นไหม้
จงรักตนเสียก่อนเจ้าหยุดร้าวใจ
ก่อนจะก้าวต่อไปดังใจปอง

103

ไม่ต้อง “คิดเหมือน” บิดเบือน เข้าข้าง
เกลอจะ “ปล่อยวาง” สะสาง ให้จบ
เพื่อนใย “ปากหวาน” พูดหว่าน น้อมนบ
แต่ไม่ “เคารพ” รับฟัง ชั่งใจ

ไม่ต้อง “เสแสร้ง” ชี้แจง เกินเหตุ
เกลอพึง “สังเกต” ทุกความ เคลื่อนไหว
เพื่อนจะ ประจบ ประแจง ใดๆ
เกลอต้อง “โหมใส่” รุกไล่ ความจริง !!

ไม่ต้อง “อยากคบ” ขอพบ เมื่อสาย
หากเพื่อน “ฉายไฟ” ให้เห็น ทุกสิ่ง
คงไม่ “อัดอั้น” ปั้นปึ่ง นั่งนิ่ง
เกลอแค่ “ท้วงติง” ซึ่งกัน และกัน

ถ้าเพื่อน “ประดิษฐ์” ถ้อยคำ จำแลง
เพื่อนควร “แจกแจง” แถลง ทุกขั้น
ว่าที่ “ เพื่อนขู่ เกลอจน ตัวสั่น “
นั่นคือ “ของขวัญ !?!” มันคง ... สยอง !?!

อย่าทำ “เม้มปาก” อาฆาต ฝืนจิต
เกลอเอง “มีสิทธิ์” ที่จะ ขุ่นหมอง
อย่ามา “แหกปาก” แอบอ้าง ปรองดอง
แววตา มันฟ้อง ธาตุแท้ แปรไป

ไม่ต้อง “นิยาม” คำว่า รากหญ้า
เพื่อขอ “ขมา” ยกหาง - หวังใช้
ไม่ต้อง “โมโห” เป็นฟืน เป็นไฟ
“...ไม่ยกโทษให้...” ฟังไว้ เกลอตรม ….

ไม่ต้อง “ผยอง” มานำ “เสนอ”
แค่ให้ “เผยอ” มองฟ้า อย่าก้ม
เพื่อนยัง มิกล้า สู้แสง ... แรงลม
คว้า “ร่ม” ห่มแทน..... “ผ้าขาวม้า” ลาย

ไม่ต้อง “มาส่ง” – เกลอจะกลับบ้าน
หากนึก สงสาร พอเถอะ สหาย ...
อย่ามา ลูกเล่น บีบเค้น ไม้ตาย
ร้องห่ม ร้องไห้ โบกใบ้ บอกทาง

ทำเป็น “พึลึก” กลับนึก “พิลั่น”
ชอบใจ สิท่าน !! … ต่อไป ไร้ “ก้าง"
ถ้อยคำ “ประดิษฐ์” เล่ห์คิด อำพราง
มันเหมือน “ผีสาง” สิงร่าง สัปดน !!

ไม่ต้อง “ตบหัว” แล้วมา ลูบหลัง
เกลอไม่ “เคยหวัง” รอแต่ ส้มหล่น
คน “ดี” ที่ไหน ? ... ผลักไส คนจน
เกลอขอ สวดส่ง “สัพเพ สัตตา....”

คิดอย่าง -ทำอย่าง คิด..”กร่าง” ทำ “นิ่ม”
ปาก “พริ้ม” - ใจ “กริ่ม” ... พูด “ยิ้ม” - ใจ “ด่า”
โยน “บาป” ใส่ “แพะ”... แปะ “โง่” ให้ “ลา”
กระจกจ๋า ... บอกมา ... เขารู้ตัวไหม... !?!

อย่ามา “กะล่อน” ... ลาก่อน !! “ภูติผี”
เบื่อแล้ว เต็มที - พลเมือง...นอกไส้ !!
ต่อให้ ... อำนาจ - บาดใหญ่ ... เกรียงไกร
ไร้ซึ่ง “น้ำใจ” เกลอ - ไม่ ... ง้อเลย

ไม่ต้อง “เรียกร้อง” อ้าง สันติภาพ
เกลอเอง “รับทราบ” ปรับคิด นิ่งเฉย
อ้างประเทศแพ้.... ตกเป็น “จำเลย”
พวกเกลอ ตามเคย ... “เชลย” ชั้นดี !!

102

๏ พักแรมรอนป่านี้...........ในเพลิน
เนินไผ่ ผิวเพลงเชิญ.........เห่โล้
โฮเล สุขใดเกิน...............ยลป่า
ยาป่น เตรียมติดโอ้...........เหน็บไว้ กันยุง ๚ะ

๏ กรุงยัน เยินยับสร้าง.......แรงเคือง
เรืองแข่ง เกมการเมือง......เก่าแค้น
แกนเขา ต่างใจเรือง-........รองส่ง
ลงส่อง ทางสว่างแม้น.......หม่นบ้าง ยังรอ ๚ะ

๏ ยอหลัง เริงป่าไม้...........เดียวกัน
ดันเกี่ยว เก็บดวงตะวัน........ต่างฟ้า
ตาพราง มืดบอดอัน..........ควรปิด
คิดป่วน กาลกลับหน้า........ก่อแล้ว เลยพัง ๚ะ

๏ หลังเผย แรงต่อต้าน.......รวมไทย
ไหลท่วม มิตรแรงใจ..........ส่งต้าน
สานตรง ต่อทำไม.............รุกคืบ
หลืบคุก สู่คนค้าน.............ขับย้อน เยือนตน ๚ะ

๏ ยลเตือน ตรองต่างผู้......ชน,เมือง
เชื่องหม่น ระอาเคือง.........ขุ่นบ้าง
ขวางบุญ ก่อกรรมเนือง......เราท่าน
ลานเท่า เพลิงแผดล้าง......วอดบ้าน เมืองเรา ๚ะ

๏ เมาเรือง อำนาจ สิ้น.......วันไหน
ไหวนั่น คิดถึงไพร.............ป่าให้
ไปหา สิ่งชโลมใจ.............คราเปล่า
คราวป่า แรมซุกไว้............อุ่นด้วย เราสบาย ๚

101

ฟังมุมแดง แคลงใจ พูดไปได้
มุมกลางใคร่ อยากบอก ออกความเห็น
ทั้งสองสี มีร้าย หลายประเด็น
ต้องแยกเป็น เห็นได้ ใครร้ายกว่า

ที่ทุบรถ บดขยี้ ตีให้อ่วม
เสื้อแดงรวม ร่วมฉะ เหมือนจะฆ่า
บุกโรงแรม คลั่งจัด ที่พัทยา
ผู้นำชาติ เขามา บอกน่ากลัว

เอารถแก๊ส มาให้ดม หวังข่มขู่
ชาวบ้านดู ร้องแผด กลัวแก๊สรั่ว
มันคิดเผา เอากับผู้ ไม่รู้ตัว
เหมือนยุยั่ว ทำลาย ให้ตายกัน

จี้รถบัส ไปเผา เอาละหวา
ยกพวกมา นางเลิ้ง จุดเพลิงปั่น
ยิงชาวบ้าน ที่สู้ หมาหมู่มัน
เหมือนบ้านเมือง ถึงขั้น วิสัญญี

ไม่เข้าข้าง อย่างไหน ใครดีกว่า
มันก็บ้า ทั้งผอง ทั้งสองสี
ประชาชน คนกลาง รักทางดี
อย่าเอาสี มาป้าย ทำลายไทย

100

ฟังตำรวจ ปวดใจ ไขความผิด
พันธมิตร เสื้อแดง แจ้งข้อหา
เมื่อลองเปรียบ เทียบกัน ถึงขั้นฮา
ตำรวจว่า เสมอกัน น่าขันจริง
ชาวเสื้อแดง ผิดทุกดอก จะบอกให้
หายไปไหน ปิดท่าเรือ เหลือเชื่อยิ่ง
สนามบิน ภูเก็ด เบ็ดเสร็จจริง
รถไฟนิ่ง ยิ่งนึก ศึกษากัน
ถอยรถทับ จับอาวุธ ชุดยิงใส่
ปล้นทรัพย์ใน ทำเนียบ เงียบเป็นหมัน
ศาลคุ้มครอง ทีวี มิเหมือนกัน
ปล่อยให้มัน ทำผิด คิดได้ไง
คนที่ขึ้น เวที มีมากหน้า
เจอข้อหา จิ๊บจ้อย น้อยไฉน
การประกาศ ฉุกเฉิน เมินเลยไป
สั่งออกไป ไร้ค่า ไม่น่าทำ....

99


๏ เพลงปืน ฝืนเปล่ง เปรี้ยง......ปองหมาย
ไปม่อง เท่ง.ใดหาย................กล่าวนั้น
กันหนาว จิตคงอาย................ตนก่อ
ตอก่น โอนโยกกลั้น...............เก็บไว้ ฤาไหว ๚ะ

๏ ไหลหวือ แรงขับแค้น...........เคืองใน จิตแฮ
ใครเนื่อง คอยนำไป................กล่าวอ้าง
กางเอา ก่อเติมไฟ..................เนาก่อน
หนอนเก่า กินแทะก้าง..............จวบสิ้นไทยสยาม ๚ะ

98

๏ กลายวัน คืน กลั่นเว้า.........เวียนปาน ฝันนอ
วานเปลี่ยน คืนวันมัว.............หม่นบ้าน
มารบน หมู่เฮานัว.................เหิม,หลัก
หัก,เริ่ม แรงอื่นล้าน..............ก่อแล้ว กลายคืน ๚ะ

๏ กลืนคาย คำเอ่ยเอื้อน........อำ,เผย
เอ่ยพร่ำ เพียงคำเปรย...........ป่วนไส้
ไปชวน เพื่อนเผาเลย............เพลงป่า
พาเปล่ง เปิงป่าวไว้...............เปิดข้าม กาลสมัย ๚ะ

๏ ไกลสมาน จึงขับร้อง..........เพลงรัก
ผลักเร่ง พาฟูมฟัก................ผ่านแม้น
แฟนมาร ร่าเริงนัก................รุมนาบ
ราบนุ่ม เนิน,อกแค้น.............ขุ่นข้าม คนหมอง ๚ะ

๏ ครองมนต์, เมือง,ป่าไม้......มีเขา,
เมาขี่ อำนาจเอา..................อื่นป้าย
อายปืน ป่วนเปิงเผา..............พาป่วน
ผวนป่า คอนกรีตคล้าย..........เถื่อนด้วย ปรามประชา ๚ะ

๏ ป่าทราม เป็นหนึ่งให้..........ใครหลง
คงไล่, อีกนานคง................จบไร้ –
ใจลบ จากความจง-.............รัก,จะ ได้ฤา
ละจัก คืนกลับไว้................ต่อเชื้อ คนสุม ๚ะ

๏ คลุมชน คืนสื่อสร้าง.........พฤกษ์ไสว
ไพรศึก คอนกรีตไกว..........แกว่งบ้าง
กางแบ่ง โบกโบยไพร.........คืนสู่ ไทยนอ
ครู่ชื่น เราสุขสร้าง..............ป่าให้ ทุมเขียว ๚ะ

97

ต้นเอ๋ยต้นประชาธิปไตย ไร้ใบไม่มีดอกไม่ออกผล
มีพานรัฐธรรมนูญอยู่เบื้องบน ผองชนกราบไหว้เคารพบูชา
สันติภาพยืนบนกองกระดูก ผู้ปลูกผู้เรียกร้องผู้ไขว่คว้า
เดินฝ่าลวดหนามเพื่อได้มา คือประชาธิปไตยของผองชน
ได้จากตายไปแล้วผู้ประศาสน์ น้ำตาหลั่งเลือดราดสาดหลายหน
บ้างพิการบางคนก็พิกล ไม่ยอมทนเป็นทาสเผด็จการ
แต่ยังมีบางคนชนผู้กล้า ยังทายท้าหยัดยืนขึ้นสืบสาน
ถึงลำบากยากไร้ยังทนทาน อุดมการณ์วีรชนยังจดจำ
เพราะคุณค่าของชีวิตคือการให้ แสงสว่างแห่งในใจในคืนค่ำ
คือต่อสู้เพื่อความยุติธรรม วีรกรรมผู้กล้าไม่เคยตาย
ยังคงอยู่ในหัวใจของนักสู้ ยังคงอยู่ในหัวใจของผู้ให้
แม้หนทางสร้างสรรค์นั้นยาวไกล เพื่อประชาธิปไตยต้องอดทน

96

โอ้...นักสู้นิรนาม แสดงความ เป็นคนไทย
สู้ทน มิหวั่นไหว ด้วยดวงใจ อุทิศตน

เพื่อลูก และหลานเหลน ได้สิ้นเวร อิทธิพล
อำนาจ ที่สับสน สื่อมวลชน ถูกครอบงำ

หยุดพัก เสียสักนิด หยุดใช้สิทธิ์ อย่าถลำ
ผูกกลอน วอนจดจำ ใช่ชี้นำ การต่อสู้

พลาดพลั้ง ในครั้งนี้ บทเรียนที่ ได้รับรู้
ผิดไป ใช้เป็นครู ให้คงอยู่ อุดมการณ์

แพ้ชนะ ใช่เป้าหมาย สู้จนตาย ย่อมหักหาญ
สู้ต่อ ก็แหลกลาน จึงประธาน สงบศึก

ยุติ การสู้รบ หยุดตีนตบ จบห้าวฮึก
วางใจ ที่ร้าวลึก ด้วขสำนึก สันติชน

มือเปล่า สู้กับปืน ขืนหยัดยืน คงเห็นผล
จำยอม อุทิศตน เพื่อเพื่อนพล ลาเลิกรบ

อย่าหมิ่น หยามเชิงชาย เอากฏหมาย ปลายปืนสยบ
สัจธรรม นำให้พบ มิอาจจบ เมื่อไร้ธรรม

95

ฆาตกร “นิรนาม” ... ฉันอยากถาม ... ท่านอยู่ไหน... ?
ท่านสำนึก ... และ ผิดบ้างไหม ? ... เด็กร้องไห้ ... พ่อโดนยิง

ความจริง ... ท่านโหดร้าย ... ทำเสียหาย ... จนปี้ป่น
ขอท่าน ... โปรดหลุดพ้น ... ในวังวน .... แห่งความเขลา

เพราะท่าน ... นั้นต่อสู้ ... ชั่วนอกลู่ ... หมายเหนือกฏหมาย
หรือท่าน .... จะอ้างว่า ... ตนไม่ผิด ... ฆ่าคนตาย

แม้ท่าน ... จะทำผิด ... ขาดความคิด ... สติ..กลั้น
หรือท่าน .... โดนคนหลอก ... ด้วยเงินตรา ... จนลืมตน

ฉันแค่ ... คนเดินผ่าน ... นานแสนนาน ... ทุกแห่งหน
จากฉัน ... คนหนึ่งคน ... ใจเปี่ยมล้น ... กุศลแรง

อัสดง ... ยามลิ่วลับ ... ตะวันดับ ย่อมอับแสง
ขอส่งใจ ... ให้กรรมตาม ... แด่ฆาตกร “นิรนาม”

94

นักสู้ “นิรนาม” ... ฉันอยากถาม ... ท่านอยู่ไหน... ?
ท่านเหนื่อย ... และ หิวไหม ? ... อย่าร้องไห้ ... อย่ากังวล

ใครโจทก์ ... ท่านโหดร้าย ... ทำเสียหาย ... จนปี้ป่น
ขอท่าน ... โปรดหลุดพ้น ... ในวังวน .... ที่ยึดถือ

แม้ท่าน ... อาจต่อสู้ ... ออกนอกลู่ ... อยู่เหนือขื่อ
หรือท่าน .... ถูกอ้างซื่อ ... ไปร่ำลือ ... สารพัน

แม้ท่าน ... จะทำผิด ... ขาดความคิด ... สติ..กลั้น
หรือท่าน .... ไปฉับพลัน ... โดยไม่ทัน ... ได้ตั้งตน

ฉันแค่ ... คนเดินผ่าน ... นานแสนนาน ... ทุกแห่งหน
จากฉัน ... คนหนึ่งคน ... ใจเปี่ยมล้น ... กุศลแรง

อัสดง ... ยามลิ่วลับ ... ตะวันดับ ย่อมอับแสง
ขอส่งใจ ... ไม่เสแสร้ง ... แด่นักสู้ “นิรนาม”

93

แดงดับดวง หยุดประท้วง ระงับศึก
ด้วยรู้สึก มีมวลชน ปนเปลี่ยนเป้า
อุดมการณ์ ประชาธิปไตย ถูกดูเบา
ดังโง่เขลา ตามยั่วยุ ลุอำนาจ

ถูกกลลวง ติดบ่วงกรรม ทำให้หลง
เป้าประสงค์ โดยสันติ ต้องผิดพลาด
ออกต่อสู้ ผู้ท้าทาย หมายเด็ดขาด
มิหวั่นหวาด การสู้รบ พบสัจธรรม

คือความจริง ในวันนี้ ที่มือเปล่า
ถูกเขาเอา อาวุธใส่ ให้เห็นขำ
เหมือนปล้นปืน จากทหาร ชิงการนำ
ผลแห่งกรรม ชายแดนใต้ คล้ายคือกัน

92

คมวาทะ ชนะเป็น ศัตรูชาติ
ผู้ประกาศ เป็นใครหนอ ขอคารวะ
ช่างรู้จริง พูดเด่นดัง มีสัจจะ
แพ้เป็นพระ ชนะเป็นใคร ได้เห็นกัน

ทั้งกฏหมาย และปลายปืน ยืนข่มขู่
ใครเชิดชู ประชาธิปไตย ต้องไหวหวั่น
ใช้ลูกจริง หรือลูกหลอก บอกไม่ทัน
ยิงฟ้าพลัน พลุนทะลุ ปะทุธรรม

เมื่อถูกปลุก ให้ต่อต้าน รัฐประหาร
เผด็จการ ทุกรูปแบบ ต้องล้มคว้ำ
การต่อสู้ จึงได้เห็น ให้จดจำ
การชี้นำ ด้วยอำนาจ อำมาตยา

แม้นยังอยู่ คงต่อสู้ มิรู้จบ
จะต้องพบ ปรากฏการณ์ ความหาญกล้า
ของคนไทย ใจเป็นธรรม ลุกออกมา
ร้องเรียกหา ประขาธิปไตย ตลอดกาล

91

วันดีวันปีใหม่
ผองไทยร่วมสุขสันติ์
สามัคคีพร้อมเพรียงกัน
ร่วมฝ่าฟันสร้างเมืองไทย

ขจัดมารในจิต
เพ่งพิศธรรมไข
เข้มแข็งกระแสใจ
เทอดไท้ องค์ราชันย์

สงกรานต์ชะล้างจิต
รู้คิดสร้างสุขสันติ์
นำไทยรักไทยมั่น
ผูกพันธ์สานสามัคคี

มิแบ่งมิแยกฝ่าย
จิตหมายสานสดศรี
มุ่งมั่นสร้างความดี
ไทยมีแก่นหลักนำ

วันดีวันสงกรานต์
สำราญชื่นสุขล้ำ
สามัคคีไทยจดจำ
แก่นธรรมชูสังคม

คนไทยทั่วทุกภาค
เอื้อฝากไมตรีสม
เลือดไทยมั่นเกลียวกลม
ปฐมเอกรัฐไทย

90

๏ สิ่งสำคัญ แน่แท้...........หัวใจ
คงมั่น จุดยืนใน................จิตนั้น
แพ้ชนะปล่อยผ่านไป.........กลั้นอด ทนรอ
วันหนึ่ง ก้าวสู่ขั้น..............ที่ตั้ง ใจหมาย ๚


๏ ต้องอดทน ช่วงนี้...........หนวกหู
log inใหม่คึกน่าดู.............ด่าถ้อย
เหตุผลไม่ มาชู...................พวกด่า อย่างเดียว
ปล่อยผ่านลงส้วมจ้อย...........กดทิ้ง ลงโถ อิอิ..๚

89

ความพ่ายแพ้ ในวันนี้ ชี้ให้เห็น
ขนาดเป็น ถึงนายก ยังตกต่ำ
อำนาจเถื่อน เหมือนไล่ล่า เป็นเวรกรรม
อำนาจธรรม รอเวลา พาพ้นภัย

อำนาจทุน หมุนวนวก ผกผันชีพ
ด้วยแรงบีบ ของศัตรู ผู้ยิ่งใหญ่
อาจยอมแพ้ แม้ไม่สู้ ต้องถอดใจ
ความเป็นไทย ก็ต้องทิ้ง วิ่งหนีพาล

กาลเวลา พิสูจน์คน ทนไปก่อน
สัจธรรมสอน ให้โลกรู้ ผู้อาจหาญ
ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ผจญมาร
เป็นรัฐบาล เยี่ยมที่สุด เคยมีมา

ประชาธิปไตย ไทยใบ้บอด ยอดทหาร
เผด็จการ คุมกำเนิด เกิดปัญหา
ครอบงำสื่อ ควบคุมชาติ ตลอดมา
เป็นอย่างว่า ประชานิยม ล้มจมดิน

88

ความพ่ายแพ้ วันนี้ ชี้ให้เห็น
ว่าความเป็น คนไทย ในยามนี้
เรายังอยู่ ภายใต้ การราวี
ของทหาร อลัชชี อามาตยา
เพียงยกแรก เรายอม เราพ่ายแพ้
เพราะไอ้มาร์ค มันแน่ กล้าเข่นฆ่า
ส่งทหาร หมายปลิด คิดชีวา
เหล่าประชา คิดต่าง ไม่เหมือนตน
ในวันนี้ เราจำ ต้องยินยอม
หากทัพพร้อม พร้อมใจ ให้เข้มข้น
ให้จัดการ วางแผน เป็นวังวน
ระบบคน ระบบสื่อ คือหัวใจ

87

คนรากหญ้า ประชาชน คนเสื้อแดง
ดินระแหง ยึดเกาะเกี่ยว เรี่ยวแรงมั่น
อยู่ใต้ดิน พยุงต้น ทุกคืนวัน
คงร่วมกัน ดินไม่แตก แยกล้มต้น

ร่มโพธิ์ไทร ใหญ่ปกราก หญ้าชุ่มฉ่ำ
ดังผู้นำ การปกครอง สนองผล
ชาวรากหญ้า ได้รับบุญ บันดาลดล
ออกดอกผล ให้มวลชน สมอุรา

เมื่อยามใด ฟ้าและดิน เกิดอาเภท
ทั้งประเทศ แดงดังไฟ มีปัญหา
ร่มโพธิ์ไทร สบัดใบ แกว่งไปมา
โอ้อนิจจา ชาวรากหญ้า ต้องยึดโยง

86

๏ ธัญญพืช ยืดพันธุ์ ธัญญาหาร
เปลือกข้าวสาร คร้านสาว เข้าครัวหุง
เศษเงินกำ งำเกิน เดินในกรุง
หน้าเครียดยุ่ง คลุ้งเหยียด เบียดเบียนกัน

๏ ฟ้าไฟดับ ควับตาย ตายห่าแน่
หิวนะแม่ แน่มะ วะท้องลั่น
เงินทองแม่ แท้มอง ลองกินมัน
กิน money มีนั่น ด่าลั่นเลย

๏ กูทำสวน ทวนสำ-รับกับข้าว
กูหรือเศร้า เราซื้อ กินหรือเว้ย
ปลูกกินได้ ใกล้ดิน กินอิ่มเอย
ไม่เคยหิว คิวเฮย ไม่เคยรอ

๏ ปลูกเงินใช้ ง่ายเชิญ ไม่เขินขัด
เจ้ารัฐบอก หลอกบัตร ซัดหัวพ่อ
จากนี้ไป หน่ายปี้ บี้หัวตอ
ปลูก-ขอแพ้ แค่พอ-กินก็ละกัน ... โว้ย ๚

85

“รากหญ้า ฝังราก ใต้ต้นหญ้า
ต่ำเตี้ยกว่า ต้นไม้ ที่รายล้อม
รากหญ้า หน้าดำ หลังโก่งค้อม
มีแต่ “ยอม” ถูกล้อม โชคชะตา

เขามีสิทธิ์ จะคิด และจะฝัน
แค่รำพัน ในใจ ไม่เอ่ยกล้า
ใช่เพียงมอง เขาเหมือนกบ ในกะลา
เขาคือปราชญ์ แห่งท้องนา ท้องทุ่งไทย

เขามีหวัง ความหวัง ที่ยังหวัง
อย่ากักขัง ชิงชัง หรือผลักไส
ยิ่งสุมฟืน ไล่เขา ให้หนีไกล
เหมือนเร่งเขา ลุยกองไฟ ใกล้เข้ามา

เราอิ่ม “ข้าว” ทุกมื้อ...จง “ขอบคุณ” เขา
ผลไม้ ของโปรดเรา เขาจัดหา
เขาถือหุ้น ใน ...เศรษฐกิจไทย ... แต่ไรมา
จงมองเขา อย่างเมตตา เอื้ออาทร”

84

ที่คงอยู่ คู่ชีวิต จิตสีแดง
ด้วยรู้แจ้ง ความเป็นไทย และเป็นธรรม
ในชาตินี้ ที่เกิดมา มีผู้นำ
ที่เลิศล้ำ ประทับใจ ไทยก้าวหน้า

ได้คิดใหม่ และทำใหม่ ให้เปลี่ยนแปลง
คนเสื้อแดง พบสัจธรรม ยิ่งใหญ่กว่า
จึงมุ่งหมาย ที่จะออก นอกกะลา
อำมาตยา คอยคว้ำครอบ มิชอบธรรม

การต่อสู้ ในครั้งนี้ มิหวาดหวั่น
คงมุ่งมั่น ต้านอภิสิทธิ์ อย่างระกำ
ผู้ปกครอง ควรต้องมี สภาวะนำ
อย่ามัวทำ ปากปราศัย ใจเชือดคอ

83

ต้องให้ข้า ต้องสะอื้น สักกี่ครั้ง
ข้าต้องยัง หลั่งน้ำตา อีกแค่ไหน
ต้องก้มหน้า ให้ยำยี อีกเท่าใด
หรือต้องให้ ใจปี้ป่น หล่นลงดิน

ยังไม่พอ กันอีกหรือ ที่ทำข้า
ยัดข้อหา สารพัด หนักอย่างหิน
ตราหน้าข้า ว่ารับจ้าง ก่อม็อบกิน
ต่ำติดดิน ไร้ศักดิ์ศรี ย่ำยีกัน

ผิดด้วยหรือ ที่ข้าเชื่อ ความคิดข้า
ผิดที่มา เรียกร้องสิทธิ ที่คิดฝัน
ไหนบอกว่า ชาวประชา มีสิทธิกัน
แต่ไยวัน นี้มาด่า เข่นฆ่าเรา

เสียงรัวดัง ห่ากระสุน ที่พุ่งออก
ปากกระบอก เอ็มสิบหก ชนอกเขา
คนเหล่านั้น ที่เขาเป็น เพื่อนของเรา
ที่ร่วมกัน ออกไปเอา ประชาธิปไตย

กี่ร่างแล้ว ที่ร่วงลง ที่ตรงหน้า
แล้วท่านพา ศพไปทิ้ง ที่ตรงไหน
ฆ่ากายเรา แล้วยังมา ฆ่าหัวใจ
ด้วยการไป ออกข่าวว่า พวกข้าเลว

ย่ำยีเถิด ยำยีไป ให้เต็มที่
เข้าทุบตี กายของข้า ให้เนื้อเหลว
แต่ไม่มี วันที่เจ้า พวกคนเลว
จะได้ครอง ใจที่เหลว นี้แน่นอน

82

คือความจริง ในวันนี้ ที่ทักษิณ
พูดได้ยิน กันทั่วหล้า ไม่โกหก
เป็นนายก ของพี่น้อง ต้องป้องปก
เรื่องตลก แม้วยืนหน้า ว่าอยู่หลัง

มาเพียงเงา เขายังกลัว เหมือนหัวหด
พวกกบฏ ทรยศชาติ อาจถูกฝัง
คนเสื้อแดง จึงออกมา เฝ้าระวัง
ต้านรถถัง ด้วยแท๊กซี่ สุดชีวิต

ใช่เขาโง่ หรืออดโซ รอรับจ้าง
แต่อยู่อย่าง มีความหวัง ให้ได้คิด
ในศักดิ์ศรี ความเป็นคน จนผูกติด
ถูกหรือผิด ความเป็นไทย ให้ชอบธรรม

การต่อสู้ มิใช่อยู่ เพื่อทักษิณ
ตามโฟนอิน ก็เรียกร้อง ต้องตัดกรรม
โค้นอำนาจ อำมาตยา เปลี่ยนผู้นำ
ให้ควรทำ ตามที่พูด หยุดเผด็จการ

81

เพราะหัวเลี้ยว หัวต่อไทย มันใหญ่เขื่อง

เราจึงเปลือง เวลา มหาศาล

ดอกประชา ธิปไตย ไม่เคยบาน

คงตูมเต่ง แลนนาน ในวังวน



เพราะหัวเลี้ยว หัวต่อไทย มันใหญ่จัง

เราจึงมี รถถัง บนถนน

ตีนตะขาบ บาดลึก ในใจคน

อำนาจบน ปลายปืน หอมชื่นใจ



เพราะหัวเลี้ยว หัวต้อไทย มันใหญ่เกิน

เราจึงเพลิน ใต้ฝา กะลาใหญ่

นอกเปลือกแกร่ง กาบกาก เป็นหยากใย

อำมาตย์มาร อาศัย ใช้โยงกัน



เพราะหัวเลี้ยว หัวต่อไทย มันใหญ่ยักษ์

เราจึงยัง จมปลัก กับดักฝัน

เลี้ยงให้จน เลี้ยงให้โง่ ไปวันวัน

คิดไม่ทัน มองไม่ชัด อัจ นิจ จา . . .

80

กำแหงหาญ กวีประจาน ความยิ่งใหญ่
ประชาธิปไตย ในหัวเลี้ยว และหัวต่อ
รถถังวิ่ง บนถนน มวลชนรอ
มิยอมงอ พร้อมต่อสู้ อยู่ดินแดง

ใช้รถแก๊ส เกาะกำบัง ระวังปืน
เพื่อหยัดยืน การต่อต้าน ตามแถลง
รัฐประหาร หรืออย่างไร ให้ระแวง
คนเสื้อแดง ต้องเจอกัน ในทันที

รถแท๊กซี่ ที่รวมพล ชนปะทะ
แพ้ชนะ ใช่เป้าหมาย ในวันนี้
ล้มอำนาจ อำมาตยา สิ้นบารมี
ยุทธวิธี การโค้นล้ม ต้องขมขื่น

การประท้วง โดยสันติ มิอาจคง
เป้าประสงค์ ถูกยั่วยุ ปะทุตื่น
จับแกนนำ อ้างกฏหมาย เพื่อใช้ปืน
ทหารยืน ข้างอำมาตย์ ประกาศชัย

เป็นผู้ชนะ ที่เด็ดขาด ครองชาติต่อ
คนรูปหล่อ คือตัวเชิด เปิดใจใหญ่
ผู้ชนะ คือสังคม ของชาวไทย
อยู่กันไป ในกะลา ที่ครอบงำ

มาร์คไม่แพ้ แม้วไม่ชนะ ประชาแพ้
ที่แน่วแน่ คนเสื้อแดง ต้องถล่ำ
ไถลออก นอกทำเนียบ ให้จดจำ
ปล่อยแกนนำ ตัวใคร ก็ตัวมัน

เมื่อหลายกลุ่ม ร่วมชุมนุม เป็นแนวร่วม
จึงกำกวม ในเป้าหมาย จนแปรผัน
ถูกแบ่งแยก และตีแตก ลงโดยพลัน
ที่สำคัญ ถูกแทรกแซง เสื้อแดงปลอม

คือความจริง ในวันนี้ ที่ชี้บอก
เพื่อจะตอก ให้ได้เห็น เล่นกลับขอม
มันดำดิน มาบ่อนใส้ ให้จำยอม
จงถนอม อุดมการณ์ งานเพื่อไทย

79

ณ.ห้องนี้ กวีกลอน วอนหวังว่า
รักประชา ธิปไตย ใจเต็มร้อย
จงเข้ามา เสวนากัน มันรสถ้อย
เว้นพวกห้อย โหนอำมาตย์ อย่ามาเลย

เสียเวลา พัฒนาชาติ อำนาจแฝง
คนเสื้อแดง เขารู้ทัน เท่าที่เผย
รัฐประหาร การเมืองเน่า เหมือนดังเคย
เฝ้าเฉลย ทุกวันนี้ ที่หมองมัว

แอบอิงฟ้า อ้างแผ่นดิน สิ้นสัจธรรม
ถูกชี้นำ ด้วยอำนาจ ต่างข้างขั้ว
คือเผด็จการ แฝงอยู่หลัง กำบังตัว
ดีหรือชั้ว ดังกระเทย เลยสับสน

รูปแบบใหม่ ทางการเมือง เรื่องชี้ชัด
อำนาจรัฐ ถูกมือมืด ยึดส่งผล
สองมาตรฐาน การปกครอง ใต้อิทธิพล
ประชาชน ยิ้มไม่ออก หลอกลวงพราง

78

ทหารไทย ห้าวหาญ เรื่องวางท่า
งามสง่า ตามสมัย ไทย "เขียว" เขื่อง
ทหาร "ดี" "ตายง่าย" ล้มหาย "เปลือง"
ทหาร "เซื่อง" เหยียบกระเดื่อง เชื่อง ตาม "นาย"

ท . ทหาร อดทน เก่งฉกาจ
แต่ถูกโรค - ระบาด "ปิด" หมดสิทธิ์ "หาย"
รักษาดี ไม่ถูกโรค เร่งเนื้อร้าย
รักษาได้ กาย - สบาย แต่ ป่วย - ใจ

พี่ทหาร ฝึกหนัก พิทักษ์ถิ่น
พี่ทหาร ถูกขีดขิน ลืม "ศีล" ไว้
พี่ทหาร เกิดมา เพื่อคุ้มภัย
พี่ทหาร ที่ใจใหญ่ ฟังทางนี้ ...

เรายกย่อง ว่าท่านคือ "นักรบกล้า"
สูงศักดิ์กว่า เมฆา ... วัน ฟ้าเปลี่ยนสี
พี่ทหาร เราพร้อม สดุดี
แด่ คุณงาม ความดี ที่ท่านทำ

เราประณาม หยามเฉพาะ "เกราะ" พันธุ์ดุ
ทัพเริ่ม "ผุ" คนทำกร่อน ซ่อนในถ้ำ
ผ้าลายพราง บางคน ทำตกต่ำ
ฉุดคน "ทำ" เพื่อชาติ แทบขาดใจ

77

เห็นข่าวเช้า เล่ามา พาให้อึ้ง
มีทหาร นายหนึ่ง นั้นบอกว่า
หากทักษิณ มีโอกาส ได้กลับมา
ให้ผวา กลัวว่า มาแก้แค้น


ฉันฟังแค่ ข่าวเล่า เมื่อเช้านี้
รายละเอียด ยังไม่มี ที่แน่นแฟ้น
เพียงรู้สึก แปลกใจ และอายแทน
นายทหาร แห่งแคว้น ถิ่นแดนไทย


ข่าวเช้านี้ ไม่บอกชื่อ นายทหาร
แต่บอกว่า เป็นการ น่าเชื่อได้
ว่าเป็นผู้ มีระดับ กองทัพไทย
อยากรู้จัง ว่าเป็นใคร ให้ งวย งง


กลัวแก้แค้น เรื่องอะไร กันหรือท่าน
หรือกลัวไม่ ได้ขั้น ตามประสงค์
ปล่อยวางบ้าง เถิดหนา ควรจะปลง
อย่าได้ส่ง ความขลาดเขลา เอามาโชว์/….

76

กล่าวหา"ชินฯ"ผูกค้า..........................ขายขาด
ย้อนกลับ"ซีพี"กวาด..........................เกษตรบ้าน
ทำตาบอดหรือขยาด..........................เรียงไล่
ฮุบงับหนึ่งเดียวกว้าน..........................ทุกพื้นที่เมือง


ชำเลือง"เซเว่นฯ"เส้น..........................สายใคร
เจ้าเก่าซีพีใย....................................ปล่อยไว้
ก็ผูกขาดทั่วไทย................................มิต่าง แม้วนอ
ฮ่วยทึ่มทุเรศกันได้.............................ช่างเพี้ยนมาตรฐาน

75

รถเมล์อีกอื้อซ่า.........................เคลียคลอ
จอดซุ่มจังหวะรอ........................ลิ่วล้อ
อุปสรรคเจอตอ..........................คิดหนัก
จะรอดหลุดคดีฉ้อ.......................ราษฎร์นี้ยากเห็น


ลำเข็ญยางกล้าจ่อ......................ตามติด
สารพัดให้ขบคิด.........................สะบัดดิ้น
กิเลสผุดกระบวนบิด....................จิตเสื่อม
วิบัติกรรมปล้อนปลิ้น...................พลิกข้างขายนาย


ร้อนขวนขวายใฝ่พร้อม................รัฐบาล
โฉดชั่วปฏิบัติการ........................สัตว์ร้าย
ต่ำทรามเล่ห์วิญญาณ...................ระเบิดศึก
ท้ายสุดคิดยักย้าย.......................หลุดพ้นคดีความ


กรรมถามหาเร่งรู้.........................เตือนตน
ระวังเถอะโดนเก็บผล....................พ่อบ้าง
จักกระอักคลั่งคลื่นชน...................ศัตรูขนาบ
สยองสยดถูกกวาดล้าง..................อย่าแค้นใครเขา

74

๐ มองเถิดความแตกต่าง
ผิดแผกบ้างอย่างสร้างสันติ์
ร้อยแพร่งล้านพราวฝัน
แค่ช่วยกันร่วมก้าวเดิน

๐อาจต่างแต่อย่าแตก
สร้างความแยกให้แปลกเกิน
หลากพ้องร่วมประเมิน
หาจุดเดินร่วมดุจเดิม

๐อาจอยู่อย่างต่างถิ่น
อาจมีหมิ่นเพราะห้าวเหิม
กร้าวแกร่งมาแต่งเติม
อย่ายุเพิ่มความแปลกพันธุ์

๐ชนไทยเผ่าไทยเดียว
ต่างข้องเกี่ยวแลเสี่ยวกัน
ตรึกตรองรับต่างนั้น
"บ่มีวันเดินเดียวดาย"

73

ดูข่าวเล่าแต่เช้า........................กราดปืน
เกือบจะล้มทั้งยืน......................อีกนั้น
คนเราอย่าคิดฝืน......................ใจปาก
พูดเก่งน้ำแต่งปั้น......................ชีพสั้นจริงหนอ

ใครทำใครคิดแค้น.....................โกรธเคือง
ใครคิดทำลายเมือง....................ปวดร้าว
กระสุนอย่าใช้เปลือง..................สูญเปล่า
ยิงพวกคนที่ก้าว-.......................ล่วงล้ำแดนไทย

ประชาชนเหล่านี้......................คนไทย ท่านเอย
โกรธเกลียดเรื่องอันใด...............เอ่ยบ้าง
ลวงล่อลับดับไป.......................เจ็บปวด
หลั่งเลือดไทยสิ้นร้าง.................แตกให้ใจหมอง

72

ในคราแรก ก็มีบ้าง ที่โกรธเกลียด
ช่างอีเดียด บ้าคลั่ง ทำเอาวุ่น
เอารถแก๊ส มาขู่กัน มันเคืองขุ่น
จะล่องจุ๊น ทั้งยังโสด โกรธจริงจัง

แต่ได้ฟัง จากไร้นาม ก็เข้าใจ
เห็นทหาร แบกปืนไป ดูขึงขัง
ก็รักตัว กลัวตายเป็นกำลัง
เลยไม่ยั้ง หาทางรอด กอดกันตาย

แต่อีกฟาก ผู้คน ไม่มีเอี่ยว
กลับโดนเกี่ยว ให้ตายหมู่ ก็ใจหาย
เห็นเสื้อแดง เป็นฝ่าย ที่ชั่วร้าย
คงวุ่นวาย ถ้าไม่มี พี่แบทแมน

เรื่องของเรื่องมันเกิด เพราะแตกแยก
ออกจะแปลก ว่าทำไม มาไกลแสน
ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ต่างถูกแบน
ฉันเก็บแขวน ไม่กล้าใส่ ไปอีกนาน

อยากใส่เสื้อ ตามใจ ไม่ต้องคิด
อยากขอสิทธิ์เลือกสีเสื้อ(ใส่)อย่างกล้าหาญ
อยากเห็นบ้านเมืองร่มเย็นเหมือนวันวาน
อยากให้เรื่องร้าย นี้พ้นผ่าน ไปเสียที

71

ฉันไม่ชอบสนธิ สักเท่าไหร่
แต่หัวใจเกลียดทักษิณมากยิ่งกว่า
เรื่อง(ไม่)รัก ห้ามไม่ได้นะคุณขา
โปรดเมตตาอย่าผลักไสใส่เหลืองเลย

ฉันไม่เห็นงามตามเสื้อแดงแม้สักนิด
แต่ไม่คิดเป็นศัตรู แค่เพียงเฉย
เพียงความคิดที่ต่างที่เอื้อนเอ่ย
ก็โดนเลย ถีบกระเด็นเป็นเหลือง ไป(ซะงั้น)

ฉันไม่ชอบ ถ้าใครแถ แปรเปลี่ยนเรื่อง
สติเฟื่อง สะกดจิต คิดวาดฝัน
ขอเหตุผล พูดจาดี ให้แก่กัน
คนไทยทั้งนั้น จะกัดกันเพื่ออะไร

70

มีเรื่องใดน่าโกรธอย่าโทษใคร
โทษที่ใจเราผิดไม่คิดยั้ง
พยาบาทโกรธแค้นและชิงชัง
ในใจสั่งสมไฟไร้ปัญญา

ไม่พึงใจพอใจใครก็มี
ความไม่ดีต่างย่อมรู้คู่กันหนา
โลภ โกรธ หลง มีกิเลสธรรมดา
แต่อย่าให้..เดินหน้า..นำพาไป

อภัยได้..อภัย..ให้เขานะ
เลิกลดละฝึกให้เป็นนิสัย
อย่าเอาโกรธนำหน้าจะมีภัย
จองเวรไปไม่มีสุขทุกข์ใจฟรี..

เราก็้ร้อนเขาก็ร้อนทั้งสองฝ่าย
โมโหร้ายเหมือนไฟลามไล่ที่
ถอยก่อนได้ยอมก่อนเถอะคนดี
ใจเย็นมีค่อยกลับปรับเข้าใจ

เพราะหนึ่งครั้ง..ที่เรา..ให้อภัย
คือปลดไฟ..หนึ่งกอง..ออกไปได้..
ไฟโกรธเกลียดเผาผลาญสุมทรวงใจ
ฉ่ำเย็นได้ด้วยกระแสเมตตาธรรม..

ใจที่เคยร้อนรุ่มกระวนกระวาย
ดับสลายคลายเป็นน้ำเย็นฉ่ำ
ดวงใจที่มืดมิดสนิทดำ
ไม่ได้นำสุขก่อต่อตนเลย..

69

๏ ดมเหล้า เดาล้ม ไม่ สลับโท
ลมจับ รับจม โหล ร่วมร้อย
ไร้นาม ล่ามใน โล กาวิ-นาศฮา
นกห่วย หน่วยหก ห้อย กรอกน้ำกระสายยา

๏ ฮาดื่ม ฮึ่มด่า น้ำ ยาสวรรค์
เหล้าเถื่อน เลื่อนเฒ่า ยัน ยักแหย้ ----->(แหย้ โทโทษเอก แย่)
กับหมด กดหมับ ดัน ทะลึ่งพรวด
กรึ๊บต่อ ก็ตึ้บ แย้ ลาบก้อยแบ่งกัน

๏ ไม่หวั่น หมั่นไหว้ มาร์ค หมอผี
เหล้าป่า ล่าเปล่า ฟรี รึหนี้
เดี๊ยะบอก ดอกเบี้ย มี บานเบิก
เมาเทือก เมือกเทา ยี้ จอกนี้ให้ทาน

๏ บ้านป่า บ่าป้าน-สุ รา-บาน
เอ้าเห่ เอ้ะเห่า ศาล อีกแก้ว
การ์ดมี กี่มาตรฐาน รึดับ-เบิ้ลฮา
ฮาเป่า เห่าป๋า แล้ว กรอกแก้วใหม่มา

๏ เมาฮ่ะ มะเห่า ให้ ป๊ะป๋า
หอยม่วง หวงม่อย ฮา หยิกมั้ย
ไหเหล้า เห่าไร หวา วานบอก
เมาแร่ะ แมะเหล้า ให้ จอกน้อยนิดเดียว ๚

68

ขอส่งใจ จาก..เมืองกรุง มุ่งสู่..ดอย
เธอ..อย่าหงอย อย่าเหงา เศร้าถวิล
สักวันหนึ่ง เถิดหนา นะยุพิน
ถ้าไม่..สิ้น ลมหายใจ ได้..เจอกัน

ปณิธาน ในตำนาน การต่อสู้
กับศัตรู ที่แกร่ง และแข็งขัน
แต่ยังมี สองเรา เข้า..ประจัน
ร่วมสร้างสรร หาระบอบ ที่ชอบธรรม

แม้วันนี้ จะห่างหาย เพราะพ่าย...เขา
ทั้งการข่าว ก็เบือนบิด คิดแล้ว..ขำ
นี่แหละหนอ ขอ..ตั้งหลัก จัก..จดจำ
กับความช้ำ ครั้งนี้ มี..บทเรียน

ขอ..ส่งใจ จาก..เมืองกรุง มุ่ง..สู่บ้าน
เป็นสายธาร สามัคคี ไม่มีเปลี่ยน
ทั้งยอดเขา สู่ท้องนา มา..เยี่ยมเยียน
ดั่งแสงเทียน ส่องสว่าง กลางใจ..เรา

แต่. วันนี้ ก็ยังดี ที่มีเพื่อน
ยังไม่เลื่อน ห่างหาย เหมือนใครเขา
มาชักชวน ร่ำสุรา น่า..บรรเทา
ความปวดร้าว ที่ขื่นขม ห่มใจ..เรา

67

ถึงวันนี้ มีหนามขวาก มาบากกั้น
แต่ตัวฉัน มิไหวหวั่น อันเป้าหมาย
จะร้อยวัน แสนวัน ที่ เคลื่อยกราย
ตราบหัวใจ คงมั่น วันที่รอ

ร้อยวันหน้า หมื่นวันรอ ขอได้พบ
สิ่งที่สพ ซึ่งแล้ว แนวความหมาย
แสนวันล้า ล้านวันรอ ขอแย้มพราย
รัฐบาลร้าย อำมาร์ตเลว ลงเหวพลัน

ถึงผมนี้ มิอาจ กั้นรถถัง
แต่ก็ยัง มีส่วน ชวนเพื่อนฉัน
จุดประกาย ความหวัง ที่รอวัน
อำมาร์ตนั้น ล้มกลิ้ง วิ่งตามกรรม

ถึงวันนี้ เพื่อนพี่ มีช้ำจิต
หลายคนคิด อ่อนรู้ สู้ไม่ไหว
แต่ตัวผม ในวันนี้ และต่อไป
ไม่มีทาง จะก้มหัว ให้เผด็จการ

66

เสียงพระธรรม ตามกระซิบ รีบศึกษา
สิ่งมายา ค้นดู รู้ดีชั่ว
เสียงพระธรรม บอกอุบาย ทำลายตัว
ไม่ให้มั่ว ยึดขันธ์ ทุกขั้นไป
เสียงพระธรรม บอกไว้ ไม่ยึดถือ
ตัวเราคือ รูปนาม ตามหลงใหล
ล้วนหาใช่ ตัวเรา จงเข้าใจ
เห็นหรือไม่ ของเก่า เฝ้าอ้างอิง
เสียงพระธรรม ดังก้อง ร้องให้หยุด
ให้รีบรุด ออกจากไฟ ไปทุกสิ่ง
เสียงพระธรรม วิงวอน สอนความจริง
ให้เราทิ้ง โลกไป ได้นิพพาน
เสียงพระธรรม ให้ระงับ ดับโลภะ
ทั้งโทสะ โมหะ ควรประหาร
เสียงพระธรรม ชี้แจ้ง แจ้งเหตุการณ์
ไม่ให้พล่าน อยากได้ ไม่ยินดี
เสียงพระธรรม พร่ำสอน วอนบังคับ
ให้เพียรดับ ขันธมาร สังหารผี
เสียงพระธรรม ไม่หมายปอง กองอัคคี
ให้หน่ายหนี ดีชั่ว เกรงกลัวภัย
เสียงพระธรรม อำนาจ ประหลาดนัก
เห็นประจักษ์ ชัดยิ่ง ยิ่งสดใส
เสียงพระธรรม มีฤทธิ์ ปลิดทุกข์ใจ
ให้ดับไฟ คลายพิษ จิตว่างเอย

65

ตรรกกะแดงเหลืองคือความต่าง
ไม่มีทางเชื่อมติดต่อกันได้
ไม่มีสีใช่ว่าไม่มีใจ
เอนเอียงฝ่ายใดก็ไม่รู้

เมื่อความจริงถูกบิดเบือนด้วยอำนาจ
เมื่อราษฎร์ถูกกดขี่และข่มขู่
ความชอบธรรม...ถูกผิด...มิตรศัตรู
จึงอยู่บนเส้นคั่นอันตราย

ไม่มีแดงแพ้ฤๅเหลืองแพ้
มีแต่ชาติไทยที่แพ้พ่าย
เมื่อสิ้นเสียงปืนนัดสุดท้าย
ชาติไทยถูกทำลายป่นปี้แล้ว

64

ต่างสะสมโคลนตมไว้ในจิต
กลายเป็นพิษทำลายหลากหลายแผล
เกิดคลื่นลมภายในให้ปรานแปร
ผลคลื่นแผ่ออกทางกายวาจา

จึงส่อเสียดเบียดเบียนถึงเฆี่ยนตี
ทำย่ำยีผู้อื่นด้วยโทสา
ทำลายล้างผู้ขวางให้โศกา
ต่อสู้กันเรื่อยมาในเผ่าพงศ์

อวิชชาพาให้ไม่พบแสง
ตัณหาแกล้งนำทางให้ลุ่มหลง
สร้างกงกรรมเรื่อยไปไม่จบลง
กิเลสคงมีอำนาจไม่ปราศไป

สิ่งที่ควรกำจัดใช่ใครอื่น
อย่าคิดตื้นว่าศัตรูคือคนไหน
ศัตรูที่สำคัญอยู่ที่ใจ
ต้องกำจัดให้ไร้กิเลสมา

63

อำนาจยึดถือครองสนธิสี่
สนธิแรกบารมีแผ่ขยาย
สนธิสองอาวุธเข้าทำลาย
ให้วอดวายมอดม้วยในบัดดล

สนธิสามสื่อเร้ากระพือโหม
เหมือนจู่โจมแตกหักพินาจลง
มิอาจทานให้ไทยยั้งยืนยง
คงต้องปลงสนธิเก็บซากเอย

62

๏ กลางเก่ากลางใหม่ร่วมวง
นั่งลงฟังคำเพื่อนสหาย
เผยจิตเปิดใจสาธยาย
อธิบายเรื่องราวผ่านมา ๚

๏ บางอย่างบางเรื่องปล่อยไป
ลืมได้สบายใจวางเสีย
หนักหนาสาหัสใจเพลีย
อ่อนเปลี้ยะพักก่อนผ่อนกาย ๚

๏ หลายเรื่องหลายราววุ่นวาย
หลากหลายเข้ามาถาโถม
ยากยิ่งรับมือจู่โจม
หักโหมห้ำหั่นหวั่นใจ ๚

๏คำ กล่าวหาด่าว่าอย่าเก็บ
หยิกเล็บเจ็บเนื้อเถือหนัง
ลืมเสียอย่าโกธรชิงชัง
กลบฝังผ่านได้สบายดี ๚

61

ฉันไม่ใช่เสื้อแดง
เพราะไม่แรงอย่างกล่าวหา
ไม่เคยร่วมชุมนุมท้า
กับอนาธิปไตย

ฉันไม่เคยได้ตังค์
เพียงพลังของแรงใจ
อยากจะเห็นการเมืองไทย
สวยสดใสอย่างที่ฝัน

ฉันไม่ได้ยากจน
หรือทุกข์ทนขนาดนั้น
แต่ชีวิตติดดินมั่น
มิเหยียดชั้นในสังคม

ฉันไม่ไร้การศึกษา
มีวิชาพอห่อห่ม
แต่ไม่ชอบเหยียบใครจม
หรือเอาข่มเพราะไม่ควร

ฉันเป็นเสื้อแดงหรือ?
ขอหารือเพื่อนอย่างด่วน
หรือฉันพลาดร่วมกระบวน
ถูกโซ่ตรวนคนเสื้อแดง...

60

เพื่อนเก่าในราชดำเนิน
เชิญเพลินร่วมร่ำสุรา
ในห้องกวีนี้หนา
บอกลาเรื่องราววุ่นวาย

หากมัวแต่เศร้ากับห้อง
หยุดมองเถิดเหล่าสหาย
โพสไปหายไปเหมือนพ่าย
เสียดายอักษรถ้อยคำ

เพียงเขียนให้คนเมตตา
อาจถูกรุมว่าน่าขำ
กล่าวหากันทุกเช้าค่ำ
จดจำเราเป็นเสื้อแดง (?)

59

ถ้อยคำชี้นำความหมาย
เสกสรรปั้นได้ถ้อยคำ
ฝากใจให้จดเลิศล้ำ
ความงามเกิดจากเจตนา


คุณคิดพินิจจึงเขียน
รู้เรียนรู้ผิดสรรหา
รู้ผิดรู้ชอบตอบมา
วาจาทุกถ้อยอร่อยหู


พลาดไปใจอย่างแหนง
เป็นแหล่งได้แจ้งได้ดู
อย่าคิดว่าใครเป็นศัตรู
ฤดูเปลี่ยนไปไม่เนิ่นนาน


ห่างใจคิดหน่ายแหนง
ร้อนแรงใจแฝงคิดพาล
ตอบใจคิดได้ในฤดูกาล
ไม่นานตอบรับจับมือ

58

๏ ว่าวลง วงเหล้าป่า..........แดงชัก
เหลืองเข่น เล่นเคืองหนัก...รอบนี้
ร่วมสี รี่สรวมรัก...............กันไม่-ดีฤๅ
ม้าเฒ่า เมาท่าฮี้...............ชักเฮี้ยนม้าหาย

๏ ขายเหล้า เขาไล่ปลิ้น.......กระเป๋า
เหล้า vat แรดเว้าเอา..........จ่ายหนี้
ร้องบาป ลาภบ๊องเหมา........เอาหมด
ไวน์เล่า ว่าวไลน์นี้..............ชักขึ้นหรือหวา

๏ ส่าเหล้า เศร้าล่าลิ้ม..........เล่าลือ
เค้าล่า ค่าเหล้าหรือ.............เลือกมุ้ง
เหลืองคิด ฤทธิ์เคืองมือ........ใครปั่น
เหล้าทิ่ม ลิ้มเถ้าฟุ้ง..............ขัดฟ้าฟั่นเฟือน

๏ เพื่อนเหล้า เผ่าเลื่อนรุ้ง......เลื่อนลอย
รุ้งเฒ่า เหล้าทุ้งหอย.............ม่วงซ้ำ
ชำหนัก ชักนำคอย..............เปิดอู่ รับแล
เหล้าปู่ รู้เป้าปล้ำ.................เปิดบ้านม่านบัง

๏ ดั่งแสร้ง แดงสั่งม้า............ได้หรือ
เหลืองสั่ง หลังเซื่องฤๅ...........สั่งได้
เขียวสั่ง คลั่งเสียวมือ.............หลังม่าน
เศร้าหลั่ง สั่งเหล้าไร้..............สื่อร้องโวยวาย

๏ ชายป่า ชาป้ายปาก............เหลืองแดง
วงเล่า ว่าวลงแรง...................ร่วมสู้
ป่าเมา เป่ามาแทง.................ใจทุก ท่านเวย
ม้าป่วน ม้วนป่ารู้...................ไพร่ฟ้าร่วมชะตา-เดียวกัน บารนี ๚

57

๏ เห็นต้มเหล้าป่า ห่าต้มเหล้าเป็น
ยาดูดขี้ควันเหม็น เย็นดูดขี้ฟันหมา
น้ำมาขึ้นราคัน น้ำมันขึ้นราคา
เผือกมันกะด่า ผ่ามันกระเดื๊อก

๏ เอ้าดื่มอีกจอก ออกดื่มอีกเจ้า
เจือกกินข้าวเปล่า เจ้ากินข้าวเปลือก
เลือกนายหัวทิ่ม ลิ้มนายหัวเทือก
อำมาตย์ตาเหลือก เอื๊อก! มาดตารำ

๏ ขาดเฒ่าสังเวช เขตุเฒ่าสังวาส
ขำมุกอมาตย์ ขาดมุขอาหม่ำ
เล่นกำถั่วดิน เล่นกินถั่วดำ
เมาเหล้าเขาซ้ำ หม่ำเหล้าเขาเศร้า

๏ ไร้นามชวนดื่ม ลืมนามชวนได้
เหล้าใครหมักให้ ไล่ใครหมักเห่า
เสาชายต้องลม สมชายต้องเล่า
มาร์คหล่อนะเจ้า เมาล่อนะ จ๊ากกกกกกก!!!!!!!!!! ๚

56

ต้นไม้นั้นอยู่ด้วย...............................รากดี
ใบดอกผลมากมี...............................ร่วมต้น
คนไทยใช่ราวี..................................บ่เลิก นาพ่อ
สีต่างนั้นหลุดพ้น...............................ร่วมด้วยช่วยกัน

ไม้แดงไม้สักล้วน..............................ไม้ไทย
บ้านที่สร้างปลวกไช...........................กร่อนได้
ฝาบ้านขื่อบันใด................................สอดเกี่ยว กันแล
ถ้าขาดสิ่งใดไซร้...............................ย่อมได้บ้านเอียง

55

๏ พี่แดง แพงดี้ กระ...............ท่อมแดง
แดงท่อม ด้อมแทง แมง.........มอดไม้
ไม้ค้ำ หม่ำไข้ แรง.................เรี่ยวหมด
หมดป่า ม้าปลด ให้................ผูกล้อมแดงดิน

๏ ถิ่นแดง แทงดิ้น ดัก............ยิงแดง
แดงเลือด เดือดแรง แทง........เตะม้า
ม้าบุก มุขบ้า แมง..................สาบด่า
ด่าปราบ ดาบ ป่าช้า...............ฝักไม้แดงทน

๏ มนต์แดง แมงด้น สวด.........มนต์ดำ
ดำขวด ดวดขำ ตำ.................หนวดห้อย
ห้อยม้า ห่าม่อย ทำ................สีซีด
ซีดป่า ซ่า ปรี๊ด! ข้อย..............มักเหล้าสีแดง ๚

54

๏ ปืนแตก แปลกตื่น เปรี้ยง......เปิงหมาย
ชีพหล่น, ชนรีบ หาย...............ใส่ตู้
รถขน ร่นขด คลาย.................เบือนสื่อ
ยิงใส่ ใยสิง รู้........................หั่นห้ำละเลงแดง ๚ะ

๏ ใดแฝง, แดงใฝ่ ด้าน............ธรรมดา
รักต่อ รอตัก มา.....................ต่างแค้น
ถูกรุม ทุ่มรุก รา -...................วี,หนัก
เหลืองใคร่ ไล่เคือง แม้น..........ต่างชั้น ประชาชน ๚

53

๏ ท้าฝน ทนฝ่า ท้อง............ทุ่งนา
หลังแอ่น landอั่งพา............ชุ่มน้ำ
เอิบอิ่ม อิ่มเอิบ ครา...............ฝนหลั่ง มาแล
ล้นฝ่อ รอฝน ย้ำ...................ปลุกข้าว ดำนา ๚

๏ มั่นใน ใหมนั่น ต้น...........ไม้แดง
หมุนว่อน วอนหมุน แสง.......สลับขั้ว
ดลหลอก ดอกหล่น แจง........ทั่วทุ่ง นาเฮย
ผลจิต พิศจน คว้า................ดอกเจ้า มาชม ๚

๏ ไม้แดง แดงไม่ได้..............สีทา
เลือกปลอก ลอกเปลือก มา.......จัดจ้า
แดงแจ๋ แด่แจง มา.................สีช่าง แดงแฮ
ยากลบ สยบรากหญ้า.............เนื่องด้วย มากแดง

52

๏ ป่าราญ ปานล้า เหนื่อย................ขาดแรง
คล้ายมาด คาดไม้ แดง...................หมดเชื้อ
รอแต่ง แหล่งตอ แฝง.....................หายขื่น
ฝนหลั่ง ฝั่งล้น เอื้อ.........................เติบขึ้นดังวาน ๚

๏ ดันส่ง ดงสั่น สู้...........................ชีวิน
ย้ำสาด หยาด,ซ้ำ ริน.......................แหล่งชื้น
หวังแผ่ว แว่วพลาง ยิน.....................เย็นเยือก
พอหลุด ผุด,รอ ฟื้น.........................ชุ่มน้ำเพียงเดิม ๚

๏ เสริมเหล่า เศร้าเริ่ม ฟื้น.................รอดตาย
ใบเหี่ยว เบี้ยว,ให้ คลาย....................จากแล้ง
ฝนสาด ฟาดสน ปลาย.....................ปอนเปียก
เยือนมั่ง อย่างเหมือน แจ้ง................ชัฏให้ชิมชล ๚

๏ แผลงต้น ผลแต่ง แต้ม..................พอโต
ใหญ่แตก แยกไต่ โชว์......................กิ่งก้าน
เติบใหญ่ ไต่เขยิบ โข......................เผื่อพัก
กอแผ่ แก่พอ ต้าน..........................ท่วม,แล้งเยือนไพร ๚

๏ ไม้แดง แมลงได้ เกาะ..................เกิดตน
รอเพิ่ม เริ่มพอ ฝน.........................ตกเคล้า
ชุ่มรื้น ชื่นลุ่ม ชล...........................เปียกแฉะ
หมู่สัตว์ มาดสู่ เหย้า......................แหล่งไม้ชายคา ๚

๏ ฝนมา ฟ้าหม่น ครึ้ม....................เปียกปอน
เย็นร่ำ ย่ำ,เลน ตอน.......................ชุ่มน้ำ
เช้าค่ำ ฉ่ำเคล้า นอน......................เย็นเยียบ
สนุก สุขนะ ล้ำ.............................ป่าฟื้นคืนเดิม

51

มิคสัญญี กลียุค อย่างฉุกเฉิน
หลังประเมิน ลอบสังหาร เหตุการณ์สนธิ์
สรุปว่า รัฐบาล เข้าตาจน
ด้วยอิทธิพล อำนาจซ้อน อำนาจรัฐ

เสถียรภาพ ความเชื่อมั่น ย่อมสั่นคลอน
เกลือเป็นหนอน แน่แท้แล้ว หมายกำจัด
พันธมิตร อ่อนกำลัง หวังแน่ชัด
ให้ปฏิวัติ รัฐประหาร รัฐบาลมาร์ค

สภาวะความ เป็นผู้นำ ถูกท้าทาย
สุขสบาย คงไม่มี ต้องลำบาก
สถานการณ์ อันเลวร้าย แสนยุ่งยาก
ฉุดกระชาก เทพเทือกลง จงลาออก

กลไกรรัฐ เกิดทับซ้อน วอนให้เปลี่ยน
มือชั้นเซียน มาคุ้มครอง ตามคำบอก
ของพันธมิตร ผู้ภักดี คงไม่หลอก
อย่าย้อนยอก โยเยยืด ลากยาวไกล

50

เมื่อผู้นำ ทำเกินเหตุ แสนทุเรศ สั่งไล่ล่า

กู้หนี้ แล้วกู้หน้า เพียงเชื่อว่า จะอยู่ยาว

ประชา กำลังจะสนุก ถูกกระตุก จนร้อนหนาว

นัดมา หมายเด็ดดาว เกิดเป็นข่าว ฉาวโฉ่ความ

49

เช้าตรู่ มีข่าวด่วน ชวนตกใจ
มันผู้ใด ไล่เข่นฆ่า ลิ้มสนธิ
เกลือเป็นหนอน คนข้างแค่ หรืออริ
แน้แล้วซิ เป็นกฏเกณฑ์ ชะตากรรม

จะอยู่กัน อย่างไรดี นะชาวไทย
ให้ปลอดภัย สุขสดใส อย่างชอบธรรม
สมานฉันท์ สามัคคี มีแต่พร่ำ
พล่อยพูดคำ จนหลงไหล ให้เชื่อมั่น

รัฐบาล ปากปราศัย ใจเชือดคอ
ได้นั่งวอ รอสั่งงาน เพียงขานขัน
จึง ประชา ซิตาย เป็นรายวัน
สูญสิ้นพลัน สิทธิ์ศักดิ์ศรี เสรีภาพ

48

ดังปฏิหาริย์ เหมือนการแสดง ละครบู้
รถคันนี้ คงน่าดู เกลียดสนธิ
ยิงปืนกล ใส่เป็นร้อย รอดตายฮิ
เอาละซิ ยุ่งกันใหญ่ ใครกำกับ

มันเหลือเชื่อ เมื่อไม่ตาย สักชีวิต
พันธมิตร คงงมงาย เหนือคณานับ
รถคันนี้ เกลียดสนธิ ได้ไงครับ
ไม่ขอรับ เรื่องเหลวไหล ให้หลอกลวง

เป็นคนดี ผีต้องคุ้ม เห็นใช่ไหม
เป็นคนไทย ก็มักเชื่อ ผีทั้งปวง
ห้อยคอไว้ แต่เป็นพระ ที่แหนหวง
จึงไม่กวง ยิงเป็นร้อย น้อยที่ใหน ?

รัฐทับซ้อน ซ่อนเป็นรัฐ รัฐบาลเงา
ฝ่ายเหลืองเขา ว่ากันว่า เจ้าตัวใหญ่
ฝ่ายแดงว่า อำมาตยา ธิปไตย
คนทั่วไป เรียกผีสิง ครึ่งหญิงชาย

47

๏ จ้าวป่า จ้าปล่าว ผู้............นำผี
ผีป่า ผ่าปลี ซี....................ผ่าปี้
ปี้เฒ่า เป่าที่ หมี.................ใครวะ
วะนี่ 'วี'นะ ซี้......................ป่าหนี้บานตะเกียง

๏ เกลี้ยงป่า กล้าเปรี้ยง เป่า...หัวหมู
หมูป่า หมาปู่ กรู.................ขย้ำ
ย้ำป่า อย่าปล้ำ ตู................เซ็งเป็ด
เป็ดน่า ป่าเนต ปล้ำ..............ต่อต้านมารหัวขาว

๏ ข่าวล่า ค่าเล่า ลิ้ม.............ตบทรัพย์
ทรัพย์ล่า ซ่ารับ กับ..............ค่าเหล้า
เหล้าป่า ล่าเปล่า จับ.............คุกเข่า
เค้าล่า ค่าเหล้า เจ้า...............เดือดร้อนภาษีแรง

46

อันการเมืองเรื่องนี้.............................เลยไป เพื่อนเอย
วันพรุ่งนี้สดใส..................................เปิดกว้าง
ลุกหลานรุ่นต่อไป..............................สานต่อ
มูลเหตุใจอย่าค้าง.............................เลิกแล้วคืนดี

มือที่สามยิ้มย่ิอง...............................ดีใจ
ยื้อแย่งกันต่อไป...............................ชอกช้ำ
สองฝ่ายฟาดฟันใจ............................หดหู่
ตาอยู่คว้างพุงค้ำ...............................เหยียบให้จมดิน

คนเราจงอย่าได้...............................ลำพอง เพื่อนเอย
อย่าคิดแค่คึกคนอง..........................ชนะแพ้
อำนาจชาติต่อรอง............................เกินเหตุ
ประเทศสิ้นทางแก้............................พ่ายแพ้ทุกคน

45

๐๐๐มารป้องเมืองเรื่องรู้ จ้าวป่า
โหดเหี้ยมเล่นเข่นฆ่า ผู้นำ
ชิงความยิ่งใหญ่กว่า การเมือง
ขู่เขื่องอย่าลุกล้ำ อำนาจรัฐอมาตยา

๐๐๐อย่าดูเพียงสีเสื้อ สร้างเหตุ
ร้ายแรงทั้งประเทศ แบบเสื้อ
เครื่องแบบจงสังเกตุ ใครใส่
ค้ำคอให้เชิดเหนือ เสือสิงห์กระทิงแมว

๐๐๐เทพเทือกเกลือกกลั่วกลิ้ง หมอบกราบ
ใครสร้างเหตุอยากทราบ คำตอบ
ฝ่ายมั่นคงต้องปราบ ป้องเมือง
จ้าวป่ามิชื่นชอบ ขบเขี้ยวลบเหลี่ยมฟัน

44

เมื่อผู้นำ นำจ้าวป่า มาป้องเมือง
มันจะเชื่อง ถ้าไม่หิว ไม่กริ้วโกรธ
มันจะบ้า ตอนเวลา เจอของโปรด
จึงขอโทษ ของอยู่ป่า อย่าเข้าเมือง

แต่วันนี้ สายไปแล้ว ทแกล้วกล้า
เอาจากป่า มาไล่ล่า ฆ่าแดงเหลือง
เสื้อน้ำเงิน ขอมดำดิน วินหนุนเนือง
คิดครองเมือง จากพัทยา มากลางกรุง

เหล่าแกนนำ ทุกสีสิ้น อย่าหมิ่นหมาย
ถูกชี้ตาย มาแน่ชัด กำจัดรุ่ง
แม้ไม่สยบ ใช้ความสงบ เพื่อผดุง
เป้าหมายมุ่ง ทางการเมือง จะเปลืองตัว

43

ในที่สุด ... ความ “แค้น” ... ทำให้ “คลั่ง”
ในที่สุด ... ความ “ชิงชัง” ... ทำให้ “บ้า”
ในที่สุด ... ความ “โง่เขลา” ... เบาปัญญา
จึงดาหน้า ... บีฑา ... มาเป็น “นาย”

ในที่สุด ... การ “ริดรอน” ... ถูก “ต่อต้าน”
จะทำให้ ... องค์การ ... ล่ม “สลาย”
จนย่อยยับ ... อับปาง ... “บ่อนทำลาย”
ผลสุดท้าย ... ความ “อับอาย” ... จะมา “เยือน”

ในที่สุด ... มิตรแท้ ... แน่หา “ยาก”
เพราะมัวแต่ ... ใช้ “ปาก” ... กล่าว “เชือดเฉือน”
“การหักหลัง” ... สัญญานลั่น !! .... สนั่นเตือน”
ทำลาย “เพื่อน” ... ดั่ง เสมือน ... สร้าง “ศัตรู”

ในที่สุด .... เคย “รัก” ... กลับยิ่ง “เกลียด””
บ่ม “เสนียด”.. ความ “เครียด” ... ที่ “สุมอยู่”
จนกลัดหนอง ... เป็นความ “ลับ” ... ใคร “มิรู้”
พร้อมเปิดโปง ... โยงสู่ ... “ผู้บงการ”

ในที่สุด ... “เวรกรรม” ... ที่ทำไว้
จึงย้อนกลับ ... มาให้ร้าย ...ทุกสถาน
เพื่อสอนว่า ... อย่าไว้ใจ .... “เผด็จการ”
จะย้อนกลับ ... มาเล่นงาน ... ด้วยเสียง “ปืน”

ประชาชน ... “มือเปล่า” ... หมดทางสู้
ยังเสียรู้ ... “ รั้วของชาติ” ... มิอาจขืน
ได้โปรดเถอะ!! … อย่าหันปลาย ... “กระบอกปืน”
เพื่อหยิบยื่น ... ตอบแทน ... ประชาชน !!

อันการใช้ ... “อำนาจ” ... นั้นล่อแหลม
ใช่กับแกล้ม ... อัน “โอชา” ... ผู้หวัง “ผล”
คิดว่า “เสือ” ... ให้ขี่หลัง ... พลั้งลืมตน
คิดโดดพ้น ... “ลงหลังเสือ” ... เมื่อสายไป

“เสือ” ทั้งหลาย ... ควรกลับ “ป่า” ... เป็นจ้าว “ป่า”
ปล่อยอาณา ... ประชาราษฎร์ ... ในเมืองใหญ่
“เสือ” ทั้งหลาย ... หาก “ปกป้อง” ... คุ้ม “ผองภัย”
ปวงประชา ... คงอุ่นใจ ... ยั่งยืนนาน

บทความนี้ ... อยากสื่อ ... ให้รู้ไว้
อย่านำให้ ... “จ้าวป่า” .... มาเพ่นพ่าน
อันเขี้ยวเล็บ .... ชั่วเคยมี ... ดีเคยผ่าน
ย่อมสยบ ... ได้ทั้งมาร ... และมวลชน !!!

42

ทั้งแดงเหลือง เรื่องของท่าน คือตำนาน
ให้ลูกหลาน คงสับสน คนรักชาติ
ศาสน์กษัติรย์ ที่ยิ่งใหญ่ ไร้อำนาจ
แต่มิอาจ ร่วมใจกัน เพราะเหตุใด

ที่ท่านเรียก และต่างร้อง ความต้องการ
มีรัฐบาล เพื่อชาติ ประชาธิปไตย
ไม่หมกเม็ด เผด็จการ กล้าเกรียงไกร
แต่แล้วใย ต้องติดคุก ไปตามกัน

เมื่อเช่นนี้ คงไม่มี ลูกเหลนหลาน
เชื่ออุดมการณ์ ที่ท่านบอก ร่วมสร้างสรรค์
อนาคต ของเด็กไทย คงหวาดหวั่น
ไม่มีวัน จะรักชาติ ประชาธิปไตย

41

เมื่อเกิดขึ้น ได้ตั้งอยู่ แล้วดับไป ในที่สุด
ยอดมนุษย์ แจ้งแก่ใจ เป็นอย่างดี

เพราะเหนือฟ้า ยังมีฟ้า อย่าลำพอง คะนองสี
แดงและเหลือง พอเสียที น้ำเงินใหญ่

ไม่สยบ ยอมสงบ อยู่ที่ตั้ง ระวังภัย
ต่อนี้ไป เล่นใต้ดิน สิ้นกฏเกณฑ์

คงกฏกรรม ทำดีชั่ว มั่วสั่งการ ด้วยมีเวร
เป็นเพียงเณร เจ้าอาวาส นั่งทับซ้อน

จนบัดนี้ ใกล้จุดดับ ลาลับกลับ เชิงตะกอน
จึงวิงวอน ตั้งสติมั่น ทุกท่านเทอญ

40

๏ รู้ไม่ดัน มันได้ ใครกันนั่น
นั่นกันใคร ได้มัน ดันไม่รู้
มีสิทธิ์รู้ สู้ฤทธิ์ ศิษย์มีครู
ครูมีสิทธิ์ ฤทธิ์สู้ รู้ศิษย์มี

๏ ผีนกผวน นวลผก นกปั่นป่วน
ป่วนปั่นนก ผกนวล ผวนนกผี
คำผวนที่ พี่ทวน สวนป่ามี
มีป่าสวน ทวนพี่ ที่ผวนคำ

๏ ซ้ำทวนคิด ทิดควร ผวนผันจิต
จิตผันผวน ควรทิด คิดทวนซ้ำ
คลายเงื่อนคำ งำเคลื่อน เงื่อนปมคลำ
คลำปมเงื่อน เคลื่อนงำ คำเงื่อนคลาย

๏ ไม้ผลลูก ผูกรน คนผิดถูถ
ถูกผิดคน รนผูก ลูกผลไม้
หลังเด่นให้ ได้เห็น เป็นเงื่อนตาย
ตายเงื่อนเป็น เห็นได้ ให้เด่นหลัง

๏ หวังความให้ ไขว้หาม ถามคำไข
ไขคำถาม หามไขว้ ให้ความหวัง
คลองเข้าหลัง คลั่งเหลา เฝ้าคอยสั่ง
สั่งคอยเฝ้า เหลาคลั่ง หลังเข้าครอง

39

๏ เเก้วร้อยกรอง ลองก้อย คอยพี่น้อง
น้องพี่คอย ก้อยลอง กรองร้อยแก้ว
กลองเสียงแผ่ว แซวเพียง เถียงห่าแห้ว
แห้วห่าเถียง เพียงแซว แผ่วเสียงกลอง

๏ ร้องเพลงรอ พอเร่ง เฉ่งใครพ่อ
พ่อใครเฉ่ง เร่งพอ รอเพลงร้อง
ธรรมไม่กรอง ม่องไกล ใจแผ้วผ่อง
ผ่องแผ้วใจ ไกลม่อง กรองใหม่ทำ

๏ ช้ำชอกสุด ชุดศอก กรอกลูกตอก
ตอกลูกกรอก ศอกชุด สุดชอกช้ำ
ในหนองน้ำ หนำน้อง ร้องเต้ยรำ
รำเต้ยร้อง น้องหนำ น้ำหนองใน

๏ ใบ้สื่อบอก ศอกบื้อ ซื่อในนอก
นอกในซื่อ บื้อศอก บอกสื่อใบ้
จนอับใจ ไอจับ รับไม่ไหว้
ไหว้ไม่รับ จับไอ ใจอับจน

๏ ขนพองหมา พาหมอง ครองพารา
ราพาครอง หมองพา หมาพองขน
คลองหลังด้น ล้นดัง ฟังเพลงบ่น
บ่นเฟลงฟัง ดังล้น ด้นหลังคลอง

๏ จ้องเพลงกล ผลเกรง เพ็งแพ่งบ่น
บ่นแพ่งเพ็ง เกรงผล กลเพลงจ้อง
ปมทุกข์จ้อง ท้องจุก ยุคร้อยกลอง
กลองร้อยยุค จุกท้อง จ้องทุกปม

38

ศิษย์สุนทร วอนกวี ศรีสยาม
ไขคำงาม ความร้อย ก้อยเกี่ยวตาม
ตามเกี่ยวก้อย ร้อยความ งามคำไข

ได้ยึดกลอน คลอนสั่น หวั่นใจร้อน
ร้อนใจหวั่น สั่นคลอน กลอนยึดได้
กวีใจ ใสผ่อง กรองคำไทย
ไทยคำกรอง ผ่องใส ใจกวี

ศรีกรุงกลอน สอนจำ คำกรองย้อน
ย้อนกรองคำ จำสอน กลอนกรุงศรี
รุกถอยมี หนีสู้ รู้หน้าที่
ที่น่ารู้ สู้หนี มีถอยรุก

ปลุกปล้ำฝัน ผันผวน ป่วนคำปั่น
ปั่นคำป่วน ผวนผัน ฝันปล้ำปลุก
แลล้มลุก ถูกผิด คิดเจ่าจุก
จุกเจ่าคิด ผิดถูก ลุกล้มแล

แขไขเจ้า ยาวเพลง เพ็งแพ่งพราว
พราวแพ่งเพ็ง เพลงยาว เจ้าไขแข
ปมเงื่อนแก้ แค่หวัง หลังถอยแก้
เเก้ถอยหลัง หวังแค่ แก้เงื่อนปม

37

กวีวิวาทด้วย......................................วรรณกรรม
กระดาษขีดเขียนธรรม.........................ลุแจ้ง
กระดานพาดก้าวนำ.............................พ้นผ่าน
กระโดดหลบความขัดแย้ง.....................แต่งแต้มตามสบาย

ขจีเขียวทุ่งกว้าง..................................พริ้วลม
ขจัดความทุกข์ระทม............................หม่นไหม้
ขจรดั่งกุหลาบดม................................โชยกลิ่น
ขยับคีย์บอร์ดไซร้................................จัดให้วางมือ


สติมีสุขแท้........................................อารมณ์
สดับฟังคำคม.....................................เอ่ยอ้าง
สตางค์จ่ายทุกข์ตรม............................หดหู่
สะกิดแฟนอารมณ์ค้าง.........................หลบข้างกอดหมอน

36

“คุณ” เป็นผู้ให้ ... เพราะ “อภัย” นั้นทำยาก
“คุณ” ทนลำบาก ... บนซากปรัก ความรุนแรง
“คุณ” ตกเป็นเหยื่อ ... เขาเยื้อยุด เหมือนฉุดแกล้ง
“คุณ” ช่างแข็งแรง ... และหนักแน่น ดั่งหินผา
“คุณ” ช่างใจดี ... เหลือเกินที่ มองช้า ช้า
“คุณ” ข่างเมตตา ... ไม่ถือสา คนบ้าบิ่น
“คุณ” ช่างสุภาพ ... ไม่หยาบคาย รู้จบสิ้น
“คุณ” ดั่งเพลงพิณ ... ที่ยินแล้ว ชุ่มฉ่ำใจ ...

35

อันลาภยศยั่วให้...........................ไหลหลง
อำนาจมากยากลง.........................ต่อต้าน
สรรเสริญทาสทรนง.......................คงอยู่
เหยียบบ่ากดหัวค้าน.......................ถึบด้วยเท้าขวา

พอเพียงมีมากน้อย.......................พอควร
ธรรมมะยึดเชิญชวน......................สุขแท้
แบ่งฝ่ายแบ่งข้างควร......................บุญบาป นาพ่อ
ดีชั่วใช่ชนะแพ้.............................แบ่งด้วยเหลืองแดง

แบ่งฝ่ายแล้วแบ่งข้าง.....................แบ่งใจ
สีส่อแสดงสิ่งใด............................อวดโอ้
แดงเหลืองใส่สีไป.........................เจ็บปวด ใจแล
แดงบวกเหลืองส้มโก้.....................ใส่แล้วสบายดี

34

อำนาจสาม ตามที่เห็น เป็นตัวหลัก
อิทธิฤทธิ์ หนักนักหนา กล้าเฉลย
อำนาจธรรม นำรุ่งเรือง เฟื่องสุดเลย
ยังมิเคย แพ้ทางใคร ในโลกา

อำนาจทุน หมุนเวียนวน จนอลเวง
น่ายำเกรง แต่ยังพ่าย ให้กังขา
เพราะชาวโลก พกกิเลส แสนระอา
มวลประชา โลภโกรธหลง จงละวาง

อำนาจเถื่อน เหมือนยิ่งใหญ่ ในโลกนี้
กำหนดชี้ ชะตากรรม ทำอวดกร่าง
สุดท้ายพบ ทางแห่งธรรม ชี้นำทาง
อยากอยู่อย่าง สงบสุข ต้อง " สันติธรรม "

อำนาจธรรม อำนาจทุน อำนาจเถื่อน
ดูเสมือน เป็นอำนาจ คู่อุปถัมภ์
ใครตกใน อำนาจใด ไปตามกรรม
ถูกชี้นำ สู่สวรรค์ -- นรกภูมิ

33

ฟ้าหลังฝน คนหลังม่าน ระคนทุกข์
เข้ากลึยุค ภัยพิบัติ ร้ายกระหน่ำ
ม่านเมฆหมอก ปกคลุม มืดเงาดำ
กระแทกใจ กระทืบซ้ำ .. ช้ำชอกทรวง

คราแหลมทอง หมองมัว ด้วยเพทพิษ
แสนดวงจิต ล้านระทม ต้องกรรมบ่วง
แตกความคิด แตกฝักฝ่าย ระทมดวง
แผ่นดินหวง ระอุร้อน .. ไทยทำไทย ?

โลภ ลาภ ยศ มัวหลง .. กิเลศครอบ
ให้เห็นผิด เป็นชอบ .. ชาติหม่นไห้
ชักนำไทย แตกฟักฝ่าย .. จะเหลือใด
ก้นบึ้งลึก ของหัวใจ .. มืดดำครอง

เหนือแผ่นดิน .. พระสยาม เทวาธิราช
ปกคุ้มชาติ คุ้มแผ่นดิน สิ้นมัวหมอง
เอกกษัตริย์ แผ่บารมี เหนือแดนทอง
ประชาราษฎร์ ร่วมแซร่ซร้อง เทอดราชัน

เหนือแผ่นดิน หลากศาสนา ชี้สงบ
ให้ผู้คน ได้พบ สานสุขสันติ์
หลักคำสอน องค์ศาสดา ล้ำค่าครัน
สมานฉันท์ ป้องสังคม .. ธรรมสำแดง

อรุณรุ่ง เบิกฟ้า ฟ้าวันใหม่
แผ่นดินไทย สว่าง เรืองรุ่งแสง
อสูรร้าย อ่อนล้า สิ้นฤทธิ์แรง
อำมหิตแฝง ค่อยคลี่คลาย .. แพ้ทางธรรม

32

๏ เป็นคนดี ที่'ให้..........เป็นคน-ดี'เอย
สอนลูก สิทธิ์มีจน.........ที่ให้
'ไม่ให้ชั่ว'นะ สน...........คำพ่อ-ครูแล
ให้อภัยกัน ได้.............ใช่ต้องขาดทุน

๏ คุณธรรมจุนค้ำโลก.....ธรรมชาติ
มนุษยโลกลืมญาติ........พี่น้อง
แย่งอยู่แย่งกินขาด........น้ำจิต น้ำใจฤๅ
รอดร่วมกันนั้นต้อง........โอบเอื้ออาทรกัน

๏ วันนี้โลกร้อนกว่า........โบราณ
ทั้งที่สุริยกาล................ดับใกล้
ผีป่าห่าซาตาน...............อมนุษย์
ลูกท่านหลานเธอไร้........สติแล้วฤๅไฉน

๏ รักวัวให้ผูกล้อม..........คอกหาย
รักลูกให้ตีหมาย.............ว่ารู้
กลัวลูกไม่สุขสบาย.........ตีลูก ใครฤๅ
เลี้ยงลูกเป็นโจรผู้...........เฒ่ารู้ความดี

๏ โจรผีหนีจากบ้าน.........ลูกโจน หนีฮา
เที่ยวเล่นเต้นรำโขน........ค่ำเช้า
หากินไม่เป็นโดน............เขาหลอก ต้มแล
คนที่ดีพอเฝ้า.................เพ่งฟ้าฟังดิน

๏ ยินไหมใจพ่อฟ้า..........กระตุกขวัญ
บ้านนอกคอกนามัน.........ทราบแล้ว
ไฮโซที่แดกดัน..............มันซาบ ซึ้งฤๅ
ใจกวิที่ผ่องแผ้ว..............กราบเท้าวิงวอน

๏ ย้อนจากภูกลับบ้าน......สานฝัน
หรือจะทอดทิ้งกัน...........ไม่สู้
นกผีกวีผัน....................ผวนกลับ
ใกล้แค่แก้ไขทู้..............เมื่อรู้ปัญหา-ปลาหัน-แม่เอยบารนี ๚

31

๏ บทกวีผีป่าด้น.............ตามฝัน
สรรพลี้หวนหัน...............กลับด้าน
ด้านกลับ ดับกานท์ฉันท์...โคลงกาพย์ กลอนฤๅ
มนต์กวิ มิกระวนค้าน.......มอบน้ำใจสนอง

๏ น้องพี่ นี่พ้องคิด..........ขอบคุณ
ร้อยกาพย์ ลาบก้อยหนุน..เถิดน้า
ร้อยโคลง โล่งคอยหมุน...กลอนกลับ
ฉันทลักษณ์ ชักถลันคว้า..จอกน้ำใจสหาย